วารสารเกษมบัณฑิต https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu Kasem Bundit Journal en-US <p>ทัศนคติ ความคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารเกษมบัณฑิตฉบับนี้เป็นของผู้เขียน โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตและบรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องมีความเห็นพ้องด้วย</p> journal@kbu.ac.th (Assoc.Prof. Nathabhol Khanthachai, Ph.D.) journal@kbu.ac.th (Tippanad Chareerak, Ph.D.) Thu, 04 Dec 2025 16:14:46 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 ความพึงพอใจ และความภักดีของผู้บริโภคในระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/279839 <p><strong>วัตถุประสงค์ </strong>เพื่อศึกษาอิทธิพลด้านความน่าเชื่อถือของตราสินค้า บริการปัญญาประดิษฐ์ ความสะดวกสบายส่วนบุคคล การปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับความต้องการส่วนบุคคล และการตลาดแบบผสมผสานทุกช่องทาง ต่อความพึงพอใจของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าในพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจของผู้บริโภค กับความภักดีต่อการซื้อสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร <strong>วิธีวิจัย</strong> การสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง ด้วยแบบสอบถามจำนวน 400 ชุด ส่งแบบสอบถามถึงผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร โดยการติดต่อทาง google form และได้รับแบบสอบถามคืนทั้งหมด <strong>ผลการวิจัย </strong>การตลาดแบบผสมผสานทุกช่องทาง ความน่าเชื่อถือของตราสินค้า และบริการปัญญาประดิษฐ์ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับความพึงพอใจของผู้บริโภค (p&lt;0.05) ความพึงพอใจของผู้บริโภคมีอิทธิผลต่อ ความภักดีต่อการซื้อสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีนัยสำคัญ (p&lt;0.01) <strong>นัยทางทฤษฎี/นโยบาย </strong>ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถพิจารณานำผลการวิจัยเป็นแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ การตลาดแบบผสมผสานทุกช่องทาง ความน่าเชื่อถือของตราสินค้าและบริการปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทต่อความพึงพอใจของผู้บริโภค ซึ่งผู้ค้าปลีกควรนำมาพิจารณา</p> พงศ์พิพัฒน์ พงษ์ตน ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/279839 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 การจัดการโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจ ค้าส่งและค้าปลีกสมัยใหม่ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/281174 <p><strong>วัตถุประสงค์</strong> : ศึกษาสภาพปัญหาและอุปสรรคในการจัดการโลจิสติกส์และผลต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกสมัยใหม่และเพื่อกำหนดแนวทางการจัดการกิจกรรมด้านโลจิสติกส์ที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจภายใต้บริบทของสถานการตลาดปัจจุบันในประเทศไทย <strong>วิธีการวิจัย</strong> : ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ รวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 25 ราย และการจัดประชุมกลุ่มกับผู้เข้าร่วม 20 ราย ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากห้างสรรพสินค้า ศูนย์จำหน่ายซูเปอร์มาร์เก็ต นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ <strong>ผลการวิจัย</strong> : ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกสมัยใหม่ประสบปัญหาในด้านการบริหารคลังสินค้า การขนส่งที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า การขาดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สนับสนุนการตัดสินใจ และผลกระทบภายหลังจากวิกฤต COVID-19 มีผลทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักลง <strong>นัยทางทฤษฎี/นโยบาย</strong> ทิศทางแผนกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ได้แก่ การลงทุนในเทคโนโลยีโลจิสติกส์ เช่น ระบบติดตามแบบเรียลไทม์ การใช้คลังข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์และการเสริมสร้างความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดต้นทุน การดำเนินการเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการฟื้นฟูและรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในพลวัตของสิ่งแวดล้อมทางการตลาด</p> พชร พานิชกุล, วีระพัฒน์ กฤตธนาทิพย์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/281174 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต : มุ่งมั่นความโปร่งใส และร่วมใจต้านทุจริต https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/282972 <p><strong>วัตถุประสงค์:</strong> เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านความซื่อสัตย์สุจริต พัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตตามแนวทาง STRONG Model แก่นักศึกษา บุคลากร และคณาจารย์ เพื่อขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้เป็นองค์กรโปร่งใสอย่างยั่งยืน <strong>วิธีวิจัย:</strong> ใช้วิธีการเชิงปริมาณในการประเมินผลโครงการ “มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต : มุ่งมั่นความโปร่งใส และร่วมใจต้านทุจริต” ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ Digital Anti-Corruption Challenge, STRONG Innovation Workshop, หลักสูตร STRONG: จิตพอเพียงต้านทุจริต, STRONG Student Leaders Network และ Future University Anti-Corruption Forum กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 510 คน เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลคือแบบทดสอบก่อนและหลังอบรม และแบบสำรวจความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและ t-test แบบจับคู่ <strong>ผลการวิจัย:</strong> ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 519 คน มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P &lt; .05) ความพึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุด (เฉลี่ย 4.45–4.73) ผลผลิตได้แก่ สื่อ Infographic 29 ชิ้น นวัตกรรม 12 ชิ้น หลักสูตรต้านทุจริต 1 รายวิชา และเครือข่ายนักศึกษา 1 เครือข่าย <strong>นัยทางทฤษฎี/นโยบาย:</strong> STRONG Model มีประสิทธิผลในการปลูกฝังจิตสำนึกด้านการต่อต้านการประพฤติมิชอบ พัฒนาองค์ความรู้ ทักษะและสร้างเครื่อข่ายความร่วมมือในการปัองกันและต่อต้านการทุจริตและสนับสนุนทฤษฎีธรรมาภิบาลและการเรียนรู้เชิงพฤติกรรม สถาบันการศึกษาควรส่งเสริมบูรณาการการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของนักศึกษา นวัตกรรมด้านดิจิทัลและเครือข่ายภาวะผู้นำเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการต่อต้านการทุจริต</p> เสนีย์ สุวรรณดี, จิราทัศน์ รัตนมณีฉัตร, ขจรศักดิ์ เจ้ากรมทอง, อรรควิช จารึกจารีต, นิติบดี ศุขเจริญ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/282972 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 การตัดสินใจศึกษาต่อหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/283815 <p><strong>วัตถุประสงค์</strong><strong>: </strong>เพื่อศึกษากระบวนการ เปรียบเทียบกระบวนการและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต <strong>วิธีวิจัย</strong><strong>:</strong> เป็นการสำรวจจากตัวอย่างนักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตที่ลงทะเบียนเรียนในปีการศึกษา 2567 กำหนดขนาดตัวอย่างแบบระบุจำนวน 100 ราย เลือกแบบสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย ใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล <strong>ผลการวิจัย</strong>: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจศึกษาต่อหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตมากที่สุดคือด้านหลักสูตร (β = 0.438) รองลงมาคือด้านค่าใช้จ่ายในการศึกษา (β = 0.319) ด้านอาจารย์ผู้สอนและเจ้าหน้าที่ (β = 0.219) และด้านภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย (β = 0.125) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 <strong>นัยทางทฤษฎี/นโยบาย</strong>: มหาวิทยาลัยควรพัฒนาหลักสูตรให้มีรายวิชาและเนื้อหาที่ตรงต่อความต้องการของนักศึกษาและสามารถนำไปประยุกต์ในการทำงานโดยการสำรวจความต้องการของนักศึกษาและนายจ้างในอนาคต กำหนดค่าใช้จ่ายในการศึกษาให้เหมาะสม พัฒนาและสรรหาอาจารย์ที่มีสมรรถนะสูงในการสอน อาจารย์และเจ้าหน้าที่ ดูแลเอาใจใส่ให้คำปรึกษาวิชาการและการใช้ชีวิตกับนักศึกษาอย่างใกล้ชิด</p> อิงอร ตั้นพันธ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/283815 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 คุณภาพและบรรยากาศการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพ ของทีมงาน https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/283809 <p><strong>วัตถุประสงค์</strong> เพื่อศึกษารูปแบบการสื่อสารภายในองค์กรที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของทีมงานของบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง <strong>วิธีการวิจัย</strong> การสำรวจจากตัวอย่าง เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์ (purposive sample) ซึ่งเป็นพนักงานในสายงานต่าง ๆ ของบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังจำนวน (quota) 415 คน โดยใช้แบบสอบถามที่พัฒนาจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาและค่าความเชื่อมั่น ก่อนนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมทั้งสถิติเชิงอนุมานด้วยวิธีการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างเชิงเส้นบางส่วน <strong>ผลการวิจัย</strong> รูปแบบการสื่อสารภายในองค์กรที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของทีมงาน ได้แก่ คุณภาพของการสื่อสาร บรรยากาศการสื่อสาร ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร การตอบกลับ การสื่อสารในแนวนอน และการสื่อสารกับหัวหน้างานโดยตรงตามลำดับ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ คุณภาพการสื่อสารมีอิทธิพลมากที่สุดติดตามด้วยบรรยากาศการสื่อสารและข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร ส่วนการสื่อสารโดยตรงกับผู้บังคับบัญชา มีอิทธิพลน้อยที่สุดแต่ก็ยังมีนัยสำคัญทางสถิติต่อประสิทธิภาพของทึมงาน <strong>นัยทางทฤษฎี/นโยบาย</strong> ผลการวิจัยเน้นให้เห็นว่าคุณภาพและบรรยากาศของการสื่อสารภายในองค์กรเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยขยายองค์ความรู้ด้านพฤติกรรมองค์กรและการสื่อสารภายในองค์กร อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางเชิงนโยบายในการพัฒนาระบบการสื่อสารขององค์กรธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการดำเนินงานและความยั่งยืนในระยะยาว</p> กฤษดา เชียรวัฒนสุข, มรกต จันทร์กระพ้อ, อนันต์ชัย คงจันทร์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/283809 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 การรับรู้และทัศนคติต่อการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/284724 <p><strong>วัตถุประสงค์ </strong>เพื่อศึกษาการรับรู้และทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง รวมถึงศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้บทบาทหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อการพัฒนาท้องถิ่นกับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง <strong>วิธีการวิจัย </strong>การสำรวจจากตัวอย่างโดยใช้แบบสอบถามกับประชากรจังหวัดระยอง เลือกตัวอย่างด้วยเทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ จำนวน 400 คน ซึ่งมาชำระภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง <strong>ผลการวิจัย</strong> ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อทัศนคติของประชาชนต่อการจัดเก็บรายได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ส่วนเพศและสถานภาพสมรส ไม่พบความแตกต่างทางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และการรับรู้บทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อการพัฒนาท้องถิ่นมีสหสัมพันธ์ในทางบวกกับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 <strong> นัยทางทฤษฎี/นโยบาย</strong> ส่งเสริมการรับรู้บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดเก็บรายได้ และการสร้างความเข้าใจและความโปร่งใสเพื่อการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป </p> รุ่งอรุณ กระแสร์สินธุ์, บุณยวีร์ โชคประเสริฐสม, อาจารีย์ ประจวบเหมาะ, ใกล้รุ่ง กระแสร์สินธุ์, วุฒิคุณ วรคุปต์รัตนากุล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/284724 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันฟูดเดลิเวอรี https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/283821 <p><strong>วัตถุประสงค์</strong> เพื่อศึกษาอิทธิพลของส่วนประสมทางการตลาดต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันฟูดเดลิเวอรีของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและเปรียบเทียบการใช้บริการของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เลือกใช้บริการแอปพลิเคชันฟูดเดลิเวอรีจำแนกตามลักษณะทางประชากร <strong>วิธีการวิจัย </strong>การวิจัยจากตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ใช้วิธีการเลือกตัวอย่างแบบบังเอิญ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ <strong>ผลการวิจัย </strong>แอปพลิเคชันฟูดเดลิเวอรีมีความสำคัญมากต่อการตัดสินใจเลือกซื้ออาหาร ส่วนประสมทางการตลาดด้านราคา ช่องทาง บุคลากร และองค์ประกอบทางกายภาพมีอิทธิพลเชิงบวกต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชันฟูดเดลิเวอรีอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถพยากรณ์พฤติกรรมการตัดสินใจใช้ แอปพลิเคชันได้ถึง 74.20% นอกจากนี้ ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ อาชีพ การศึกษา และรายได้ มีอิทธิพลต่อความแตกต่างในการตัดสินใจใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญด้วย<strong> นัยทางทฤษฎี/นโยบาย </strong>ผู้ประกอบการควรพัฒนาแอปพลิเคชันฟูดดิลิเวอรีและการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการขายและสามารถปรับกลยุทธ์ด้านราคา ช่องทาง บุคลากร และองค์ประกอบทางกายภาพเพื่อดึงดูดผู้บริโภคได้ตามความประสงค์ นักการตลาดควรสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายตามลักษณะของแต่ละบุคคลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงผู้บริโภค</p> อนันต์ชัย คงจันทร์, วีรชัย ประพันธ์พจน์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/283821 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700 White, Robin R., (2025). Generative artificial intelligence tools in journal article preparation : A preliminary catalog of ethical considerations, opportunities, and pitfalls. Jds Cummunications, 6: 452-457. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/284784 <p><strong>วัตถุประสงค์ </strong>: เพื่อเสนอแนวทางการประยุกต์ปัญญาประดิษ๙ฐ์ในการจัดเตรียมบทความเพื่อการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ รวมทั้งจริยธรรม โอกาส และข้อจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ChatGPT. <strong>วิธีการ</strong> : การนำเสนอและวิจารณ์บทความว่าด้วยการประยุกต์ปัญญาประดิษฐ์ในการเตรียมบทความเพื่อการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ <strong>ผลการศึกษา</strong> : ปัญญาประดิษฐ์เช่น ChatGPT เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการนำมาประยุกต์ช่วยในการจัดเตรียมบทความทางวิชาการ เพื่อการตีพิมพ์ อย่างไรก็ดีควรใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยการทำงานของมนุษย์และควรมีการกำกับและตรวจสอบโดยมนุษย์อย่างรอบคอบและไม่ควรใช้ AI แทนการวิจารณ์บทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer review) เป็นต้น<strong> นัยทางทฤษฎี/นโยบาย</strong> : ผู้เขียนบทความและบรรณาธิการวารสารวิชาการควรนำเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI tools) มาใช้ในการเตรียม และการบูรณาการบทความเพื่อการตีพิมพ์ จะทำให้บทความทางวิชาการมีคุณภาพสูงขึ้นโดยการตรวจสอบ และเป็นผู้รับผิดชอบในความถูกต้องเหมาะสมของบทความ</p> ณัฐพล ขันธไชย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษมบัณฑิต http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/284784 Wed, 03 Dec 2025 00:00:00 +0700