วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD <p><strong>วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา</strong> เป็นวารสารสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่มีการเผยแพร่ผลงานวิชาการครอบคลุมเนื้อหาด้านรัฐประศาสนศาสตร์ บริหารการศึกษา บริหารธุรกิจ การจัดการ ศิลปศาสตร์ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับกระบวนการพิจารณาบทความเพื่อตีพิมพ์ ทุกบทความจะต้องได้รับการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Reviewer) จำนวน 3 ท่าน ในลักษณะปกปิด แบบไม่เห็นชื่อผู้เขียนและผู้ประเมิน (Double-blinded review) </p> วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา th-TH วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 3027-7833 บุพปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการให้สินเชื่อของ Non-Bank ในเขตกรุงเทพมหานคร https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/264988 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับประสิทธิผลการให้สินเชื่อ, นโยบายขององค์การ, มาตรการทางกฎหมาย, คุณภาพของสินเชื่อ, และพฤติกรรมผู้บริโภคของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานคร 2) ปัจจัย<br />เชิงสาเหตุของนโยบายขององค์การ มาตรการทางกฎหมาย คุณภาพของสินเชื่อ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการให้สินเชื่อของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานคร และ 3) นำเสนอแนวทางการให้สินเชื่อของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานคร การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 360 ตัวอย่าง กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้หลักเกณฑ์ 20 เท่าของตัวแปรสังเกต สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายแผนและนโยบายด้านการปล่อยกู้ของธนาคารแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายแผนและนโยบายด้านการกำหนดดอกเบี้ย ผู้บริหารด้านสินเชื่อของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน จำนวนทั้งสิ้น 17 คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิผลการให้สินเชื่อของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานคร นโยบายขององค์การ มาตรการทางกฎหมาย คุณภาพของสินเชื่อ และพฤติกรรมผู้บริโภค อยู่ในระดับมากทั้งหมด 2) มาตรการทางกฎหมายมีอิทธิพลเชิงสาเหตุรวมต่อประสิทธิผลการให้สินเชื่อของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานครมากที่สุด รองลงมา ตามลำดับ ได้แก่ คุณภาพของสินเชื่อ นโยบายขององค์การ และพฤติกรรมของผู้บริโภค และ 3) แนวทางประสิทธิผลการให้สินเชื่อของ non-bank ในเขตกรุงเทพมหานคร มีลักษณะเป็นภาพแผนภูมิประกอบด้วย มาตราการทางกฎหมายที่มีอิทธิพลรวมมากที่สุด เป็นฐานผลักดันอยู่ล่างสุด มีคุณภาพของสินเชื่อและนโยบายขององค์การอยู่ตรงกลาง และพฤติกรรมผู้บริโภคช่วยส่งเสริมอยู่ในระดับบน</p> ศลิษา ชินสุข ทวี แจ่มจำรัส ชยภรณ์ ธนาบริบูรณ์ สุดา สุวรรณาภิรมย์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 600 612 ความสัมพันธ์ระหว่างระหว่างคุณภาพการสอบบัญชีและอัตราส่วนหนี้สิน ที่มีต่อผลการดำเนินงานและการตกแต่งกำไร ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่ม SET 50 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/266614 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการสอบบัญชีและอัตราส่วนหนี้สินที่มีต่อการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET50 และ 2)ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการสอบบัญชีและอัตราส่วนหนี้สินที่มีต่อการตกแต่งกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET50 การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ รวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากงบการเงิน แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) และฐานข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มดัชนี SET 50 เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างปี 2562-2564 รวมข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาทั้งสิ้น 150 ข้อมูล นำมาวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ซึ่งสถิติเชิงอนุมานแบ่งเป็น การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 เพื่อทดสอบสมมติฐานการวิจัย</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการสอบบัญชีและอัตราส่วนหนี้สินที่มีต่อการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET50 พบว่า คุณภาพการสอบบัญชี ด้าน ขนาดของบริษัทสอบบัญชี มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลการดำเนินงานด้าน อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ส่วนคุณภาพการสอบบัญชีด้านระยะเวลาการเป็นผู้สอบบัญชีในบริษัทลูกค้า ไม่มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ<br />ทางสถิติ และ อัตราส่วนหนี้สินด้านอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ทางลบกับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 แต่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และ 2) ผลความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการสอบบัญชีและอัตราส่วนหนี้สินที่มีต่อการตกแต่งกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET50 พบว่า คุณภาพการสอบบัญชี ด้าน ขนาดของบริษัทสอบบัญชี มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตกแต่งกำไรที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 ในขณะที่ที่คุณภาพการสอบบัญชีด้านระยะเวลาการเป็นผู้สอบบัญชีในบริษัทลูกค้าและอัตราส่วนหนี้สินไม่มีความสัมพันธ์กับการตกแต่งกำไรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ </p> กุลธิดา ศรีเผือก จิรพงษ์ จันทร์งาม Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 613 625 ความสัมพันธ์ระหว่างการกำกับดูแลกิจการ และคุณภาพการสอบบัญชี กับผลการดำเนินงาน และการตกแต่งกำไรผ่านรายการคงค้าง ของกลุ่ม SET50 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/266617 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการกำกับดูแลกิจการและคุณภาพการสอบบัญชีกับผลการดำเนินงาน ของกลุ่ม SET50 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ 2)เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการกำกับดูแลกิจการและคุณภาพการสอบบัญชีกับการตกแต่งกำไรผ่านรายการคงค้าง ของกลุ่ม SET50 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 50 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างปีพ.ศ.2562 - พ.ศ.2564 โดยใช้ข้อมูลรายงานทางการเงินย้อนหลัง 3 ปี ได้จำนวนข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาทั้งสิ้น 150 ข้อมูล ยกเว้นบริษัทที่มีข้อมูล ไม่ครบถ้วนและอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การกำกับดูแลกิจการ ด้านคะแนนการกำกับดูแลกิจการ มีผลทางบวกกับผลการดำเนินงานวัดค่าจากอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) 2) การกำกับดูแลกิจการ ด้านจำนวนครั้งในการประชุมมีผลทางบวกกับรายการคงค้างทางบัญชี ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 3) คุณภาพการสอบบัญชี ด้านขนาดของบริษัทสอบบัญชีมีผลทางบวกกับผลการดำเนินงานวัดค่าจากอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) และ 4) คุณภาพการสอบบัญชี ด้านค่าธรรมเนียมการสอบบัญชีมีผลทางบวกกับรายการคงค้างทางบัญชีที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05</p> พูมพงศ์ ภูมมะภูติ กนกศักดิ์ สุขวัฒนาสินิทธิ์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 626 638 ผลกระทบของทักษะความรู้ความสามารถและสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่มีต่อประสิทธิภาพการตรวจสอบภายในกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/266824 <p>การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของทักษะความรู้ความสามารถและสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่มีต่อประสิทธิภาพการตรวจสอบภายใน กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับระดับความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ จำนวน <br />336 ราย โดยมีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 183 ราย ใช้วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณด้วยเครื่องมือ คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย ร้อยละสถิติเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทำวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ในภาพรวมและรายด้านของทักษะความความรู้ความสามารถ คือด้านความเชี่ยวชาญของวิชาชีพ ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านทักษะในการสื่อสาร อยู่ในระดับมาก และสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงาน คือ ด้านการสนับสนุนจากผู้บริหาร ด้านความเป็นอิสระของผู้ตรวจสอบภายใน ด้านการฝึกอบรมและการพัฒนา อยู่ในระดับมาก และประสิทธิภาพการตรวจสอบภายใน ภาพรวมและรายด้าน คือ ด้านคุณภาพของงาน ด้านปริมาณของงาน ด้านเวลา ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ อยู่ในระดับมาก และพบว่าภาพรวมของทักษะความความรู้ความสามารถและภาพรวมของสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่มีต่อประสิทธิภาพการตรวจสอบภายในกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ในทุกด้านหรือตัวแปรอิสระมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับตัวแปรตาม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p> วนิดา วงศ์ถาวร ดารณี เอื้อชนะจิต Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 639 651 แนวทางกำหนดค่าขนส่งสินค้าทางทะเลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/269193 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสถานการณ์การขนส่งสินค้าทางทะเลในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และ 2) นำเสนอแนวทางการกำหนดค่าขนส่งสินค้าทางทะเลที่เหมาะสมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้แนวทางการวิจัยแบบผสมผสาน โดยมีผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 17 ราย จากการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการแบบเจาะจง ได้แก่ ผู้บริหารบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการเดินเรือ ผู้ประกอบการบริษัทนำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส และตัวแทนสมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาและนำเสนอเชิงพรรณนา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) สถานการณ์การขนส่งสินค้าทางทะเลในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องมาจากประเทศต้นทางทำการปิดประเทศทำให้การส่งออกสินค้าทางทะเลเกิดการชะลอตัว และ 2) แนวทางการกำหนดค่าขนส่งสินค้าทางทะเล มีข้อเสนอ ดังนี้ (1) ผลักดันประเด็นการกำหนดค่าขนส่งสินค้าทางทะเลให้เข้าสู่เวทีนานาชาติให้แก้ไขปัญหาร่วมกัน (2) หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางการค้าในแต่ละประเทศ ต้องให้ความสำคัญและพัฒนากลไกควบคุมการแข่งขันและการกำหนดอัตราค่าระวางและค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าทางทะเล (3) การกำหนดนโยบายด้านราคาของผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมถึงมีการสร้างเวทีให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน (4) ยกระดับการจัดการระบบข้อมูลตู้สินค้าเข้าออกรายวันอย่างใกล้ชิด และ (5) พัฒนาระบบแพลตฟอร์มการค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ</p> ธราญา ลุ่ยพรสุขสว่าง ชาญเดช เจริญวิริยะกุล สโรชินี ศิริวัฒนา สุดา สุวรรณาภิรมย์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 652 661 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/269192 <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับของประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ และ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ หัวหน้างานและพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน จำนวน 400 คน ใช้วิธีคัดเลือกแบบระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุ (multiple regression analysis: MRA) ผลการวิจัยพบว่า 1) โรงงานอะไหล่รถยนต์มีประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ภาพรวม อยู่ในระดับมาก โดยมักจะมีวิธีในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการทำงานมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ การส่งมอบสินค้าที่ผลิตทันต่อความต้องการของลูกค้าทั้งภายในและภายนอก มักจะค้นพบวิธีการทำงานให้มีประสิทธิผลมากกว่าเดิม มักจะทำงานได้ดีกว่าโดยเฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ และมักจะผลิตผลงานที่ดีเลิศ ตามลำดับ และ 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ คือ การพัฒนาบุคคล ข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้ ผู้ประกอบการโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์สามารถใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการบริหารจัดการองค์กร และการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานและองค์กรมากขึ้น</p> พรศักดิ์ พรสุขสว่าง ชาญเดช เจริญวิริยะกุล สโรชินี ศิริวัฒนา สุดา สุวรรณาภิรมย์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 662 670 แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยุคปกติใหม่ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/263651 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน 2) ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน และ 3) นำเสนอแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน การวิจัยเชิงปริมาณมีกลุ่มตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวน 400 ตัวอย่าง กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้หลักเกณฑ์ 20 เท่าของตัวแปรสังเกต สุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึก ประกอบด้วย ข้าราชการระดับผู้บริหารในระดับชาติและท้องถิ่นที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย ส่วนผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวนทั้งสิ้น 17 คน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืนในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การมีส่วนร่วม การส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดการแหล่งท่องเที่ยว และ พฤติกรรมการท่องเที่ยว อยู่ในระดับมากทั้งหมด 2) การมีส่วนร่วมมีอิทธิพลเชิงสาเหตุโดยรวมต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยุคปกติใหม่มากที่สุด รองลงมา พฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการจัดการแหล่งท่องเที่ยว ตามลำดับ 3) แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืนในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในยุคปกติใหม่ มีลักษณะเป็นภาพแผนภูมิประกอบด้วย การมีส่วนร่วมที่มีอิทธิพลรวมมากที่สุด เป็นฐานผลักดันอยู่ล่างสุด มีพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวและการส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ตรงกลาง และการจัดการแหล่งท่องเที่ยวช่วยส่งเสริมอยู่ในระดับบน </p> ธนกร จินดาดวงรัตน์ ทวี แจ่มจำรัส ชัยเดช ช่างเพียร ชัยวัฒน์ รวิโรจนวงศ์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 671 685 ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทางออนไลน์ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/269195 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทางออนไลน์ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ (6Ps) ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทางออนไลน์ ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากประชากรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เคยมีประสบการณ์ซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทางออนไลน์ จำนวน 400 ราย วิเคราะห์ด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ถดถอยพหุ<br />ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านราคา ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านการรักษาความเป็นส่วนตัว ละด้านการให้บริการส่วนบุคคล ตามลำดับ 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทางออนไลน์ คือ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และปัจจัยด้านการให้บริการส่วนบุคคล ตามลำดับ</p> นฤชิต สุนทรกิติ เอื้อมพร ศิริรัตน์ สโรชินี ศิริวัฒนา Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 686 695 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากสารสกัดเนื้อผลมะขามป้อมในรูปแบบกัมมี่ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/269584 <p>บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสถานการณ์และความต้องการของผลิตภัณฑ์จากสารสกัดมะขามป้อมในรูปแบบกัมมี่ 2) พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดมะขามป้อมในรูปแบบกัมมี่ 3) เปรียบเทียบระดับสภาพผิวหน้าก่อนและหลังการใช้ผลิตภัณฑ์ จากสารสกัดมะขามป้อมในรูปแบบกัมมี่ และ 4) ประเมินความพึงพอใจของอาสาสมัครที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือระยะที่ 1 ขั้นเตรียมการวิเคราะห์สภาพปัญหา ระยะที่ 2 ขั้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากสารสกัดเนื้อผลมะขามป้อมในรูปแบบกัมมี่ ระยะที่ 3 ขั้นตอนการทดลองใช้ และระยะที่ 4 ขั้นการประเมินผล ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย และเปรียบเทียบข้อมูลสีผิว ความกระจ่างใส ก่อนและหลังการเข้าร่วมโครงการวิจัย โดยใช้สถิติ Paired t-test </p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มะขามป้อมในรูปแบบต่าง ๆ แต่มีความเปรี้ยวทำให้ไม่ได้รับความนิยมมาก 2) ผลการพัฒนาได้ผลิตภัณฑ์กัมมี่ที่ผสมน้ำมะขามป้อมเข้มข้นและสารสกัดอื่น ๆ ที่มีคุณค่าโภชนาการ 3) การทดลองแสดงผลแสดงถึงปรับปรุงทั้งด้านความขาวและคะแนนสวยงามที่มีความสำคัญทางสถิติ 4) คุณภาพและความพึงพอใจในการใช้งานได้รับความพอใจมากถึงปานกลางโดยอาสาสมัครเป็นหลัก</p> ดวงสมร รุ่งสวรรค์โพธิ์ รุ่งรัตนา เจริญจิตต์ ณัฏฐชัย เอกนราจินดาวัฒน์ ณัฐริกานต์ แก้วโกลฐาฏ์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 696 709 การพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระชายน้ำผึ้งมะนาวในรูปแบบ Jelly Stick https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/269526 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหาและความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระชายน้ำผึ้งมะนาวในรูปแบบ Jelly Stick 2) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระชายน้ำผึ้งมะนาวในรูปแบบ Jelly Stick 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของอาสาสมัครที่ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระชายน้ำผึ้งมะนาวในรูปแบบ Jelly Stick การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา ด้วยวิธีการศึกษากลุ่มเดียววัดหลายครั้ง กลุ่มตัวอย่างคือ อาสาสมัครเพศชายและหญิงผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคภูมิแพ้ระบบหายใจส่วนบน ที่มีอาการคัดจมูก น้ำมูกใสไหลลงคอ ไอ จาม คันจมูก และไม่มีไข้ ซึ่งสมัครใจเข้ารับการรักษาในทัชอินโนเวทีฟคลินิกแพทย์แผนไทยจำนวน 30 คน ซึ่งมีเกณฑ์การคัดกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิตินันพาราเมตริก เนื่องจากผลของกลุ่มตัวอย่าง ที่ได้ลักษณะข้อมูลเมื่อทดสอบมีการกระจายแบบไม่เป็นปกติโดย ใช้สถิติ Wilcoxon</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระชายน้ำผึ้งมะนาวที่ขายมีทั้งแบบพร้อมดื่มและแบบชนิดผง ปัญหาคือมีตะกอนในน้ำ และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกใส ไอ จาม ได้ดีโดยคงไว้ซึ่งรสชาติความเป็นเอกลักษณ์ของกระชายน้ำผึ้งมะนาวและไม่มีตะกอนเนื้อสมุนไพรในขวดหรือเมื่อนำมาชงแล้ว2) พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่เป็น Jelly Stick เพื่อลดปัญหาตะกอนผงสมุนไพรที่ไม่ละลายและยังคงส่วนผสมจากสารสกัดกระชายที่มีคุณค่าทางโภชนาการ 3) ความพึงพอใจต่อระดับอาการทางระบบทางเดินหายใจส่วนบน เปรียบเทียบระหว่าง สัปดาห์ที่ 1 กับสัปดาห์ที่ 4 สัปดาห์ที่ 1 กับ สัปดาห์ที่ 8 มีแนวโน้มพึงพอใจสูงขึ้น</p> ณัฐริกานต์ แก้วโกลฐาฏ์ ดวงสมร รุ่งสวรรค์โพธิ์ อานุภาพ คีรีพัฒน์ ณัฏฐชัย เอกนราจินดาวัฒน์ สุภาพ พงษ์เพ็ง Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 710 721 อิทธิพลของคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีและกระบวนการจัดการที่ส่งผลต่อการบริหารงบประมาณแบบเพิ่มประสิทธิภาพของสถานศึกษาสังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/269255 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาอิทธิพลของคุณภาพข้อมูลทางการบัญชีที่ส่งผลต่อการบริหารงบประมาณแบบเพิ่มประสิทธิภาพของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2) ) เพื่อศึกษากระบวนการจัดการที่ส่งผลต่อการบริหารงบประมาณแบบเพิ่มประสิทธิภาพของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มบริหารงานงบประมาณ และ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ จำนวน 237 ราย ใช้การคำนวณหากลุ่มตัวอย่างจากสูตรของ Taro Yamane ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 กำหนดค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ 0.05 เครื่องมีที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม โดยมีการวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงอนุมาน โดยการวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การยอมรับข้อมูลทางการบัญชี มีอิทธิพลต่อการบริหารงบประมาณแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านความถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ด้านมีความยุติธรรม ด้านความโปร่งใสตรวจสอบได้ ด้านการสร้างการมีส่วนร่วม ด้านกำหนดเป้าหมายและมาตรฐานได้ชัดเจน ด้านผลสัมฤทธิ์ของงานเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 0.05</p> ฐิตาภรณ์ ใจดี มัตธิมา กรงเต้น Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 722 731 หลักนิติธรรมกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการร่างกฎหมาย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/268869 <p>Studying the rule of law and public participation in the lawmaking process under a democratic regime with the King as Head of State is essential in setting the framework of all types of laws that affect the enforcement of people within the country and promote genuine public participation. The objectives of this study are to 1) study the definition, meaning, and origin of the words "Rule of law" and "Rule of legal state" and 2) Study the relationship between the rule of law and the principles of human rights. Principles of good governance and democratic processes and public participation, and 3) Study problems and guidelines for promoting public participation in the legislative process according to the rule of law using a study method in the form of Document Research in which the researcher studies and researches information, especially information that is documents or text. I have written an Analysis and synthesis of knowledge from various documents and found that direct political participation of citizens by proposing laws has problems and obstacles during the process of submitting laws according to the Act on Proposing Laws B.E. 2013 and the problems and obstacles in the consideration process that are caused by both the executive and legislative branches playing a high role in the Thai legislative process. In the process of proposing laws by the people, it is seen that relevant laws can be amended to push the process forward. Bills with citizens' signatures can effectively push through legislation. Solving any problem must be based on the correct conceptual framework regarding the rule of law, the rule of legal state, human rights principles, and good governance. It proposes a solution in two dimensions: the first short-term dimension is legal amendments and new laws, and the long-term second dimension is to promote public participation in the legislative process by strengthening citizens.</p> รุ่งรัตนา เจริญจิตต์ ภาณุมาศ ขัดเงางาม Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 732 746 ผลกระทบของอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรและอัตราส่วนโครงสร้างทางการเงินที่มีต่อราคาหลักทรัพย์และมูลค่าทางการตลาดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET 50 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/266864 <p>งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลกระทบของอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรที่มีต่อราคาหลักทรัพย์และมูลค่าทางการตลาดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET 50 และ 2) ศึกษาผลกระทบของอัตราส่วนโครงสร้างทางการเงินที่มีต่อราคาหลักทรัพย์และมูลค่าทางการตลาดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET 50 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิจากกลุ่มตัวอย่างคือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่ม SET 50 เก็บข้อมูลระหว่างปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ.2565 รวมระยะเวลา 5 ปี จำนวน 43 บริษัท ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษารวมทั้งสิ้น 215 ข้อมูล โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติเชิงพรรณนาเพื่ออธิบายลักษณะทั่วไปของข้อมูล การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณในการทดสอบสมมติฐาน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรไม่มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ แต่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางการตลาด โดยที่ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นมีผลกระทบทางบวกต่ออัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชีที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์มีผลกระทบทางบวกต่ออัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชี และอัตรากำไรขั้นต้นมีผลกระทบทางลบต่ออัตราเงินปันผลตอบแทนที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 2) อัตราส่วนโครงสร้างทางการเงินที่มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ ได้แก่ อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์รวมที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 และอัตราส่วนโครงสร้างทางการเงินที่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางการตลาด ได้แก่ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นมีผลกระทบทางลบต่ออัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชี และมีผลกระทบทางบวกต่ออัตราเงินปันผลตอบแทนนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และ 0.05 ตามลำดับ</p> วริยา สุวภิญโญภาส ดารณี เอื้อชนะจิต Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 747 763 แนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ของนักลงทุนรุ่นใหม่ในประเทศไทย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/SSRUJPD/article/view/268340 <p>บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของนักลงทุนรุ่นใหม่ในประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า แนวทางการส่งเสริมประกอบด้วยแนวทางสำคัญ 3 ประการ เรียกว่า LMN MODEL ประกอบด้วย 1) ถูกกฎ (Law) คือต้องลงทุนให้เป็นไปตามกฎหมาย ถูกกฎหมายและภายใต้กฎหมายาการลงทุนโดยตรง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2) ถูกตลาด (Market) หมายถึง นักลงทุนต้องทำการศึกษาให้รู้เข้าใจตลาดทุนในแต่ละประเภทให้ดีก่อนทำการลงทุนว่าแต่ละประเภทนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ผลตอบแทนการลงทุนเป็นอย่างไร เป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน และ 3) ถูกจริต (Need) หมายถึง ตรงตามความต้องการลงทุนของตน ผู้ลงทุนต้องรู้เป้าหมายและวัตถุประสงค์การลงทุนของตนให้ชัด เพื่อการตัดสินใจที่ดีอันนำสู่เป้าหมายที่ต้องการ กล่าวโดยสรุป แนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของนักลงทุนรุ่นใหม่ในประเทศไทย คือ “ถูกกฎหมาย ถูกตลาด ถูกจริต” หรือ LMN MODEL</p> สุมิตร์ อโรรา มณีกัญญา นากามัทสึ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://creativecommons.org/licenses/by-nc/4.0 2023-12-31 2023-12-31 6 3 588 599