วารสารลวะศรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo
<p><strong>วารสารลวะศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี <span style="background-color: #ffffff;">ISSN 2586-8705 (Print) , ISSN (online) 2730-3748</span></strong></p> <p>เป็นช่องทางการเผยแพร่ผลงานวิชาการและผลงานวิจัยของคณาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษา ผู้สนใจทั่วไปและแขนงวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผลงานทางบริหารธุรกิจ ประกอบด้วย สาขาการบัญชี สาขาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ สาขาการตลาด และสาขาพฤติกรรมองค์กรและการจัดการทรัพยากรมนุษย์ โดยวารสารได้จัดตีพิมพ์ในรูปแบบออนไลน์</p>
วารสารลวะศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
th-TH
วารสารลวะศรี
2586-8705
<p>บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ที่ได้รับการตีพิมพ์<span style="display: inline !important; float: none; background-color: #ffffff; color: #000000; cursor: text; font-family: 'Noto Sans',Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 14px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: left; text-decoration: none; text-indent: 0px; text-transform: none; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; word-spacing: 0px;">ในวารสารลวะศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ถือเป็น</span>ลิขสิทธิ์ของ<span style="display: inline !important; float: none; background-color: #ffffff; color: #000000; cursor: text; font-family: 'Noto Sans',Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 14px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: 400; letter-spacing: normal; orphans: 2; text-align: left; text-decoration: none; text-indent: 0px; text-transform: none; -webkit-text-stroke-width: 0px; white-space: normal; word-spacing: 0px;">วารสารลวะศรี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือ</span>ส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่าหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนาญาตจากวารสารวิชาการ ฯ ก่อนเท่านั้น เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารลวะศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ </p>
-
คุณลักษณะของผู้มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบนสื่อออนไลน์ของผู้บริโภคกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/274549
<p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะของผู้มีอิทธิพลบนสื่อออนไลน์ของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ 2) ศึกษาคุณลักษณะของผู้มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบนสื่อออนไลน์ของผู้บริโภคกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล จำนวน 385 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ เพื่อทดสอบสมมติฐาน ผลการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีสถานภาพสมรส ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,000 - 29,999 บาท ประเภทอาหารเสริมส่วนใหญ่ที่เลือกซื้อคือวิตามิน โดยภาพรวมพบว่าระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะของผู้มีอิทธิพลบนสื่อออนไลน์ มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน นอกจากนั้นพบว่า ด้านความไว้วางใจ ความเชี่ยวชาญ ความดึงดูดใจ ความยอมรับนับถือ และความคล้ายคลึงกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบนสื่อออนไลน์ของผู้บริโภคกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการสื่อสารทางการตลาดบนสื่อออนไลน์สำหรับผู้บริโภคกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย</p>
รัชนีกร สอนดี
วสุธิดา นุริตมนต์
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
1
12
-
แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของครูเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการศึกษาศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 6 สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/274765
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาคุณภาพชีวิตการทำงานของครู 2) ศึกษาความต้องการจำเป็นของคุณภาพชีวิตการทำงานของครู และ 3) เสนอแนวทางการส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงานของครูเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการศึกษาศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 6 สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ โดยศึกษากับประชากรทั้งหมด ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู รวม 282 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.979 และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น และวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ของคุณภาพชีวิตการทำงานของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ลำดับความต้องการจำเป็นของคุณภาพชีวิตการทำงานของครู โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ 1) การให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรม 2) จังหวะของชีวิตโดยส่วนรวม และ 3) สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ ผลการเสนอแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของครูจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ดังนี้ 1) ส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ทางด้านการเงินมากขึ้น 2) มีนโยบายการลาที่เหมาะสมสำหรับบุคลากรที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด 3) สถานศึกษากำหนดมาตรการควบคุมกลิ่น เสียง และแสง</p>
ณชบงกช รื่นริด
ชูชาติ พยอม
ภูวดล จุลสุคนธ์
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
13
26
-
การประยุกต์เทคโนโลยีความจริงเสริมในการพัฒนาสื่อเสมือนจริง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/276136
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการประยุกต์เทคโนโลยีความจริงเสริมในการพัฒนาสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว 2) พัฒนาสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว 3) ประเมินประสิทธิภาพสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว 4) ประเมินความพึงพอใจสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว สื่อที่จัดทำขึ้นอยู่ในรูปแบบสามมิติ แสดงผลด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม ประเมินประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ประเมินความพึงพอใจโดยกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 66 คน คือ นักศึกษาสาขาวิชาระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 50 คน และเกษตรกรผู้เพาะปลูกแห้วจำนวน 16 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบประเมิน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติการหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า การศึกษาการประยุกต์เทคโนโลยีความจริงเสริมในการพัฒนาสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว พบว่า สามารถแบ่งเนื้อหาได้ 4 หัวข้อ คือ ประวัติความเป็นมาของแห้ว วิธีการเพาะปลูกแห้ว 5 ระยะ วิธีการเก็บรักษาแห้ว และประโยชน์ของแห้ว พัฒนาโมเดลด้วยโปรแกรม 3DS max Unity สร้างมาคเกอร์ด้วย Vuforia และ Visual Studio การพัฒนาสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว พบว่า สื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว สามารถใช้งานได้จริง โดยแสดงผลในรูปแบบสามมิติ ผ่านเทคโนโลยีความจริงเสริม Augmented Reality ผลการประเมินประสิทธิภาพสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้ว โดยผู้เชียวชาญ พบว่า ประสิทธิภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ย 4.33 และด้านเทคนิคอยู่ในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ย 4.47 และผลการประเมินความพึงพอใจสื่อเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การเพาะปลูกแห้วจากกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ความพึงพอใจของผู้ใช้งานอยู่ในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ย 4.50</p>
วรนุช จันทร์โอ
สุกัญญา เจริญกิจธนลาภ
กัญญารัตน์ ไกยสวน
จิรพันธุ์ หิรัญ
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
27
37
-
กลยุทธ์การจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/276411
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี 2) วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี 3) กำหนดกลยุทธ์การจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 15 คน ใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่ม ผลการวิจัยพบว่า 1) แหล่งท่องเที่ยวมีศักยภาพเชิงพื้นที่ครบทั้ง 4 องค์ประกอบ (4As) ได้แก่ สิ่งดึงดูดใจการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอํานวยความสะดวก และการให้บริการ 2) การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก (SWOT Analysis) จุดแข็ง คือ แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงระดับประเทศและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว จุดอ่อน คือ ขาดการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างแหล่งท่องเที่ยวหลักไปยังแหล่งท่องเที่ยวรอง โอกาส คือ ความนิยมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น และอุปสรรค คือ การขับเคลื่อนนโยบายด้าน การท่องเที่ยวยังไม่เป็นรูปธรรมและขาดงบประมาณสนับสนุน และ 3) กลยุทธ์การจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนอำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี จากการทำ TOWS Matrix ได้แก่ กลยุทธ์เชิงรุก (1) การประชาสัมพันธ์ข้อมูลและเรื่องราวของแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยเฉพาะสื่อออนไลน์ (2) การยกระดับผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวและบริการให้ได้มาตรฐาน (3) การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมให้สอดคล้องกับแหล่งท่องเที่ยว กลยุทธ์เชิงป้องกัน ได้แก่ (1) การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นเพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสำหรับเยาวชน (2) สนับสนุนงบประมาณเพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของภาครัฐ กลยุทธ์เชิงแก้ไข ได้แก่ (1) การอบรมให้ความรู้พัฒนาทักษะชุมชนและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง (2) การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว และกลยุทธ์เชิงรับ ได้แก่ การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างแหล่งท่องเที่ยวหลักและแหล่งท่องเที่ยวรอง</p>
ยุลดา ทรัพย์สมบูรณ์
สุธิษา เชญชาญ
เสาวพร สุขเกิด
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
38
52
-
การพัฒนาโมเดลการสื่อสารทางการตลาดธุรกิจออนไลน์ สำหรับกลุ่มผู้แปรรูปสมุนไพรจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ใน 5 อำเภอชายขอบ จังหวัดตาก
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/276536
<p>การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาโมเดลการสื่อสารทางการตลาดของธุรกิจออนไลน์สำหรับกลุ่มผู้แปรรูปสมุนไพรจากภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 5 อำเภอชายขอบ จังหวัดตาก และ 2) เพื่อถ่ายทอดโมเดลการสื่อสารทางการตลาดของธุรกิจออนไลน์ให้กับกลุ่มผู้แปรรูปสมุนไพรจากภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 5 อำเภอชายขอบ จังหวัดตาก เก็บรวบรวมข้อมูลโดยจัดการสนทนากลุ่มภาคีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาโมเดลการสื่อสารทางการตลาดฯ จำนวน 50 คน จัดสนทนากลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินโมเดลการสื่อสารทางการตลาดฯ จำนวน 9 คน สอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่ใช้โมเดลการตลาด จำนวน 222 คน และสอบถามความคิดเห็นของสมาชิกกลุ่มผู้แปรรูปสมุนไพรจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เข้าร่วมถ่ายทอด จำนวน 93 คน ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ในรูปค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบดังนี้ 1) การพัฒนาโมเดลการสื่อสารทางการตลาดของธุรกิจออนไลน์สำหรับกลุ่มผู้แปรรูปสมุนไพรจากภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 5 อำเภอชายขอบ จังหวัดตาก พบว่า มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ (1) สร้างภาพรวมหน้าเพจเฟซบุ๊ก (2) สร้างภาพโพร์ไฟล์เพจเฟซบุ๊ก (3) สร้างภาพปกเพจเฟซบุ๊ก (4) การตกแต่งภาพผลิตภัณฑ์ (5) จัดทำสื่อวิดีโอประชาสัมพันธ์ (6) การโพสต์ภาพผลิตภัณฑ์ (7) การโพสต์สื่อวีดีโอประชาสัมพันธ์ และ 2) การถ่ายทอดโมเดลการสื่อสารทางการตลาดของธุรกิจออนไลน์ให้กับกลุ่มผู้แปรรูปสมุนไพรจากภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 5 อำเภอชายขอบ จังหวัดตาก พบว่า ผู้เข้ารับการถ่ายทอดมีความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมการถ่ายทอดโมเดลการสื่อสารทางการตลาดของธุรกิจออนไลน์ฯ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28, S.D = 0.23) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการถ่ายทอดของนักวิจัย รองลงมา คือ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก/ระยะเวลา และด้านการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตามลำดับ</p>
รัชนีวรรณ บุญอนนท์
ชัยรัตน์ ขันแก้ว
วาสนา จรูญศรีโชติกำจร
ยุชิตา กันหามิ่ง
วรางค์ รามบุตร
พัตราภรณ์ อารีเอื้อ
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
53
66
-
การรับรู้ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟน ของผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y ในเขตกรุงเทพมหานคร
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/275758
<p>การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบความตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y ในเขตกรุงเทพมหานคร ตามปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน และ 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของการรับรู้ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y ในเขตกรุงเทพมหานคร ประชากรที่ศึกษาเป็นผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y อายุ 28-43 ปี ที่รู้จักและ/หรือตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่งไม่ทราบจำนวนประชากร เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t-test, One Way ANOVA และสมการถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง อายุ 36-39 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ย 20,000-39,999 บาท และมีสถานภาพโสด โดยผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y รับรู้ความเสี่ยงและมีความตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟนในระดับปานกลาง ผลการทดสอบสมมติฐาน ณ ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 พบว่าผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y ที่มีอายุ รายได้ และสถานภาพสมรส ที่แตกต่างกัน มีความตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟนแตกต่างกัน การศึกษายังพบว่าความเสี่ยงด้านการเงินมีอิทธิพลทางลบ ขณะที่ความเสี่ยงด้านจิตใจ มีผลทางบวก ต่อความตั้งใจใช้ระบบชำระเงิน NFC ด้วยสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคกลุ่ม Generation Y ในเขตกรุงเทพมหานคร</p>
ประพันธ์ วงศ์บางโพ
นิฤมล แสงหงษ์
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
67
79
-
พิชิตยอดเขาวงพระจันทร์แห่งลพบุรี : กลวิธีการใช้เรื่องเล่าผูกโยงเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวผ่านแคมเปญการท่องเที่ยว “รักจริงแค่ไหน Key นี้คือคำตอบ”
https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawasrijo/article/view/276446
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการผูกเรื่องเล่าเพื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญของจังหวัด ผ่านแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว “รักจริงแค่ไหน Key นี้คือคำตอบ” ซึ่งเป็นแคมเปญเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เป็นคู่รักให้มาพิสูจน์ความรักแท้โดยการเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้น เพื่อพิชิตยอดเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี และไปคล้องกุญแจคู่รักบนยอดเขา อันแสดงถึงความรักแท้ เก็บข้อมูลโดยการศึกษาเอกสารประชาสัมพันธ์แคมเปญ ตำราและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม และการสัมภาษณ์ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ตัวบทตามกรอบแนวคิดเรื่องเล่าของ Todorov (1969) และ Freytag (1895) ผลการวิจัยพบว่าแคมเปญ “รักจริงแค่ไหน Key นี้คือคำตอบ” ถูกออกแบบให้เป็นเสมือนกับละครรักเรื่องหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวคู่รักเป็นตัวละครหลัก มีพล๊อตเรื่องเหมือนละครรักทั่วไปโดยถูกนำไปผูกโยงเข้ากับการที่คู่รักต้องต้องฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อพิสูจน์ความรักแท้โดยการเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้น เพื่อไปคล้องกุญแจคู่รักบนยอดเขาวงพระจันทร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักแท้ และเป็นตอนจบของละครเรื่องนี้ การวางพล๊อตเรื่องมีโครงสร้างเป็นไปตามทฤษฎีเรื่องเล่าของ Todorov และ Freytag ประกอบด้วย 5 องก์ ได้แก่ 1) การปูเรื่อง 2) การพัฒนาเหตุการณ์ 3) จุดสุดยอด 4) ภาวะคลี่คลาย และ 5) การยุติเรื่องราวแก่นเรื่องของเรื่อง ได้แก่ “รักแท้เอาชนะทุกสิ่ง” ได้แก่ การฝ่าฟันผ่านอุปสรรคการเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้น เพื่อพิชิตยอดเขาวงพระจันทร์</p>
บุญญเลขา มากบุญ
รัชชนก สวนสีดา
Copyright (c) 2024 วารสารลวะศรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-12-31
2024-12-31
8 2
80
91