วารสารพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd วารสารพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ en-US วารสารพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร 2985-0509 บทบรรณาธิการ/สารบัญ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/284770 สมศักดิ์ สามัคคีธรรม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 Strengthening Transnational Community through Social and Cultural Empowerment: A Case Study of Second Generation Thai American Descendants. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/276658 <p>This paper explores the social and cultural empowerment factors that strengthen the Thai community in its transnational setting, including the second generation and the latter descendants. First, how does social and cultural empowerment contribute to strengthening the Thai community. Second, what are the leading social and cultural empowerment factors that strengthen the Thai community through second generation Thai American Descendants. In-depth interviews were conducted with ten key informants using a qualitative methodology, and snowball sampling was employed. It is determined that there are three significant ways in which social and cultural empowerment contributes to strengthening the Thai community and five leading social and cultural empowerment factors to support in strengthening transnational communities. The study further finds that the First generation provides a foundation for the second generation to understand the relevant social and cultural factors to strengthen their communities globally.</p> Ploy Umpornpet Suvicha Pouaree ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 195 209 พลวัตของการสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และการท้าทายเสรีภาพพลเมืองในยุคดิจิทัล https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/281568 <p>บทความวิชาการนี้มุ่งสำรวจความเป็นพลวัตในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัฐกับการคุ้มครองเสรีภาพของประชาชนในยุคดิจิทัลที่มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและท้าทาย โดยวิเคราะห์ว่าการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ภายหลังเหตุการณ์ 9/11 และในภูมิทัศน์ปัจจุบันของประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะมอบอำนาจที่กว้างขวางขึ้นแก่รัฐในการเฝ้าระวัง สอดส่อง และควบคุมกิจกรรมออนไลน์ผ่านกฎหมายและมาตรการควบคุมต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิในความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งของการสร้างสมดุลที่เหมาะสมและยั่งยืนระหว่างความมั่นคงและเสรีภาพ โดยอาศัยหลักการของนิติรัฐ ความโปร่งใส ความจำเป็นและได้สัดส่วนของการจำกัดสิทธิ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจรัฐที่อาจเกินขอบเขตและธำรงรักษาสังคมประชาธิปไตยที่เคารพสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง การไม่สามารถรักษาสมดุลนี้อาจนำไปสู่การกัดกร่อนบรรยากาศแห่งความไว้วางใจและการลดทอนคุณค่าของเสรีภาพในโลกดิจิทัล</p> จิรวัฒน์ ศรีเรือง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 210 226 การปฏิรูปกระบวนการนโยบายสาธารณะ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/280650 <p>นโยบายสาธารณะมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ที่ผ่านมา นโยบายสาธารณะหลายนโยบายไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุที่สำคัญคือประเด็นปัญหาไม่ได้สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นประเด็นที่นักการเมืองคิดค้นมาเพื่อประโยชน์ของกลุ่มพวกพ้องหรือเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง ในกระบวนกำหนดนโยบายมีการเมืองเข้ามาแทรกแซง ขาดการศึกษา วิจัยและข้อมูลที่เพียงพอต่อการประกอบการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสม การนำนโนยบายไปปฏิบัติขาดหลักธรรมาภิบาล ขาดการควบคุมและความโปร่งใส ในส่วนการประเมินผลนโยบายก็ทำไปเพื่อเป็นพิธี ไม่ได้มีความจริงจังในการประเมิน รากฐานของสาเหตุคือขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างจริงจังก่อนกำหนดนโยบาย</p> <p>จึงเสนอแนะให้มีการจัดตั้งสำนักวิจัยนโยบายระดับชาติ พรรคการเมืองควรจัดตั้งฝ่ายวิจัยของพรรค มีการจัดตั้งคลังสมองระดับชาติในสาขานโยบายสาธารณะ เพื่อทำหน้าที่ทำวิจัย ศึกษา ให้คำแนะนำด้านนโยบาย ให้นโยบายมีรายละเอียดเพื่อความสะดวกและโปร่งใสต่อการกำหนด การนำไปปฏิบัติและประเมินผลนโยบาย และเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะของไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน</p> หลี่ เหรินเหลียง นรีนุช ดำรงชัย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 227 236 การประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในการรับโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ประจำปีงบประมาณ 2566 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/277691 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบผลการดำเนินการของ อบจ. ในการบริหารกิจการรับโอน รพ.สต. ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การถ่ายโอน ผู้วิจัยได้ประยุกต์ใช้ตัวแบบในการวิจัยประเมินผลของ Broc, Oikonomou and Dragovic (2019) มาเป็นตัวแบบในการประเมินครั้งนี้ สำหรับ<em>วิธีวิทยาการวิจัย</em>ได้ใช้วิธีวิจัยเชิงผสมผสานโดยเริ่มจากการวิจัยเชิงคุณภาพและตามด้วยเชิงปริมาณ จำนวนตัวอย่างเชิงคุณภาพประกอบด้วย 8 จังหวัด จาก 4 ภาค และจำนวนตัวอย่างเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย อบจ. 35 แห่ง และ สสจ. 35 แห่ง จากจำนวนประชากรศึกษาทั้งหมด 49 จังหวัด <em>ผลการวิจัยพบว่า</em> การดำเนินการของ อบจ. ส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าอย่างน่าพอใจ อย่างไรก็ตามยังมีข้อติดขัดในเรื่องการถ่ายโอนคนและเงินอยู่บ้าง เนื่องจากหน่วยงานที่ทำการถ่ายโอน(กระทรวงสาธารณสุข)ได้ถ่ายโอนมาไม่ครบตามหลักเกณฑ์ ซึ่งผู้วิจัยได้เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขอุปสรรคดังกล่าวในการถ่ายโอนครั้งต่อไป</p> <p> </p> อุดม ทุมโฆสิต สุพัฒน์จิตร ลาดบัวขาว สุรชัย พรหมพันธุ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 1 23 A Study of SERVQUAL Model on Satisfaction and Loyalty of Discharged Dialysis Patients in China https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/276401 <p>Objective: This study applies the Service Quality Gap (SERVQUAL) model and the inpatient satisfaction questionnaire issued by the National Medical Management Center. It investigates the medical experience and satisfaction levels of discharged dialysis patients. The aim is to provide references for hospitals to enhance service quality. Methods: The study selected 306 dialysis patients discharged from a tertiary hospital in Taiyuan, Shanxi Province, China, between January 2022 and July 2024. Based on the SERVQUAL model, three scales were developed. Questionnaires were distributed online via Questionnaire Star. Statistical software was used for descriptive statistics, reliability and validity tests, correlation analysis, confirmatory factor analysis, and structural equation modeling. Results: Service quality significantly impacts satisfaction. Service quality also significantly impacts loyalty. Satisfaction significantly impacts loyalty. Satisfaction mediates the relationship between service quality and loyalty. Conclusion: Using the SERVQUAL model for satisfaction evaluation helps hospitals identify service weaknesses. It improves patients' medical experiences and increases satisfaction and loyalty. Additionally, the study suggests strengthening nurse-patient communication and optimizing medical procedures to reduce waiting times, thereby further improving patient satisfaction and loyalty.</p> Lingzhao Meng Chenin Chen Sujitra Samukkethum ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 24 48 การประเมินผลกระทบสุขภาพโดยชุมชนกับกลไกปกป้องแหล่งผลิตอาหาร กรณีตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/276605 <p>งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ทุนที่มีบทบาทในการพัฒนานวัตกรรมของชุมชนเพื่อการปกป้องแหล่งผลิตอาหาร และศึกษาบทบาทของนวัตกรรมดังกล่าวผ่านกรณีศึกษาตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ อาศัยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพโดยชุมชน (Community Health Impact Assessment: CHIA) เป็นนวัตกรรมสำคัญในการปกป้องแหล่งผลิตอาหาร โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากทุน 6 ประเภท ได้แก่ (1) ทุนทางเศรษฐกิจ เป็นแหล่งทรัพยากรที่สนับสนุนการดำเนินงานของชุมชน (2) ทุนทางวัฒนธรรม หมายถึงองค์ความรู้และภูมิปัญญาที่มีอยู่ในกลุ่มและองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ (3) ทุนทางสังคม ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในการเคลื่อนไหวของชุมชน (4) ทุนเชิงสัญลักษณ์ สะท้อนถึงคุณค่าและความชอบธรรมในการปกป้องพื้นที่เกษตรกรรม (5) ทุนมนุษย์ ประกอบด้วยองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม (6) ทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนของชุมชน นอกจากนี้ กระบวนการ CHIA ยังมีบทบาทสำคัญใน 6 ด้าน ได้แก่ (1) การเสริมสร้างพลังอำนาจของชุมชน (2) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน (3) การเป็นเครื่องมือในการต่อรองเชิงนโยบาย (4) การสร้างพื้นที่สื่อสารระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (5) การเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน (6) การเสริมสร้างจิตสำนึกร่วมของชุมชน โดยผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นว่าการบูรณาการทุนประเภทต่าง ๆ เข้ากับกระบวนการ CHIA นั้น สามารถเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในการปกป้องแหล่งผลิตอาหารและทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ</p> เมทินา อิสริยานนท์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 49 76 ความร่วมมือภาครัฐและชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำมิติเศรษฐกิจ ด้วยหลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพ ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/280787 <p> </p> <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการหลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพของครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน 2) เพื่อออกแบบหลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพให้กับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน และ 3) เพื่อศึกษารูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและชุมชนในการลดความเหลื่อมล้ำมิติเศรษฐกิจด้วยหลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพเพื่อยกระดับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน</p> <p>ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และการวิจัยและพัฒนา (Research &amp; Development) โดยการทบทวนเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Documentary Research) สัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และการสนทนากลุ่มย่อย (Small Group Discussion) ที่แยกกลุ่มตามผู้ให้ข้อมูล รวบรวมข้อมูลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ 1) ตัวแทนครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ตามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน จำนวน 15 คน 2) เจ้าหน้าที่ที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ตามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน จำนวน 2 คน 3) ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบหลักสูตรสร้างอาชีพ จำนวน 2 คน และอาจารย์ที่มีความรู้ด้านการออกแบบหลักสูตร จำนวน 1 คน 4) ปราชญ์ชาวบ้านที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพในชุมชนและการจัดทำบัญชีครัวเรือน จำนวน 2 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญได้รับการคัดเลือกด้วยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ เข้าใจบริบทพื้นที่ และผู้ที่มีความรู้เฉพาะด้านในการออกแบบหลักสูตร วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และมีการตรวจสอบความอิ่มตัวของข้อมูล</p> <p>ผลการศึกษา พบว่า 1) หลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพที่ตรงกับความต้องการ ประกอบด้วย 9 หลักสูตร 2) ออกแบบหลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพเพื่อยกระดับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน ประกอบด้วย 5 หลักสูตร <br />3) รูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและชุมชนในการลดความเหลื่อมล้ำมิติเศรษฐกิจด้วยหลักสูตรฝึกอบรมสร้างอาชีพเพื่อยกระดับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน โดยสรุปภาครัฐมีบทบาทหลักในการกำหนดนโยบาย การดำเนินงาน และการสนับสนุนงบประมาณ ขณะที่ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทรัพยากร การมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร และการร่วมติดตามผลในระดับพื้นที่</p> พสุวดี จันทร์โกมุท ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 77 99 การพัฒนาตัวแบบการฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืนด้วยทุนทางสังคมและวัฒนธรรม: กรณีศึกษาตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/281455 <p>งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพการณ์ปัจจุบันของทุนทางสังคม ทุนวัฒนธรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม (2) พัฒนาตัวแบบการฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืนด้วยทุนทางสังคมและวัฒนธรรมของตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม การวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน โดยการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 16 คน โดยเน้นผู้ที่มีประสบการณ์และมีบทบาทเกี่ยวข้อง รวมทั้งการสังเกตและการบันทึกภาคสนาม และการวิจัยเชิงปริมาณ ที่มีแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพว่า มีความเที่ยงตรงและความเชื่อถือได้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นหลายชั้น จากประชากรคือ ประชากรที่อยู่อาศัยในเขตเทศบาลตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวนประชากร 3,417 คน ตัวอย่างของการวิจัยนี้ จำนวน 402 คน ผลการวิจัย พบว่า (1) ทุนทางสังคมอยู่ในระดับสูง ทุนทางวัฒนธรรมอยู่ในระดับปานกลาง และการพัฒนาที่ยั่งยืนอยู่ในระดับสูง (2) ตัวแบบการฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืนของตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม คือ ผู้นำและภาวะผู้นำ ทุนทางสังคมและทุนวัฒนธรรมเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม</p> เฉลิมชัย กิตติศักดิ์นาวิน โกสินทร์ เตชะนิยม สวรรยา ธรรมอภิพล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 100 128 บทบาทสตรีกับการพัฒนาความเข้มแข็ง ของขบวนชุมชนตราด https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/282904 <p>กระบวนการขับเคลื่อนการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนของจังหวัดตราดมีความโดดเด่น จากการมีขบวนภาคประชาสังคมที่มีพลังในการขับเคลื่อนประเด็นสาธารณะได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมประเด็นปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดตราด จนสามารถผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาของชาวบ้านในแนวทางเชิงบูรณาการของทุกภาคส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การขับเคลื่อนของขบวนชุมชนตราดซึ่งประกอบด้วยองค์กรหลัก ได้แก่ องค์กรชุมชนฅนตราด และสภาองค์กรชุมชนตำบล 43 พื้นที่ สามารถประสานความร่วมมือกับหน่วยราชการส่วนภูมิภาค หน่วยราชการส่วนกลางในพื้นที่ องค์กรปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานรัฐอื่นในพื้นที่ อีกทั้งหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมอื่นในระดับประเทศ เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้นำ กลุ่มแกนนำ และบุคลากรในองค์กรชุมชนฅนตราดและสภาองค์กรชุมชนตำบลทุกพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ อันเนื่องมาจากผลงานที่ประจักษ์ชัดในการขับเคลื่อนงานเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งของชุมชน จากการศึกษาบทบาทสตรีกับการพัฒนาความเข้มแข็งของขบวนชุมชนตราดพบว่า ทักษะและวิธีการทำงานโดยเฉพาะผู้นำและกลุ่มแกนนำที่เป็นผู้หญิงเน้นการมีส่วนร่วมของผู้คนในพื้นที่ ร่วมคิดร่วมทำ ร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา พูดคุยขอความร่วมมือ รับฟังด้วยความอ่อนน้อมและเปิดใจยอมรับ <br />เน้นการประสานภาคีทุกภาคส่วนเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานตามเป้าหมาย อาจกล่าวได้ว่าเป็นภาพของระบบการทำงานภายใต้รูปแบบประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ (Deliberative democracy) อันเป็นแนวทางในการสร้างบรรยากาศในเชิงบวก สร้างวัฒนธรรมแห่งการมีส่วนร่วมและการยอมรับความแตกต่างและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อหาฉันทามติในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่เพื่อนำไปสู่การสร้างชุมชนเข้มแข็งที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง</p> อมรรัตน์ กุลสุจริต โอฬาร ถิ่นบางเตียว บรรเจิด สิงคะเนติ ธัช ขันธประสิทธิ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 129 166 การบูรณาการปัญญาประดิษฐ์และระบบหลากช่องทางเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย: กรณีศึกษาในระดับโลกและประเทศไทย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsd/article/view/281158 <p>การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและวิเคราะห์การบูรณาการระหว่างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับกลยุทธ์การตลาดและการขายที่เน้นการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-Channel) ในการพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย โดยเปรียบเทียบกับแนวทางปฏิบัติในระดับโลก เหตุผลสำคัญในการศึกษาครั้งนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ที่กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมค้าปลีกทั่วโลก รวมถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเฉพาะในบริบทที่ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงขึ้นต่อประสบการณ์การซื้อสินค้าที่เป็นส่วนตัวและไร้รอยต่อข้ามทุกช่องทาง</p> <p>การศึกษาใช้วิธีการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (Systematic Literature Review) <br />โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลาย ได้แก่ บทความวิชาการจากฐานข้อมูลออนไลน์ รายงานการวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำ กรณีศึกษาจากบริษัทค้าปลีกระดับโลก และรายงานอุตสาหกรรมจากบริษัท<br />ที่ปรึกษา โดยกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกข้อมูลให้เป็นข้อมูลที่ตีพิมพ์ภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2563-2567 หรือ ค.ศ. 2020-2024) และมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI, Omni-Channel หรือเทคโนโลยีค้าปลีก พร้อมมีกรณีศึกษาหรือข้อมูลเชิงประจักษ์มาประยุกต์ใช้ร่วมกับแนวคิดการค้าปลีกแบบรวมทุกช่องทางที่ลูกค้าติดต่อแบรนด์เข้ามาไว้ในที่เดียว (Omni-Channel) และแนวคิดนวัตกรรมค้าปลีกสมัยใหม่ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างประสบการณ์การซื้อขายในรูปแบบใหม่ และสร้างคุณค่าใหม่ให้กับทั้งผู้ค้าปลีกและผู้บริโภค</p> <p>ผลการศึกษาระบุว่าปัจจัยสำคัญ 6 ประการที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมค้าปลีก ได้แก่ Smart Store Experience, Inventory Intelligence, Seamless Commerce Journey, Hyper-Personalization, Supply Chain Revolution และ Data-Driven Store Operations นอกจากนี้การศึกษายังพบว่าประเทศไทยมีความพร้อมสูงในการรับเทคโนโลยี AI โดยมีแรงงานร้อยละ 92 ที่ใช้ AI ในการทำงาน แต่ยังเผชิญความท้าทายด้านการพัฒนาทักษะบุคลากร การลงทุนที่สูง และประเด็นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล</p> สิทธปวีย์ ธนโสตถิกุลนันท์ นันธณัฏฐ์ รัตนพลานนท อลิษา หมาดมานัง บุรินทร์ สันติสาส์น ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-10-31 2025-10-31 27 2 167 194