วารสารบัณฑิตศาส์น มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj <p>1. เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและงานวิจัยของคณาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตลอดจนแขนงวิชาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระพุทธศาสนา ปรัชญา รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ การจัดการ การจัดการเชิงพุทธ จิตวิทยาบริหารธุรกิจ การบริหารการศึกษา การพัฒนาสังคม เป็นต้น</p> <p>2. เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยและสังคม</p> <p>3. เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิชาการให้เป็นไปตามพันธกิจของบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย</p> บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย th-TH วารสารบัณฑิตศาส์น มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย 1685-4063 <p>บทความวิชาการและบทความวิจัยในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศาส์น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์</p> การพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางฟิสิกส์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/272432 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนแนวตรง ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ 2) เพื่อศึกษาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางฟิสิกส์ของนักเรียนที่ใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ และ &nbsp;&nbsp;3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดนางสาว (ถาวรราษฎร์บำรุง) อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ 2) แบบประเมินความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางฟิสิกส์ 3) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง และ 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนแนวตรง ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ มีผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทีระดับ .05 2) ผลการศึกษาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางฟิสิกส์ของนักเรียนที่ใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ นักเรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางฟิสิกส์ อยู่ในระดับดี และ 3) ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ อยู่ในระดับมากที่สุด</p> <p>&nbsp;</p> ปวีณา ยกพล ดร.นิวัฒน์ บุญสม Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 แนวทางการจัดการความรู้ในโรงเรียนวัดปรังกาสี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/272433 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) การจัดการความรู้ในโรงเรียนวัดปรังกา 2) แนวทางการพัฒนาการจัดการความรู้ในโรงเรียนวัดปรังกาสี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 34 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการจัดการความรู้ตามแนวคิดของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p><strong>ผลการวิจัยพบว่า</strong></p> <ol> <li class="show">การจัดการความรู้ในโรงเรียนวัดปรังกาสี โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านการเรียนรู้ ด้านการสร้างและแสวงหา ด้านการบ่งชี้ความรู้ ด้านการจัดการความรู้ให้เป็นระบบ ด้านการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ด้านการเข้าถึงความรู้ และด้านการประมวลและกลั่นกรองความรู้</li> <li class="show">แนวทางการพัฒนาการจัดการความรู้ในโรงเรียนวัดปรังกาสี ควรดำเนินการ ดังนี้ 1) ควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการตัดสินใจร่วมกันระหว่างบุคลากรในโรงเรียนคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง 2) ควรมีการสำรวจความเห็นและความต้องการของบุคลากรในโรงเรียนในด้านความต้องการสร้างและแสวงหาความรู้ในด้านต่าง ๆ 3) ผลักดันให้บุคลากรผู้รับผิดชอบงานในแต่ละฝ่ายร่วมกันจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงาน 4) ควรมีการรวบรวมความรู้และทักษะจากประสบการณ์ของบุคลากรในโรงเรียน 5) ควรมีการสำรวจรับฟังปัญหาวิธีการเข้าถึงความรู้ในองค์กร 6) ควรมีการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ให้นำความรู้ที่ได้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกโรงเรียนมาจัดนิทรรศการให้ความรู้แก่ครูบุคลากรและนักเรียน 7) ควรจัดกิจกรรมสร้างบรรยากาศให้บุคลากรเกิดการเรียนรู้ในโรงเรียน</li> </ol> นจรส ศิริขรรแสง ดร.สงวน อินทร์รักษ์ Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 ทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/269928 <p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p><strong>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; </strong>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย&nbsp; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม (2) ความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย&nbsp; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และ (3) ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการ ของผู้บริหารโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย&nbsp; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม กลุ่มตัวอย่างคือครูโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย&nbsp; ใช้วิธีสุ่มแบบการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) จำนวน 113 คน&nbsp; เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ &nbsp;สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ &nbsp;ค่าร้อยละ &nbsp;ค่าเฉลี่ย &nbsp;และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson Product-Moment Correlation Coefficient)</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการวิจัยพบว่า: (1) ระดับความคิดเห็นของครูโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัยเกี่ยวกับทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารของโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย&nbsp; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงครามโดยรวมและรายด้านอยู่ใน ระดับมาก (2) ระดับความคิดเห็นของครูโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัยเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารของโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย&nbsp;สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงครามโดยรวมและรายด้านอยู่ใน ระดับมาก และ(3) ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะการบริหารในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัยวิทยาลัยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ในภาพรวมที่ความสัมพันธ์ทางบวกระดับสูง&nbsp; อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 (r<sub>XtotYtot</sub> = .75)</p> พรหมพิริยะ พนาสนธิ์ กรปภา เจริญชันษา อรวรรณ ชมชัยยา ชัยการ วาทะงาม Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 An Empirical Analysis of Oil Painting Techniques Under Opera Symbols https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271766 <p>Chinese opera has a powerful and unique symbolic identity. This paper focuses on the symbolic symbols in the multiple and complex symbolic systems of the opera and uses its own creations as an example to start a discussion on the visual images. Through the system of meaning under symbolization and the extended transcendental value of the connotative meaning of the opera are reconstructed in the visual images, exploring the other side of human nature and forming an intricate and contradictory deconstruction body. Opera's unique symbol system throughout the performance process of the opera, injecting new life into traditional Chinese culture, especially in the stage performance to strengthen the charm of opera, enriching the diversified and profound art theater.</p> Chuifa Zeng Imelda Hermilinda Adas Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 Artistic Conception and Emotions of Jiangnan Gardens in Imagery Oil Paintings https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271767 <p>The art of oil painting, which originated in Europe, has been developed in China for more than 400 years since it was introduced to China in the Ming Dynasty. As one of the most popular types of paintings in the world, oil painting has undergone the development and renewal of several generations of Chinese oil painters, who have continuously explored a road of oil painting with Chinese characteristics. Since the 1950s and 1960s, when the "nationalization of oil painting" was proposed, Chinese oil painting has gradually formed a style of imaginative oil painting, which mainly focuses on writing, through the exploration of many oil painters. As a representative of ancient Chinese garden art, Jiangnan Garden, with its unique garden design method and concept, contains the highest pursuit of aesthetic spirit of ancient Chinese intellectuals. Jiangnan garden is an important heritage of world culture. Therefore, how to express Jiangnan gardens becomes a good entry point for imagery oil painting. Through analysis, this paper explores the Chinese understanding and pursuit of aesthetics in imaginative oil painting, the intrinsic connection between Jiangnan gardens and contemporary oil paintings, especially how to express the mood and embodied emotions in Jiangnan gardens through oil paintings. In order to provide useful inspiration for oil painters.</p> Jin Huang Parichart Kluensuwan Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 The Expression of Nanyang Han Stone Relief in New Media https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271765 <p>Han Dynasty is a very important dynasty in the history of our country. The rapid development of productivity and economy has created unprecedented prosperity of culture and art.. In the art of the Han Dynasty, "Han stone reliefs" can be said to be the most representative art form, and they reproduce all aspects of social life in the Han Dynasty more intuitively in the form of images.With the rapid development of new media technology, mankind has entered a new era of digital technology communication. Computers, the Internet, the information superhighway ... all kinds of new digital technologies are coming, and their development speed, communication quantity and even information communication mode have undergone unprecedented changes. New media has brought new exhibition space for traditional art, which subverts our aesthetic comprehension of traditional art. The visual language of traditional art is a portrayal of life in a specific era, among which the stone reliefs of the Han Dynasty in Nanyang reflect the material living conditions, ideology and cultural thoughts in the Han Dynasty. Its graphic language is extremely rich and often full of amazing and incredible artistic connotations, which is the treasure of China culture and art. At present, the performance of Nanyang Han stone relief in new media has become a hot research topic.</p> <p>This Article aimed to study (1) As an ancient tomb art, how can Nanyang Han Dynasty stone reliefs maintain their vitality in the modern society where new media is developing rapidly?(2)How does the new media affect the display and presentation of Nanyang Han stone reliefs?(3)What are the advantages and disadvantages of Nanyang Han stone reliefs displayed by new media in terms of cultural inheritance and protection? How to carry out cultural inheritance and protection?</p> <p>the sample was more than 300 people from different occupations, genders and different age groups, and experts who study Nanyang Han stone reliefs, as well as the staff of Nanyang Hanhua Museum, etc.They was selected by author of this article the instrument for collecting data was historical research method,interview questionnaire analysis method,physical analysis methodIncluding qualitative research method and quantitative research method.</p> <p>Analysis data by Descriptive statistics and Content Analysis. The research results were found as follows;</p> <p>1.People's understanding of Nanyang Han Dynasty stone reliefs is not deep enough, and the performance of Nanyang Han Dynasty stone reliefs in new media needs creative transformation to achieve the purpose of spreading, promoting and protecting traditional culture.</p> <p>2.The research on the performance of Nanyang Han Dynasty stone reliefs in new media can provide reference for the protection and inheritance of other cultural heritage.</p> <p>3.The expression of Nanyang Han Dynasty stone relief in new media, a brand-new art form, will continue to expand and develop in the future, bringing us a more colorful art world.</p> Li Pan Sakon Phungamdee Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 Influence of Perceived Risk and Trust Factors on Personal Internet Financial Behavior in Shanxi Province, China https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271072 <p>With the rise of Internet financial management, more and more companies have opened Internet financial management platforms and are playing a role in the increasingly mature process of Internet financial management. The purpose of this study is to explore the influencing factors that influence personal Internet financial behavior and provide suggestions for the development of Internet financial management. This study adopted a mixed research method of qualitative and quantitative methods, and obtained relevant data through qualitative research tools such as literature review and in-depth interviews, as well as through questionnaires and online collection. A total of 457 questionnaires were collected for quantitative research. The reliability and validity of the model were tested using SPSS software and Amos software, and a more in-depth analysis was conducted using structural equation modeling. Through the above methods, this paper investigates the influencing factors of personal Internet financial behavior in Taiyuan City, Shanxi Province.</p> <p>It is found that perceived risk, consumer trust and corporate reputation all have a significant positive impact on personal Internet financial behaviour. Meanwhile, corporate reputation has a mediating effect on perceived risk and consumer trust in personal Internet financial management behaviour.</p> Birou Wen Anong Rungsuk Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 An Overview of the Study of the Spread and Development of the Clarinet in China https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271768 <p>The clarinet is an indispensable member of the Western woodwind instruments, which was born in Europe and produced around the end of the 17th century. Its predecessors were the afros and the salumos. With the advent of the age of sail, it was introduced to China with the Western missionaries and several other Western orchestral instruments at the end of the 19th century. It is used in orchestras, wind bands, military bands and chamber music. In Europe and developed countries, the clarinet has been developed and spread more efficiently, with a higher degree of acceptance by the public. Clarinet in Asia, Japan, Singapore, the development of wind music compared to other countries is also more rapid. The purpose of this paper is to collect literature on the spread and development of the clarinet in China from home and abroad, in order to help the clarinet spread and develop better in China.</p> Zeyu Wei Kovit Kantasiri Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 The Effects of Job Characteristics and Total Rewards on Employee Innovation Performance in Shanxi Province, China https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271071 <p>Innovation is the soul of a nation's progress and the key to winning in the increasingly fierce competition. Innovation is the strategic support for the construction of a modern economic system and the first driving force for economic development. In order to establish and maintain the competitive advantages of enterprises and promote the sustainable development of China's economy, it is urgent for China's economy to shift from external power to internal power and from "factor driven" to "innovation driven".</p> <p>This paper adopts a combination of qualitative and quantitative research methods. Through a sample survey of 1151 employees of enterprises in Shanxi Province, and in-depth interviews with 20 executives of human resources, R&amp;D departments, front-line innovative employees, and researchers of human resources management theories, data analysis is conducted using NVIVO, SPSS and AMOS software. To verify the correctness of the model and hypothesis. It is found that Job Characteristics, Total Rewards and Human Capital Investment have significant positive effects on Employee Innovation Performance. Job Characteristics and Total Rewards have a significant positive impact on Human Capital Investment. Human Capital Investment plays an intermediary role among Job Characteristics, Total Rewards and Employee Innovation Performance.</p> Yunping Shi Anong Rungsuk Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 พรหมวิหารธรรม:หลักธรรมในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/272434 <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำเสนอหลักธรรมในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองโดยการประยุกต์หลักพรหมวิหาร 4 ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง โดยการรักษามุ่งเน้นไปที่การรักษาความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานแบบองค์รวม พร้อมสนับสนุนผู้ป่วยแบบประคับประคองด้วยทัศนคติเชิงบวกในช่วงสุดท้ายของชีวิต ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลควรน้อมนำหลักธรรมพรหมวิหารธรรมมาใช้ในการปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจ มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจ มีความเอื้ออาทร และไม่เลือกปฏิบัติในการดูแลผู้รับบริการ เช่น ผู้ป่วยและญาติ โดยตระหนักถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเคารพคุณค่าของชีวิต ขณะเดียวกันก็ปฏิบัติการพยาบาลด้วยความเมตตา กรุณาอันละเอียดอ่อน และช่วยเหลือประคับประคองทั้งผู้ป่วยและญาติ ด้วยเหตุนี้ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเหล่านี้จะสนับสนุนให้พยาบาลมีความเข้าใจต่อธรรมชาติของชีวิตและตระหนักถึงคุณค่าในวิชาชีพการพยาบาลที่ประกอบด้วยคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกในการเห็นคุณค่าของวิชาชีพ ที่อยู่บนพื้นฐานของความมีเมตตา กรุณา อันเป็นผลให้พยาบาลสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้จากไปได้อย่างสงบ</p> สุณี เวชประสิทธิ์ ดวงกมล สุขทองสา แน่งน้อย สมเจริญ Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามหลักพุทธธรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/268830 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ (๑) เพื่อศึกษาองค์ประกอบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามหลักพุทธธรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (๒) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามหลักพุทธธรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (๓) เพื่อประเมินและรับรองรูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามหลักพุทธธรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods&nbsp; Research) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน ๒๒๖ โรงเรียน ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน หัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และครู รวม ๖๗๘ คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นมาตรวัดแบบประมาณค่า ๕ ระดับ ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง ๐.๖-๑.๐ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง ๐.๓๐๒-๐.๘๓๕ และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๙๘ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์เชิงเส้นและวิเคราะห์เนื้อหา โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสถิติ ผลการวิจัยพบว่า ๑) ผลการศึกษาองค์ประกอบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามหลักพุทธธรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เอกสาร ตำรา ที่เกี่ยวกับงานวิชาการ สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ได้ร่างองค์ประกอบ จำนวน ๑๒ องค์ประกอบ และ ๙๐ ตัวแปร ๒) ผลการสร้างรูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามหลักพุทธธรรมของโรงเรียนมัธยมศึกษา จากการวิเคราะห์หา ความสัมพันธ์เชิงเส้น พบว่า องค์ประกอบที่มีค่าอิทธิพลมากที่สุดคือ ด้านการมีส่วนร่วม เท่ากับ ๐.๔๖ ด้านนโยบาย เท่ากับ ๐.๓๒ และด้านการจัดการและพัฒนานักเรียน เท่ากับ ๐.๒๕ มีค่าสถิติทาง &nbsp;Chi-square = .724, df = 1, p-value = .395, c<sup>2</sup>/df = 1, GFI = 1.000, AGFI = .985, CFI = 1.000, RMR = .000, RMSEA = .000 แสดงได้ว่าพหุตัวแปรมีความสัมพันธ์กันและมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และ ๓) ผลการประเมินและรับรองรูปแบบจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า เป็นรูปแบบที่มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญ ๔ องค์ประกอบ ซึ่งมีความเหมาะสม ถูกต้อง เป็นไปได้ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบแนวคิดทฤษฎีของการวิจัย</p> ชัยยา พันธ์เพชร พระมหาไกรวรรณ์ ชินทตฺติโย (ปุณขันธ์), ดร Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 สถาปัตยกรรมพระบรมธาตุเจดีย์ที่มีอิทธิพลต่อวิถีชืวิตของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271723 <p>เมืองนครศรีธรรมราช มีชื่อเดิมว่า ตามพรลิงค์ ศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกายได้เข้ามามีในช่วงแรก ต่อมาพระพุทธศาสนาลัทธิหินยาน นิกายลังกาวงศ์เข้ามาแทนที่ศาสนาพราหมณ์ ราชวงศ์ที่สำคัญผู้ให้การสนับสนุน คือ ราชวงศ์ศรีธรรมโศกราช ได้สถาปนาพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชขึ้นเป็นศูนย์กลางแห่งความศักดิ์สิทธิของรัฐ ใช้สภาพภูมิประเทศที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อแต่โบราณหาดทรายแก้วเป็นสถานที่ก่อตั้ง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารและพระบรมธาตุเจดีย์ ประกอบด้วย ปัจจัยด้านความเชื่อทางศาสนา ปัจจัยด้านการปกครองเมือง ปัจจัยด้านวัฒนธรรมและวรรณกรรมพื้นบ้าน ปัจจัยด้านความมั่นคงและการรวมตัวกันของประชากร</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp; ปัจจัยด้านความเชื่อทางพระพุทธศาสนาที่กล่าวมาส่งผลให้เกิดคติความเชื่อและคติธรรม ส่งผ่านการสร้างสรรค์ผลงานทางสถาปัตยกรรมต่างๆ อาทิ การวางผังในเขตพุทธาวาสและองค์พระบรมธาตุเจดีย์ คติธรรมที่ได้รับจากงานสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ได้แก่ การสื่อความหมายด้วยหลักพุทธรรมหัวข้อต่างๆที่สำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนต้องยึดถือและนำไปประพฤติปฏิบัติจนสามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ในที่สุด</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp; อิทธิพลของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยหลายด้าน ในกรณีวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พบว่า พระบรมธาตุเจดีย์ก่อให้เกิดการรวมตัวของชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ของไทย การเป็นแม่แบบหรือต้นแบบให้กับงานสถาปัตยกรรมการก่อสร้างเจดีย์ในภูมิภาคอื่นๆทั่วประเทศไทย</p> <p><strong>คำสำคัญ </strong><strong>: </strong>พระพุทธศาสนา<strong>, </strong>สถาปัตยกรรม</p> พระยอดคม คุณสิทฺโธ (ชัยนิรัติศัย) รศ.ดร.บุญร่วม คำเมืองแสน Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 ชีวิตในยุคหลังสมัยใหม่ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271726 <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ชีวิตในยุคหลังสมัยใหม่จะเกี่ยวข้องกับตัวเอง และผู้คนรอบข้าง การรักษาน้ำใจให้กับผู้คนรอบข้าง และไม่ยอมให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำดูแคลนความต่ำต้อยของตนเอง นับว่าเป็นศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจของคนในยุคหลังสมัยใหม่ การยอมรับ ความเชื่อ ความคิดเห็นต่าง หรือการกระทำ การเคลื่อนไหวใดๆ ในสังคมที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งที่คนในยุคหลังสมัยใหม่ยอมรับได้ ชีวิตคนในยุคนี้หวังเพียงแสวงหาแรงจูงใจที่ปรับเปลี่ยนอาชีพ การงานใหม่ไปในทางที่ดีขึ้นซึ่งย่อมมีผลต่อการใช้ชีวิต และความเป็นอยู่รอบตัว</p> อดิศักดิ์ ตั้งปัทมชาติ รศ.ดร. บุญร่วม คำเมืองแสน Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 ปัจจัยการอยู่รอด ปัจจัยการอยู่รอดในนวนิยายเรื่อง"วันหนึ่งในชีวิตของ อีวาน เดนิโซวิช" ตามแนวพุทธศาสนสุภาษิต https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/271931 <p>นวนิยาย“วันหนึ่งในชีวิตของ อีวาน เดนิโซวิช ”เขียนขึ้นจากบันทึกจากประสบการณ์และเหตุกราณ์ ในค่ายกักกันพิเศษกูลัก (Gulag) ที่สร้างขึ้นเฉพาะนักโทษการเมืองที่อเล็กซานเดอร์ ซอลเจนิตซิน (Aleksandr Isayevich Solzhenitsyn) ต้องโทษการเมืองที่นั่น ด้วยข้อหาต่อต้านรัฐโซเวียต ในสมัยโจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) เป็นผู้นำ ข้อมูลที่บันทึกแสดงถึงสภาพการเป็นอยู่ที่อดอยาก การใช้แรงงานก่อสร้างท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในเขตไซบีเรีย มีกฎเหล็กเป็นบทลงโทษผู้กระทำผิด การแสดงออกของตัวละครในเรื่อง มีส่วนสอดคล้องกับพุทธศาสนสุภาษิต จึงนำมาเสนอเป็นบทความ</p> สุขวสา ชิตะปัญญา รศ.ดร. บุุญร่วม คําเมืองแสน Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1 พุทธวิธีในการใช้สื่อธรรมชาติกับการบรรลุธรรม https://so04.tci-thaijo.org/index.php/mgsj/article/view/272539 <p>บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความหมายและความสำคัญของสื่อธรรมชาติ 2) เพื่อศึกษาพุทธวิธีในการใช้สื่อธรรมชาติ 3) เพื่อวิเคราะห์การบรรลุธรรมจากพุทธวิธีการใช้สื่อธรรมชาติ บทความนี้เป็นงานวิจัยเชิงเอกสารซึ่งได้รวบรวมจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) สื่อธรรมชาติเป็นธรรมธาตุ คือ ภาวะที่ทรงตัวอยู่โดยธรรมดา มีการแปรปรวนอยู่รอบตัวมนุษย์และในตัวมนุษย์ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยธรรมชาติ ไม่มีที่ใดว่างจากธรรมชาติ การประยุกต์ใช้สิ่งไกล้ตัวเป็นสื่อเพื่อให้ได้เรียนรู้และเข้าใจในหลักธรรมง่ายขึ้นจึงมีความสำคัญในกระบวนการเรียนรู้ 2) พุทธวิธีการใช้สื่อธรรมชาติ เป็นอุปกรณ์ประกอบการสอนที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล และอุปกรณ์นั้นไม่ต้องลงทุนทำขึ้นใหม่ เพราะเป็นของที่มีอยู่แล้วทั่วทุกหนทุกแห่งตามธรรมชาติ นอกจากนี้ พระพุทธองค์ยังทรงเลือกใช้ในลักษณะของสื่อธรรมชาติเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดโดยคำนึงถึงประเภทของผู้เรียนหรือผู้ฟังเป็นสำคัญ 3) วิเคราะห์การบรรลุธรรม เป็นความสำเร็จหรือการบรรลุจุดหมายในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่การเข้าใจธรรมในระดับต้น ๆ คือ ระดับโลกิยะ จนถึงการเข้าใจธรรมในระดับมรรคผล คือ ระดับโลกุตตระ พระพุทธองค์ทรงใช้สื่อธรรมชาติในกระบวนการฝึกและพัฒนามนุษย์เพื่อการบรรลุสัจธรรมในระดับต่าง ๆ</p> พระมหาฤทธิิรงค์ กิิตฺฺติิรงฺฺโค (เสนาน้้อย) Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 22 1