https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/issue/feed
วารสารลวะศรี
2025-06-30T00:00:00+07:00
ผศ.ดร.พรพจน์ จุลสวัสดิ์
thatchavong.j@lawasri.tru.ac.th
Open Journal Systems
<p><strong>วารสารลวะศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี <span style="background-color: #ffffff;">ISSN 2586-8705 (Print) , ISSN (online) 2730-3748</span></strong></p> <p>เป็นช่องทางการเผยแพร่ผลงานวิชาการและผลงานวิจัยของคณาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษา ผู้สนใจทั่วไปและแขนงวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผลงานทางบริหารธุรกิจ ประกอบด้วย สาขาการบัญชี สาขาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ สาขาการตลาด และสาขาพฤติกรรมองค์กรและการจัดการทรัพยากรมนุษย์ โดยวารสารได้จัดตีพิมพ์ในรูปแบบออนไลน์</p>
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/276170
การสื่อสารคุณค่าและมูลค่าแหล่งท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมเมืองรองสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ : กรณีศึกษาเมืองโบราณกำแพงเพชร สุโขทัยและเพชรบูรณ์
2025-05-29T13:51:11+07:00
ยุชิตา กันหามิ่ง
loogtaw@hotmail.com
รัชนีวรรณ บุญอนนท์
ratchaneewanmadee@gmail.com
พัตราภรณ์ อารีเอื้อ
loogtaw@hotmail.com
<p>การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสื่อสารคุณค่าและมูลค่าแหล่งท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมเมืองรองสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีมูลค่าสูงวิถีใหม่ของเมืองโบราณกำแพงเพชร สุโขทัยและเพชรบูรณ์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณกำแพงเพชร สุโขทัย เพชรบูรณ์ จำนวน 1,200 คน วิเคราะห์ข้อมูลในรูปค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยผลการศึกษา พบว่า ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสมบูรณ์สามารถใช้เป็นหลักฐานทางโบราณคดีได้และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับระดับประเทศ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสัมพันธ์กับชุมชนสูงโดยมีการจัดงานเป็นประจำทุกปีและชุมชนใกล้เคียงเข้ามาร่วมงานด้วย</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/277740
การยอมรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการ GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว
2025-05-02T13:31:17+07:00
รชานนท์ ศรีคำดี
both1281@gmail.com
สินีนาถ เริ่มลาวรรณ
both1281@gmail.com
<p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการยอมรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการ GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว 2) ระดับประสิทธิภาพการให้บริการ GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว และ 3) การยอมรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการ GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว จำนวน 300 คน โดยสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยสมการถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 41 - 50 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีรายได้ 15,001 – 30,000 บาท การยอมรับเทคโนโลยีการใช้งาน GHB ALL GEN โดยรวมอยู่ในระดับมาก นวัตกรรมการให้บริการในการใช้งาน GHB ALL GEN โดยรวม อยู่ในระดับมาก ระดับประสิทธิภาพการให้บริการ GHB ALL GEN โดยรวมอยู่ในระดับมาก และผลการทดสอบการยอมรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการให้บริการที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งาน GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว พบว่า การยอมรับเทคโนโลยี ได้แก่ ด้านการรับรู้ถึงประโยชน์ ด้านการรับรู้ถึงความง่าย ด้านทัศนคติต่อการใช้ ด้านพฤติกรรมการตั้งใจนำไปใช้ ด้านการรับรู้ความเสี่ยง และด้านการนำมาใช้งานจริง และนวัตกรรมการบริการ ได้แก่ ด้านข้อมูลสารสนเทศ และด้านสภาพแวดล้อม มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการให้บริการ GHB ALL GEN ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสระแก้ว มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีค่า R Square เท่ากับ 0.703</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/277856
แนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงานพัสดุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
2025-05-02T13:25:23+07:00
วัชรา เปรมปรีดี
watchara119923@gmail.com
ประสาน นันทะเสน
watchara119923@gmail.com
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ 1) ศึกษาระดับการบริหารงานพัสดุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2) วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริหารงานพัสดุ และ 3) เสนอแนวทางการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (mixed methods) เก็บข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 323 คน และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง 10 ท่าน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบ IOC และมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา Cronbach 0.977 รวมถึงแบบสัมภาษณ์ที่ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยการบริหารงานพัสดุ 5 ด้าน ได้แก่ การซ่อมบำรุง การจัดจำหน่าย การจัดหา การควบคุม และการตรวจสอบ มีผลต่อประสิทธิภาพการบริหารงานพัสดุในภาพรวมในระดับมากที่สุด (X̄ = 4.61, S.D. = 0.269) โดยเฉพาะด้านการตรวจสอบ (X̄ = 4.68, S.D. = 0.378) และด้านการควบคุมพัสดุ (X̄ = 4.62, S.D. = 0.392) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความโปร่งใสและประสิทธิภาพการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม ด้านการจัดจำหน่ายพัสดุไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการบริหารงานพัสดุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แนวทางการพัฒนาที่เสนอ ได้แก่ การปรับปรุงระบบการซ่อมบำรุง การใช้เทคโนโลยีในกระบวนการจัดหาและควบคุมพัสดุ การส่งเสริมความโปร่งใสผ่านระบบดิจิทัล การพัฒนาทักษะบุคลากร และการจัดทำแผนตรวจสอบที่มีมาตรฐาน ข้อเสนอแนะในการศึกษาในอนาคตคือการวิเคราะห์ปัจจัยใหม่ เช่น วัฒนธรรมองค์กรและภาวะผู้นำ รวมถึงการนำเทคโนโลยี เช่น ERP มาใช้ในกระบวนการบริหารงานพัสดุเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในภาพรวม</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/278662
การสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณเพชรบูรณ์ให้เป็นสินค้าของที่ระลึก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบูรณ์
2025-05-29T14:34:58+07:00
รัชนีวรรณ บุญอนนท์
ratchaneewanmadee@gmail.com
วาสนา จรูญศรีโชติกำจร
wadsanafon55555fon@gmail.com
<p>การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อวิเคราะห์อัตลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณเพชรบูรณ์ 2) เพื่อสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณเพชรบูรณ์ให้เป็นสินค้าของที่ระลึกเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบูรณ์ การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods) โดยดำเนินการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกภาคีที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเมืองโบราณเพชรบูรณ์ จำนวน 10 คน และการสนทนากลุ่ม (Focus Group) กับภาคีที่เกี่ยวข้องอีก จำนวน 15 คน ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณ ได้จากแบบสอบถามที่แจกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเมืองโบราณเพชรบูรณ์ จำนวน 400 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูล เชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) อัตลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณเพชรบูรณ์ คือ ประติมากรรมปูนปั้นรูปคนแคระพบในโบราณสถานเขาคลังใน 2) การสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณเพชรบูรณ์ให้เป็นสินค้าของที่ระลึกเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว พบว่า ได้ต้นแบบลวดลายจากมรดกทางวัฒนธรรมในการสร้างสินค้าของที่ระลึก 3 แบบ โดยลวดลายทั้งสามแบบนำไปผลิตเป็นสินค้าของที่ระลึกใน 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เสื้อยืด แก้วน้ำ กระเป๋าไอแพด กระเป๋าผ้า เคสโทรศัพท์ และสร้อยข้อมือ</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/278741
การเปรียบเทียบวิธีพยากรณ์ยอดจำหน่ายภายในประเทศของผ้าทอประเภทฝ้ายด้วยเทคนิคการวิเคราะห์อนุกรมเวลา
2025-05-21T10:45:47+07:00
ธิติมา คุณยศยิ่ง
thitima@g.lpru.ac.th
นภาวรรณ เนตรประดิษฐ์
nok_napawan@hotmail.com
สุคนธ์ทิพย์ สุภาจันทร์
suphachan@yahoo.com
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการพยากรณ์ยอดจำหน่ายภายในประเทศของผ้าทอประเภทฝ้ายด้วยเทคนิคการวิเคราะห์อนุกรมเวลาและเพื่อเปรียบเทียบวิธีการพยากรณ์ยอดจำหน่ายภายในประเทศของผ้าทอประเภทฝ้ายโดยใช้ข้อมูล 120 ค่า คือ เดือน มกราคม พ.ศ. 2558 ถึงธันวาคม พ.ศ. 2567 เป็นข้อมูลเรียนรู้ ใช้ข้อมูลตรวจสอบเพื่อพยากรณ์ 60 ค่า คือ เดือน มกราคม พ.ศ. 2563 ถึงธันวาคม พ.ศ. 2567 ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์อนุกรมเวลา 6 วิธี การพยากรณ์แบบวิธีวิเคราะห์แนวโน้ม การพยากรณ์แบบวิธีแยกส่วนประกอบ การพยากรณ์แบบวิธีเทคนิคค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย การพยากรณ์แบบวิธีการปรับเรียบแบบด้วยเอกซ์โปเนนเชียล การพยากรณ์แบบวิธีการปรับเรียบแบบเอกโปแนนเชียลซ้ำสองครั้ง และการพยากรณ์แบบวิธีของวินเธอร์โดยใช้เกณฑ์พิจารณาค่าร้อยละความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์เฉลี่ย (MAPE) ต่ำที่สุด สามารถพยากรณ์ยอดจำหน่ายภายในประเทศของผ้าทอประเภทฝ้าย 12 เดือน คือ มกราคม - ธันวาคม พ.ศ. 2568 เพื่อการพยากรณ์ ผลการศึกษาพบว่าวิธีการพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลปริมาณยอดจำหน่ายภายในประเทศของผ้าทอประเภทฝ้าย คือ การพยากรณ์แบบวิธีเทคนิคค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/279409
การพัฒนาการสื่อสารเพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เขาเอราวัณของชุมชนช่องสาริกาอย่างยั่งยืน
2025-06-05T13:51:45+07:00
รัชชนก สวนสีดา
ratchanok.s@lawasri.tru.ac.th
บุญญเลขา มากบุญ
boonyalakha.m@lawasri.tru.ac.th
<p>การวิจัยนี้ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อศึกษา 1) สภาพปัจจุบันของการสื่อสารเพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เขาเอราวัณ และ 2) แนวทางพัฒนาการสื่อสารเพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เขาเอราวัณของชุมชนช่องสาริกาอย่างยั่งยืน โดยชุมชนและภาคีเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน พื้นที่วิจัยอยู่ที่ตำบลช่องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหลักซึ่งเลือกแบบเจาะจงจำนวน 50 ราย เครื่องมือการวิจัยใช้การวิจัยเอกสาร สำรวจภาคสนาม สัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม และจัดเวทีประชาคม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การประมวลผลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการสื่อสารของชุมชนช่องสาริกานั้นมีแกนนำชุมชน ทำหน้าที่ส่งสาร ใช้วิธีบอกต่อปากต่อปากไปยังกลุ่มสมาชิกในชุมชนโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน เน้นให้เห็นถึงคุณค่าทางธรรมชาติวิทยาและโบราณคดีของเขาเอราวัณ มีการสร้างเครือข่ายการสื่อสารแบบวงล้อและแบบรูปดาว และ 2) แนวทางพัฒนาการสื่อสารเพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เขาเอราวัณของชุมชน ประกอบด้วย 2.1) รูปแบบการสื่อสารใช้ทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารในกลุ่ม และการสื่อสารระหว่างกลุ่ม 2.2) การสร้างเครือข่ายการสื่อสาร ด้วยการสร้างความเข้าใจและจุดประกายความคิด จัดตั้งคณะทำงาน ประสานความร่วมมือจากภาคีที่เกี่ยวข้อง ขยายแนวร่วม และเปิดพื้นที่การสื่อสารให้ความรู้และร่วมกันอนุรักษ์เขาเอราวัณทั้งในระดับชุมชน และระดับจังหวัด 2.3) การจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างชุมชนกับกลุ่มภาคีเครือข่าย และ 2.4) การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เขาเอราวัณ เช่น แผ่นพับแนะนำเขาเอราวัณ ฯลฯ ใช้สำหรับเผยแพร่ความรู้และการอนุรักษ์เขาเอราวัณ</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/279805
การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการจัดการขยะมูลฝอยครัวเรือน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาว อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
2025-05-20T10:50:26+07:00
สิทธิศักดิ์ อรรจนานนท์
sittisak.asa@rru.ac.th
วิชุดา จันทร์เวโรจน์
vichuda.jun@mail.rru.ac.th
คมสันต์ ธีระพืช
komsuntheera@gmail.com
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาเว็บไซต์สำหรับเสริมสร้างแรงจูงใจในการจัดการขยะในครัวเรือน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลหนองยาว อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา 2) ประชาสัมพันธ์รูปแบบการใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอยในครัวเรือน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในตำบล 3) ศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการเว็บไซต์ หลังการใช้งานเว็บไซต์แล้ว การพัฒนาเว็บไซต์ดำเนินการพัฒนาตามลำดับขั้นตอนของต้นแบบ วงจรการพัฒนาระบบ (SDLC) และทำการศึกษาระดับความพึงพอใจต่อการใช้งาน โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงสำรวจ มีกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ จำนวน 383 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสัมภาษณ์ความต้องการใช้งาน, เว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้น และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้เว็บไซต์ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก (<img id="output" src="https://latex.codecogs.com/png.image?\dpi{110}\bar{X}" alt="equation" /> = 4.17, S.D. = 0.89) โดยเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้ใช้เว็บไซด์มีความพึงพอใจด้านการออกแบบและการจัดรูปแบบ (<img id="output" src="https://latex.codecogs.com/png.image?\dpi{110}\bar{X}" alt="equation" /> = 4.21, S.D. = 0.89) รองลงมาได้แก่ ด้านการนำผลงานไปใช้ประโยชน์ (<img id="output" src="https://latex.codecogs.com/png.image?\dpi{110}\bar{X}" alt="equation" /> = 4.20, S.D. = 0.88) ด้านระดับความพึงพอใจโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ย (<img id="output" src="https://latex.codecogs.com/png.image?\dpi{110}\bar{X}" alt="equation" /> = 4.17, S.D. = 0.83) และด้านคุณภาพของเนื้อหา (<img id="output" src="https://latex.codecogs.com/png.image?\dpi{110}\bar{X}" alt="equation" /> = 4.10, S.D. = 0.95) ตามลำดับ ทุกด้านมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ ดังนั้นเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้เป็นแหล่งข้อมูลเพื่อสร้างแรงจูงใจในการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนให้กับชาวบ้านในชุมชน ช่วยประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารของหน่วยงานเป็นแหล่งให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไป สามารถค้นหาข้อมูลโดยไร้ข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ รวมถึงสามารถพัฒนา เป็นฐานข้อมูลของการจัดเก็บข้อมูลค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะสาธารณูปโภคของชุมชนในตำบลหนองยาว เพื่อพัฒนาการจัดการขยะให้สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต</p>
2025-06-30T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/275352
การประเมินผลกระทบของความคล่องตัวของโซ่อุปทานและปัจจัยภายนอกต่อความสามารถทางการแข่งขันและผลการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์: กรณีศึกษาของธุรกิจขนส่งขนาดเล็ก
2025-05-02T13:50:15+07:00
เขมรัตน์ นาคสุข
khemmarut_30@hotmail.com
ปริญ วีระพงษ์
prin_w@rmutt.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลกระทบของความคล่องตัวของโซ่อุปทานต่อความสามารถทางการแข่งขัน 2) ผลกระทบของสภาพแวดล้อมภายนอกต่อความสามารถทางการแข่งขัน 3) ผลกระทบของความสามารถทางการแข่งขันต่อผลการดำเนินงานของผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ 4) ศึกษาวิธีการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้บริหาร หัวหน้างาน โดยใช้แบบสอบถาม จำนวน 400 บริษัท และการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหาร จำนวน 8 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์สมการเชิงโครงสร้างและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้านความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ได้ค่าความสอดคล้อง 0.67 จำนวน 27 ข้อ และ 1.00 จำนวน 63 ข้อ ผลการวิจัยพบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าดัชนีความกลมกลืนเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่ Relative Chi-Square (χ²/df) = 1.20, p-value = 0.20, GFI = 0.99, AGFI = 0.95, CFI = 0.99, RMR = 0.00 และ RMSEA = 0.02 ตัวแปรสังเกตการณ์มีความสัมพันธ์เชิงบวกที่ส่งผลต่อความสามารถทางการแข่งขันและผลการดำเนินงานของธุรกิจขนส่ง แนวทางการสร้างความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจขนส่งสินค้าขนาดเล็กควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์และติดตาม ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก การวางแผนกลยุทธ์ การพัฒนาระบบสารสนเทศ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่และการจัดการความเสี่ยง ข้อเสนอแนะสำหรับธุรกิจขนส่งรวมถึงการส่งเสริมการปรับตัวด้านเทคโนโลยี การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกอย่างต่อเนื่อง การสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนในระยะยาว</p>
2025-07-06T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารลวะศรี