วารสารภาษาและวรรณคดีไทย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit <p><em> วารสารภาษาและวรรณคดีไทย</em> เป็นวารสารวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ของศูนย์วิจัยภาษาและวรรณคดีไทย ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกตีพิมพ์เผยแพร่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านภาษาไทย วรรณคดีไทย วรรณกรรมไทย คติชนวิทยา รวมทั้งศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ภาษาศาสตร์ มานุษยวิทยา การเรียนการสอนภาษาไทย และภาษาต่างประเทศที่สัมพันธ์กับภาษาไทย</p> <p><em> วารสารภาษาและวรรณคดีไทย</em> อยู่ใน TCI กลุ่มที่ 2 (ปี 2565-2567) เป็นวารสารราย 6 เดือน เผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ (ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน และ ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม) <em>กองบรรณาธิการวารสารภาษาและวรรณคดีไทย</em> ยินดีรับพิจารณาต้นฉบับผลงานวิชาการในศาสตร์สาขาดังกล่าวข้างต้น ที่เป็นบทความวิจัย บทความวิชาการ บทความปริทัศน์ และบทปริทัศน์หนังสือ ซึ่งเขียนเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ผลงานที่ส่งมาให้วารสารพิจารณาตีพิมพ์ต้องไม่เคยพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการฉบับใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น </p> <p> บทความที่ส่งมาให้<em>วารสารภาษาและวรรณคดีไทย</em>พิจารณาตีพิมพ์ จะได้รับการกลั่นกรองคุณภาพแบบไม่เปิดเผยตัวตนสองทาง (double-blind peer review) โดยผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 3 คน ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขานั้นหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง ผลการพิจารณาจากกองบรรณาธิการถือเป็นที่สุด</p> <p> <strong><em>วารสารภาษาและวรรณคดีไทย</em>ไม่มีนโยบายเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ จากผู้เขียนบทความในทุกขั้นตอนของกระบวนการพิจารณาและตีพิมพ์เผยแพร่</strong><br /><br /> ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีที่ 38 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2564) วารสารภาษาและวรรณคดีไทยได้ยกเลิกการจัดพิมพ์รูปเล่มและดำเนินการเผยแพร่ในรูปแบบออนไลน์เท่านั้น</p> <p><br /><strong style="box-sizing: border-box; font-weight: bold; color: #333333; font-family: Arial, Helvetica, sans-serif, Geneva; font-size: 14px; font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; background-color: #ffffff; text-decoration-thickness: initial; text-decoration-style: initial; text-decoration-color: initial;">ISSN (เดิม)</strong><br /> ISSN 0857 - 037X (Print)<br /> ISSN 2773 - 9872 (Online)<br /><br /><strong style="box-sizing: border-box; font-weight: bold; color: #333333; font-family: Arial, Helvetica, sans-serif, Geneva; font-size: 14px; font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; background-color: #ffffff; text-decoration-thickness: initial; text-decoration-style: initial; text-decoration-color: initial;">ISSN (ใหม่) เริ่มใช้ตั้งแต่ 26 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป</strong></p> <p> ISSN 3088-1641 (Online)</p> Faculty of Arts, Chulalongkorn University th-TH วารสารภาษาและวรรณคดีไทย คำไทย-คำเทศ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit/article/view/281702 ภัคจิรา ธรรมมานุธรรม Copyright (c) 2025 วารสารภาษาและวรรณคดีไทย 2025-06-28 2025-06-28 42 1 (มกราคม-มิถุนายน) 218 226 ขัตติยนารีศรีรัตนโกสินทร์: https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit/article/view/272297 <p><span style="color: #000000; font-family: 'Times New Roman'; font-size: medium; font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; font-weight: 400; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; background-color: #ffffff; text-decoration-thickness: initial; text-decoration-style: initial; text-decoration-color: initial; display: inline !important; float: none;">บทความนี้มุ่งศึกษาประกาศเฉลิมพระยศเจ้านายฝ่ายในสมัยรัตนโกสินทร์จำนวน 81 องค์ โดยใช้แนวคิดเรื่องภาพตัวแทนเป็นกรอบในการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า ภาพตัวแทนที่สำคัญของเจ้านายฝ่ายในคือ ภาพตัวแทนขัตติยนารี และภาพตัวแทนผู้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ ซึ่งมีทั้งลักษณะที่สืบเนื่องและมีพลวัต ลักษณะดังกล่าวเกิดจากปัจจัยทางการเมืองและสังคมอย่างน้อย 2 ประการ คือการเปลี่ยนแปลงมโนทัศน์เกี่ยวกับสตรี และสถานการณ์ทางการเมืองในแต่ละช่วง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้กลวิธีการประพันธ์ที่สำคัญ 2 กลวิธี คือ กลวิธีการเล่าเรื่อง และ กลวิธีการใช้ภาษา ในการประกอบสร้างภาพตัวแทนของเจ้านายฝ่ายในอย่างเป็นระบบและมีวรรณศิลป์ กลวิธีเหล่านี้แสดงให้เห็นความสอดคล้องกับกลวิธีการประพันธ์วรรณกรรมไทยหลายประเภท เช่น วรรณกรรมศาสนาร้อยแก้ว วรรณกรรมชีวประวัติ และวรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติ</span></p> จิรเมธ คูไพริน ใกล้รุ่ง อามระดิษ Copyright (c) 2025 วารสารภาษาและวรรณคดีไทย 2025-06-28 2025-06-28 42 1 (มกราคม-มิถุนายน) 1 66 การศึกษาถ้อยคำ ช่างมัน ตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์ชาติพันธุ์ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit/article/view/273027 <p><span style="color: #000000; font-family: 'Times New Roman'; font-size: medium; font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; font-weight: 400; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; background-color: #ffffff; text-decoration-thickness: initial; text-decoration-style: initial; text-decoration-color: initial; display: inline !important; float: none;">ช่างมัน เป็นถ้อยคำที่คนไทยนิยมใช้จนติดปาก ปรากฏในหลายสถานการณ์เพื่อสื่อความหมายและเจตนาที่แตกต่างกัน และน่าจะสะท้อนวิธีการมองโลกบางประการของคนไทย บทความวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความหมายตามปริบทและหน้าที่ทางวัจนปฏิบัติศาสตร์ของ ช่างมัน รวมทั้งวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ช่างมัน กับปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรม โดยใช้แนวทางวัจนปฏิบัติศาสตร์ชาติพันธุ์ (ethnopragmatics) ข้อมูลทั้งสิ้น 161 ตัวอย่างมาจากบทสนทนาในชีวิตประจำวัน บทสนทนาในสื่อ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัยพบว่า ช่างมัน มีความหมายตามปริบท 6 ความหมาย ได้แก่ 1) ผู้พูดให้ผู้ฟังและ/หรือตนเองปล่อยวาง 2) ผู้พูดให้อภัยผู้ฟัง 3) ผู้พูดต้องการปล่อยเรื่องนั้นไป 4) ผู้พูดปล่อยไป เนื่องจากไม่สามารถทำอะไรได้ แม้จะไม่พอใจเรื่องนั้น 5) ผู้พูดไม่สนใจสิ่งนั้น 6) ผู้พูดยังไม่อยากคิดหรือทำเรื่องที่เอ่ยถึงในขณะนั้น และมีหน้าที่ทางวัจนปฏิบัติศาสตร์ 6 หน้าที่ ได้แก่ 1) เพื่อปลอบให้ผู้ฟังและ/หรือตนเองคลายกังวล 2) เพื่อตอบรับคำขอโทษ 3) เพื่อยุติการสนทนาที่มีความขัดแย้ง 4) เพื่อแสดงว่าผู้พูดไม่พอใจ 5) เพื่อแสดงว่าผู้พูดไม่สนใจ 6) เพื่อแสดงว่าผู้พูดต้องการเลื่อนหรือหยุดเรื่องนั้นไปก่อน ทั้งหมดมีจุดประสงค์หลัก คือ ต้องการปล่อยวางสิ่งที่ทำให้เกิดความกังวล ข้อมูลในงานวิจัยเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับ ช่างมัน คือความคิดทางพุทธศาสนาเรื่อง ปลง ซึ่งเกี่ยวกับการยอมรับและปล่อยวาง</span></p> นภสร ตั้งวิบูลยกิจ ณัฐพร พานโพธิ์ทอง Copyright (c) 2025 วารสารภาษาและวรรณคดีไทย 2025-06-28 2025-06-28 42 1 (มกราคม-มิถุนายน) 67 122 ร้ายเพราะรัก?: https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit/article/view/278916 <p><span style="color: #000000; font-family: 'Times New Roman'; font-size: medium; font-style: normal; font-variant-ligatures: normal; font-variant-caps: normal; font-weight: 400; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; background-color: #ffffff; text-decoration-thickness: initial; text-decoration-style: initial; text-decoration-color: initial; display: inline !important; float: none;">บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประกอบสร้างภาพตัวแทน ความเป็นชายที่เป็นพิษที่ได้รับการนำเสนอให้โรแมนติกในนวนิยายรักแนวมาเฟียของไทย 5 เรื่อง ได้แก่ เสน่หามาเฟีย ทัณฑ์รักมาเฟีย ทาสสวาทจอมมาเฟีย พ่ายรักสามีมาเฟีย และ มาเฟียบงการรัก ตลอดจนศึกษากลวิธีทางวรรณศิลป์ตามขนบนวนิยายรักและบริบทสังคมวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับการประกอบสร้างภาพตัวแทนข้างต้น ผลการศึกษาพบว่าตัวบทนำเสนอภาพตัวแทนของมาเฟีย 3 ลักษณะ ได้แก่ ภาพตัวแทนของมาเฟีย ผู้เห็นผู้หญิงเป็นทรัพย์สิน ภาพตัวแทนของมาเฟียผู้มีรักครั้งแรก และภาพตัวแทนของ มาเฟียผู้ปลดปล่อยความปรารถนาทางเพศ โดยประกอบสร้างผ่านกลวิธีทางวรรณศิลป์อันได้แก่การสร้างโครงเรื่อง การสร้างตัวละคร และการใช้มุมมอง ทั้งยังสัมพันธ์กับบริบทสังคมวัฒนธรรมใน 4 ประเด็น ได้แก่ มายาคติเกี่ยวกับมาเฟียในวรรณกรรมและ สื่อประชานิยม ปิตาธิปไตยในสังคมทุนนิยม วัฒนธรรมข่มขืนในวรรณกรรมและ สื่อประชานิยม และวัฒนธรรมการอ่านนวนิยายรักของผู้หญิง ด้วยเหตุนี้ ความเป็นชาย ที่เป็นพิษจึงได้รับการนำเสนอให้โรแมนติกสอดคล้องกับขนบนวนิยายรัก ซ้ำยังมี ความลื่นไหลจากการปรับแปลงให้สอดรับกับบรรทัดฐานครอบครัวชนชั้นกลางเพื่อให้ผู้อ่านในสังคมปิตาธิปไตยคล้อยตามและยอมรับได้</span></p> คันธรัต พรหมวงษ์ วันชนะ ทองคำเภา Copyright (c) 2025 วารสารภาษาและวรรณคดีไทย 2025-06-28 2025-06-28 42 1 (มกราคม-มิถุนายน) 123 173 การศึกษาเชิงวิเคราะห์เอกสารต้นฉบับตำรายาแพทย์แผนไทยวัดคลองแค ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit/article/view/278503 <p>บทความนี้เป็นการวิจัยเชิงเอกสารผสานกับการวิจัยเชิงปริมาณ มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาสารัตถะและความถี่ของเภสัชวัตถุจากตำรายาแพทย์แผนไทยวัดคลองแค ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 6 ฉบับ ผลการวิจัยพบตำรับยาที่ใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ จำนวน 1,752 ตำรับ สามารถจำแนกสารัตถะตามสรรพคุณที่พบได้จำนวน 25 ประเภท โดยพบตำรับยารักษากลุ่มโรคฝีมากที่สุด จำนวน 487 ตำรับ ด้านเภสัชวัตถุ พบพืชวัตถุจำนวน 872 ชนิด โดยพบการใช้ขิงมากที่สุด จำนวน 310 ครั้ง พบสัตว์วัตถุจำนวน 115 ชนิด โดยพบการใช้งูเหลือมมากที่สุด จำนวน 101 ครั้ง พบธาตุวัตถุจำนวน 59 ชนิด โดยพบการใช้เกลือมากที่สุด จำนวน 113 ครั้ง พบน้ำกระสายยาจำนวน 191 ชนิด โดยพบการใช้น้ำมากที่สุด จำนวน 659 ครั้ง ผลการวิจัยครั้งนี้จะเป็นฐานข้อมูลทางการแพทย์แผนไทยสำหรับวัดคลองแค จังหวัดพิษณุโลก และเสนอแนะให้มีการนำผลการวิจัยในครั้งนี้พัฒนาทางการแพทย์แผนไทยต่อไป</p> กรวิชญ์ บุญจันทร์ ภัครพล แสงเงิน Copyright (c) 2025 วารสารภาษาและวรรณคดีไทย 2025-06-28 2025-06-28 42 1 (มกราคม-มิถุนายน) 174 217 บทบรรณาธิการ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/THlanglit/article/view/281698 ชัยรัตน์ พลมุข Copyright (c) 2025 วารสารภาษาและวรรณคดีไทย 2025-06-28 2025-06-28 42 1 (มกราคม-มิถุนายน) (1) (1)