วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru <p><strong> วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา</strong> มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้า และเพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการแก่นักวิจัย นักวิชาการ คณาจารย์ และนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ในมิติเพื่อสนับสนุนการศึกษา การสอน การวิจัย วารสารมุ่งเน้นบทความทางด้านรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ การจัดการ บริหารธุรกิจ ศิลปศาสตร์ การศึกษาเชิงประยุกต์ และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เปิดรับบทความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ <br /> วารสารมีกระบวนการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิก่อนตีพิมพ์ โดยบทความที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน ในลักษณะปกปิดรายชื่อ (Double blind peer-reviewed) ทั้งนี้บทความจากผู้นิพนธ์ภายในจะได้รับการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกหน่วยงานที่จัดทำวารสาร ส่วนบทความจากผู้นิพนธ์ภายนอกจะได้รับการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิภายใน หรือนอกหน่วยงานที่จัดทำวารสารที่มีความเชี่ยวชาญในสาขา และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้นิพนธ์</p> th-TH [email protected] (ณัฏฐชัย เอกนราจินดาวัฒน์) [email protected] (นายอภิชาติ ปามา) Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การบริหารจัดการแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสู่เวทีโลก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268396 <p>อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้สำคัญอันดับต้นของประเทศที่มีต้นทุนน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่นด้วยการท่องเที่ยวมีวัตถุดิบที่สำคัญคือทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของถิ่นที่ชวนเชิญนักท่องเที่ยวให้มาเยือน ประเด็นสำคัญคือการบริหารจัดการในการวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องและจริงจังโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้คุ้มค่า ในการนี้ควรมีจังหวัดที่เป็นโครงการนำร่อง โดยบทความนี้มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นในการส่งเสริมแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจะขอนำเสนอจังหวัดภูเก็ตเพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากลเป็นโครงการนำร่อง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศ โดยแผนพัฒนาที่สำคัญได้แก่ การพัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการ การคมนาคมทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยทุกระบบมาใช้ทั้งทางด้านอารยสถาปัตยกรรม ระบบการสื่อสาร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว การสร้างจิตสำนึก การให้บริการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทุกอาชีพ การจัดการอำนวยความสะดวกเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวตามมาตรฐานสากลเป็นต้นแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนี้เป็นภาพรวมที่ทุกจังหวัดสามารถนำไปปรับใช้ตามเอกลักษณ์และความพร้อม หากทุกจังหวัดสามารถดำเนินการได้ การท่องเที่ยวประเทศไทยจะก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ</p> สมใจ ตุ้งกู, มณีกัญญา นากามัทสึ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268396 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพการให้บริการของศูนย์ซ่อมรถยนต์ ศึกษากรณี บริษัท พี แอนด์ เอ็น เซอร์วิส (555) จำกัด https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268439 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพการให้บริการของศูนย์ซ่อมรถยนต์ 2) เปรียบเทียบความแตกต่างของปัจจัยด้านลักษณะประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพการให้บริการของศูนย์ซ่อมรถยนต์ และ 3) ปัจจัยด้านพฤติกรรมการใช้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพการให้บริการของศูนย์ซ่อมรถยนต์ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงผสม การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือลูกค้าผู้มาใช้บริการของศูนย์ซ่อมรถยนต์ บริษัท พี แอนด์ เอ็น เซอร์วิส (555) จำกัด จำนวน 180 คน คัดเลือกกลุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และการวิเคราะห์แบบถดถอยพหุคูณ ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 14 คน คัดเลือกกลุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้คือการสัมภาษณ์เชิงลึก ใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า 1) ความพึงพอใจของลูกค้าในด้านการเอาใจใส่ต่อผู้รับบริการ ด้านการตอบสนองต่อลูกค้า ด้านความเชื่อถือไว้วางใจได้ ด้านความเชื่อมั่นของผู้รับบริการ และด้านความเป็นรูปธรรมของบริการ อยู่ในระดับมากทุกด้าน ตามลำดับ 2) ปัจจัยด้านลักษณะประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพการให้บริการไม่แตกต่างกันคือ เพศ ระดับการศึกษา และอาชีพ ยกเว้น อายุ และรายได้ และ 3) ปัจจัยด้านพฤติกรรมการใช้บริการ ด้านวัตถุประสงค์ในการเลือกใช้บริการ เหตุผลในการเลือกใช้บริการ ช่วงเวลาที่ใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งในการใช้บริการมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจของลูกค้าในคุณภาพการให้บริการของศูนย์ซ่อมรถยนต์ในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ</p> ปภัสรา สำราญเลิศฤทธิ์, ณัฐณภรณ์ เอกนราจินดาวัฒน์ Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268439 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 แนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจโฮสเทลในยุควิถีใหม่ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268441 <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจโฮสเทลในยุควิถีใหม่ รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้บริหารธุรกิจโฮสเทล นักวิชาการด้านการตลาด และตัวแทนผู้ใช้บริการ จำนวน 15 คน ใช้วิธีคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า แนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจโฮสเทลในยุควิถีใหม่มีดังนี้ หน่วยงานภาครัฐควรส่งเสริมและสนับสนุน 1) ธุรกิจโฮสเทล ให้มีความพร้อมในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ<br />2) ธุรกิจโฮสเทล ให้มีการวางแผนสำรองสำหรับสถานการณ์ในรูปแบบต่าง ๆ มองให้เห็นภาพสถานการณ์ที่แย่ที่สุด และหาทางแก้ไขรองรับ 3) ธุรกิจโฮสเทลให้มีการพัฒนามาตรฐานการบริการ และ4) ธุรกิจโฮสเทล ให้มีนโยบายการส่งเสริมการตลาด โดยเฉพาะการส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ผู้บริหารธุรกิจโฮสเทลควรส่งเสริมและสนับสนุน คือ 1) ให้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น 2) การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้เทียบเท่าโรงแรม แต่ลูกค้าสามารถจ่ายค่าบริการในราคาประหยัด 3) สร้างความพึงพอใจและความมั่นใจต่อลูกค้า โดยมีนโยบายการปรับปรุงการสื่อสารเพื่อแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า 4) การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน การทำงานตามสถานการณ์เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ตามด้วยประหยัดทรัพยากร และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5) พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้ กำหนดเป้าหมายเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของธุรกิจ ทำให้บุคคลทำงานในความรับผิดชอบได้ดี และ 6) การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ โดยมีการสร้างเครือข่ายธุรกิจ มีการรวมกลุ่มเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนธุรกิจโฮสเทลไปสู่การบริหารแบบมืออาชีพ </p> สุรางค์รัตน์ เพิ่มพูนศรีศิลป์, ศรีปริญญา ธูปกระจ่าง, สโรชินี ศิริวัฒนา Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268441 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 การเลือกทำเลที่ตั้งเพื่อจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าการเกษตร กรณีศึกษา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดอุดรธานี https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/264381 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาทำเลที่ตั้งของศูนย์กระจายสินค้าการเกษตรจังหวัดอุดรธานี และ วิเคราะห์รูปแบบการขนส่งและศูนย์กระจายสินค้าของสินค้าการเกษตร ใช้รูปแบบการวิจัยแบบเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็น กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จังหวัดอุดรธานี จำนวน 2,717 กลุ่ม เลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 20 กลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์จุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง (Center of Gravity) ในการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ตำแหน่งที่ตั้งศูนย์กระจายสินค้าการเกษตรจังหวัดอุดรธานี อยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 2) รูปแบบการขนส่ง คือ Direct shipment (เส้นทางใหม่) ของศูนย์กระจายสินค้าการเกษตรจังหวัดอุดรธานีใหม่ ผลตัวชี้วัด ระยะทางการขนส่งน้อยลงคิดเป็นร้อยละ 0.67 และต้นทุนรวมทั้งหมดน้อยลง คิดเป็นร้อยละ 3.60 ดังนั้น การจัดเส้นทางการขนส่งที่เหมาะสมด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ สำหรับการขนส่งของรถแต่ละสาย ในการนำผลการวิจัยที่ค้นพบไปใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถใช้ข้อมูลสนับสนุนในการก่อตั้งศูนย์กระจายสินค้าการเกษตรจังหวัดอุดรธานี และส่งเสริมการตลาดจากวิสาหกิจชุมชนเป็นสิ่งจำเป็นการค้าส่ง ค้าปลีก</p> สุรพงศ์ อินทรภักดิ์, ภิรายุ แสนบุดดา, นภัสวรรณ คุ้มครอง Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/264381 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้งานหุ่นยนต์ “สวัสดีพยาบาล” ของพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268364 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อคุณภาพการบริการของ “หุ่นยนต์สวัสดีพยาบาล” ของประชาชนที่ใช้บริการในโรงพยาบาลชัยภูมิ เขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และ 2) เพื่อศึกษาความต้องการของประชาชนต่อคุณภาพการบริการของ “หุ่นยนต์สวัสดีพยาบาล”ของประชาชนที่ใช้บริการในโรงพยาบาลชัยภูมิ เขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ประชาชนที่ได้ใช้บริการโรงพยาบาลชัยภูมิ จำนวน 400 ราย ใช้สูตรการคำณวน W. G. Cochran เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนา ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีวิจัยเชิงเอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลสำคัญได้แก่ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเข้าใจหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องหุ่นยนต์ จำนวน 10 คน ได้กำหนดข้อมูลสำคัญเลือกแบบเจาะจง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อคุณภาพการบริการของหุ่นยนต์ “สวัสดีพยาบาล” รายด้านโดยรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากทุกด้าน และ 2) ระดับความต้องการของประชาชนต่อคุณภาพการบริการของหุ่นยนต์ “สวัสดีพยาบาล” โดยภาพรวมมีความต้องการอยู่ในระดับมากทุกด้าน “หุ่นยนต์สวัสดีพยาบาล” ควรต้องมีการพัฒนาศักยภาพให้สูงกว่านี้ในการให้บริการผู้ป่วยด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหุ่นยนต์ในด้านการเคลื่อนไหว และวิธีการใช้งานให้ผู้มารับบริการเข้าใจง่ายใช้เป็น</p> ณัฐณภรณ์ เอกนราจินดาวัฒน์, จันทนา แจ้งเจนเวทย์, ฉัณทิพย์ จำเดิมเผด็จศึก, สุภาพ พงษ์เพ็ง Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/268364 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 การพัฒนากระบวนการผลิตไม้กวาดดอกหญ้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสตรี ทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/260873 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไม้กวาดดอกหญ้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสตรีทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี 2) การลดต้นทุนในการผลิตไม้กวาดดอกหญ้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสตรีทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ</p> <p>สรุปผลการเปรียบเทียบก่อนปรับปรุงและหลังการปรับปรุง ผลการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ระยะเวลา 12 เดือนจำนวนการผลิต มีจำนวนทั้งสิ้น 2,880 ด้าม คิดเป็นจำนวนเงิน 171,665 บาท ผลหลังการปรับปรุงเพิ่มเป็นจำนวนการผลิต 4,315 ด้าม คิดเป็นจำนวนเงิน 280,475 บาทและมีผลต่างที่เกิดขึ้นหลังการปรับปรุงทั้งสิ้น 1,442 ด้าม ค่าเฉลี่ยคิดเป็น 120.17 ด้าม ผลต่างคิดเป็นจำนวนเงิน 108,810 บาท ค่าเฉลี่ยคิดเป็น 7,772.92 บาท และแสดงการเปรียบเทียบการปรับปรุงการลดต้นทุนในการผลิตไม้กวาดดอกหญ้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสตรีทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี ระยะเวลา 12 เดือน ก่อนปรับปรุงน้ำหนัก 3,657.60 กิโลกรัมต่อปี ค่าขนส่ง 128,016.00 บาทต่อปี ผลหลังการปรับปรุงน้ำหนักลดลงเหลือ 2,736.00 กิโลกรัมต่อปี ค่าขนส่ง 54,720 บาทต่อปี และมีผลต่างที่เกิดขึ้นหลังการปรับปรุงทั้งสิ้น 921.60 กิโลกรัมต่อปี ค่าขนส่ง 73,296.00 บาทต่อปี</p> ศรายุทธ ขวัญเมือง, อมรรัตน์ หมื่นจิตน้อย, นภัสวรรณ คุ้มครอง Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/260873 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 คุณลักษณะของผู้สอบบัญชีและทักษะวิชาชีพบัญชีส่งผลต่อคุณภาพของรายงานการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีในเขตกรุงเทพและคุณลักษณะของผู้สอบบัญชีและทักษะวิชาชีพบัญชีปริมณฑล https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/266500 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาคุณลักษณะของผู้สอบบัญชีที่ส่งผลต่อคุณภาพของรายงานการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และ 2) ศึกษาทักษะวิชาชีพบัญชีที่ส่ง ผลต่อคุณภาพของรายงานการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในเขตกรุงเทพและปริมณฑล กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่อยู่ในในพื้นที่เดียวกัน จำนวน 384 คนใช้สูตร ทาโร่ ยามาเน่ เป็นการวิจัยแบบปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหูคูณ <br />ผลการวิจัย พบว่า 1) โดยภาพรวมผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงลำดับจากมากไปน้อย พบว่า ด้านความโปร่งใส่ มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก และคือด้านความเป็นอิสระ มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือด้านความเที่ยงธรรม อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ ด้านการเก็บรักษาความลับ มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ ด้านความรู้ความสามารถ มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ และ 2) ทักษะวิชาชีพของบัญชีมีอิทธิพลทางบวกต่อคุณภาพของรายงานการตรวจสอบบัญชีในพื้นที่เดียวกัน ในทางวิถีความถดถอยเชิงพหุคูณ ผู้สอบบัญชีมีอิทธิพลทางบวกในความถูกต้อง ความชัดเจน ความกะทัดรัด ความคิดสร้างสรรค์ และความทันเวลาของรายงานการตรวจสอบบัญชีที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.01 และ 0.05</p> อลิชญา อยู่สวัสดิ์, พรรณทิพย์ อย่างกลั่น Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/266500 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 การรับรู้ถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีและการตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชีของนักวิชาการเงินและบัญชี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/265742 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาการรับรู้ถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีของนักวิชาการเงินและบัญชี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 2) เพื่อศึกษาการรับรู้ถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชีของนักวิชาการเงินและบัญชี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักวิชาการเงินและบัญชี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 301 รายโดยใช้สูตรของ Taro Yamane มีการวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงอนุมาน โดยการวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การรับรู้ถึงประโยชน์ที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีและการตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชี ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกของระบบ ด้านการนำมาใช้งานจริง ด้านคุณภาพของระบบ ด้านคุณภาพของข้อมูล ด้านลักษณะการทำงานของโปรแกรม และด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดหาโปรแกรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01</p> ณิชกานต์ อินทร์จันทร์, ดารณี เอื้อชนะจิต Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/265742 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนในการบริหารสินทรัพย์ ความสามารถในการบริหารหนี้สิน และความสามารถในการทำกำไรที่ส่งผลต่อเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/266403 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ของความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ที่ส่งผลต่อเงินปันผล 2) ศึกษาความสัมพันธ์ของความสามารถในการบริหารหนี้สินที่ส่งผลต่อเงินปันผล และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ของความสามารถในการทำกำไรที่ส่งผลต่อเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากงบการเงินที่มีข้อมูลครบถ้วน 80 บริษัท จำนวน 240 ตัวอย่าง ช่วงปี พ.ศ.2562 – 2564 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติโดยใช้การวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเพื่ออธิบายลักษณะทั่วไปของตัวแปร การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปรอิสระ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเพื่อทดสอบสมมติฐานการวิจัย</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า อัตราส่วนหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์รวม และอัตรากำไรขั้นต้นมีอิทธิพลทางลบกับอัตราการจ่ายเงินปันผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 อัตรากำไรจากการดำเนินงานมีอิทธิพลทางบวกกับอัตราการจ่ายเงินปันผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์รวมมีอิทธิพลทางลบกับอัตราเงินปันผลตอบแทน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01</p> ศศลักษณ์ ปวงสุข, มัตธิมา กรงเต้น Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/266403 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 สภาพคล่องและความสามารถบริหารหนี้สินส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและสภาพคล่องและความสามารถบริหารหนี้สินส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรผลตอบแทนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/266901 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพคล่องประกอบด้วยอัตราส่วนทุนหมุนเวียน อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็วและอัตราส่วนเงินสด ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ประกอบด้วยอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตรากำไรสุทธิ 2) ศึกษาความสามารถบริหารหนี้สินประกอบด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ประกอบด้วยอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตรากำไรสุทธิ 3) ศึกษาการบริหารสภาพคล่องประกอบด้วยอัตราส่วนทุนหมุนเวียน อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็วและอัตราส่วนเงินสด ที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทน ประกอบด้วยราคาหุ้นและอัตราเงินปันผลตอบแทน 4) ศึกษาความสามารถบริหารหนี้สินประกอบด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทน ประกอบด้วยราคาหุ้นและอัตราเงินปันผลตอบแทน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวน 67 แห่ง ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน คำนวณหาค่าสูงสุด และคำนวณหาค่าต่ำสุด การวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มีสภาพคล่อง ความสามารถในการบริหารหนี้สิน และความสามารถในการทำกำไร สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการทดสอบสมมติฐาน พบว่า การบริหารสภาพคล่อง ความสามารถในการบริหารหนี้สิน ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงการบริหารสภาพคล่อง และความสามารถบริหารหนี้สินได้ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลตอบแทนของกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p> วิชิตา สวนมะลิ, ดารณี เอื้อชนะจิต Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/266901 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700 การพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพผลิตไม้กวาดดอกหญ้าวิสาหกิจชุมชน กลุ่มอาชีพสตรีทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/260875 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไม้กวาดดอกหญ้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสตรีทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ การศึกษาวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสตรีทำไม้กวาดดอกแขมบ้านโคกสี พบว่าใช้วัตถุดิบตามธรรมชาติเป็นแหล่งวัตถุดิบแหล่งใหญ่ของชุมชน ในการดำเนินการผลิตไม้กวาด และผลิตไม่กวาดมานานมากกว่า 30 ปี และปัจจุบันยังใช้วิธีการผลิตแบบเดิม ยังไม่มีการปรับปรุงวิธีการผลิตในรูปแบบใหม่หรือยังไม่เคยทดลองการผลิตในรูปแบบใหม่ เพื่อการพัฒนาวิธีการที่เหมาะสมในการผลิตพบว่าการออกแบบอุปกรณ์ในการกำหนดระยะที่เหมาะสมของการวางไม้กวาดนั้น สามารถทำให้ผลิตไม้กวาดเพิ่มขึ้นได้</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การเปรียบเทียบก่อนปรับปรุงและหลังการปรับปรุง ผลการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ระยะเวลา 12 เดือนจำนวนการผลิต มีจำนวนทั้งสิ้น 2,880 ด้ามต่อปี คิดเป็นจำนวนเงิน 171,665 บาทต่อปี ผลหลังการปรับปรุงเพิ่มเป็นจำนวนการผลิต 4,315 ด้ามต่อปี คิดเป็นจำนวนเงิน 280,475 บาทต่อปี และมีผลต่างที่เกิดขึ้นหลังการปรับปรุงทั้งสิ้น 1,442 ด้าม และมีค่าเฉลี่ยคิดเป็น 120.17 ด้ามต่อเดือน ผลต่างคิดเป็นจำนวนเงิน 108,810 บาทต่อปี ค่าเฉลี่ยต่อเดือนคิดเป็น 7,772.92 บาทต่อเดือนสามารถเพิ่มผลผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย</p> นภัสวรรณ คุ้มครอง, ศรายุทธ ขวัญเมือง, ภิรายุ แสนบุดดา Copyright (c) 2023 วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/polssru/article/view/260875 Sun, 31 Dec 2023 00:00:00 +0700