วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku <p><strong>ประกาศ: </strong><strong> ทางวารสารฯ เ<span style="text-decoration: underline;">ปิดรับบทความเพื่อตีพิมพ์วารสารฯ</span> ปีที่ 50 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน พ.ศ. 2567) เป็นต้นไป</strong></p> <p><strong>ออกใบตอบรับการตีพิมพ์ให้หลังผู้เขียนแก้ไขบทความที่ผ่านการ peer review (Double Blind Peer Review) หรือระยะเวลาประมาณ 2 เดือน</strong></p> <p><strong>วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์:</strong> จัดทำโดย<em> คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์</em></p> <p><strong>ISSN:</strong> 0125-2860 (ลิขสิทธิ์)</p> <p><strong>กำหนดออกเผยแพร่:</strong> 2 ฉบับ/ปี (ฉบับที่1 มกราคม-มิถุนายน และ ฉบับที่2 กรกฎาคม-ธันวาคม)</p> <p><strong>ขอบเขตของเนื้อหา</strong>: บทความวิจัยและบทความวิชาการทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ได้แก่ <em>สาขาจิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์</em> และสาขาสังคมศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> <p><strong>ประเภทบทความที่เปิดรับ:</strong> 1) บทความวิจัย 2) บทความวิชาการ 3) บทความพิเศษ และ 4) บทแนะนำหนังสือและบทวิจารณ์หนังสือ</p> <p><strong>ภาษา: </strong>ภาษาไทย / ภาษาอังกฤษ</p> <p><strong>จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ:</strong> 3 ท่าน/บทความ</p> <p><strong>วัตถุประสงค์:</strong> <br />1) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คณาจารย์ นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป ได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัย <br />2) เป็นแหล่งในการเสนอผลงานรวมทั้ง แลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล ความคิดเห็นทางวิชาการและวิจัย อันจะเป็นการพัฒนาการศึกษาและการวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์</p> <p><strong>*ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์*</strong></p> th-TH [email protected] (Asst. Prof. Kangsadan Chowathanakun. Ph.D.) [email protected] (นันท์นภัส อุดมละมุล) Tue, 26 Dec 2023 10:20:48 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การขึ้นทะเบียนเยาวชนผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/260628 <p style="margin: 0cm; margin-bottom: .0001pt; text-indent: 36.0pt;"><span lang="TH" style="font-size: 16.0pt; font-family: 'TH SarabunPSK','sans-serif';">วิจัยฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนเยาวชนผู้กระทำผิดเกี่ยวกับเพศ ซึ่งเป็นมาตรการทางกฎหมายในการติดตามตรวจสอบเยาวชนผู้กระทำผิดทางเพศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำ ป้องกันบุคคลที่อยู่ร่วมกับผู้กระทำความผิด และเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวน โดยผลการศึกษาพบว่าการศึกษากฎหมายในประเทศอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับมาตรการขึ้นทะเบียนเยาวชนผู้กระทำผิดทางเพศในหัวข้อดังต่อไปนี้ </span><span style="font-size: 16.0pt; font-family: 'TH SarabunPSK','sans-serif';">1.<span lang="TH">การขึ้นทะเบียนเยาวชนผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเพศและประเภทของความผิดทางเพศ</span>&nbsp;2.<span lang="TH">การแจ้งข้อมูลเยาวชนผู้กระความผิดทางเพศ วิธีการและข้อกำหนดในเรื่องระยะเวลาในการแจ้งข้อมูลของเยาวชนผู้กระทำความผิดทางเพศ</span>&nbsp;3.<span lang="TH">การเข้าถึงข้อมูลเยาวชนผู้กระทำความผิดทางเพศ</span>&nbsp;&nbsp;4.<span lang="TH">การกำจัดสิทธิเยาวชนผู้กระทำความผิดทางเพศ เนื่องจากในบางกรณีเมื่อเยาวชนได้กระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนดกฎหมายอาจมีการจำกัดสิทธิในบางประกาศ เช่น การจำกัดเขตที่อยู่อาศัยของเยาวชนผู้กระทำผิดทางเพศ และมาตรการทางกฎหมายในการติดตามตรวจสอบเยาวชนผู้กระทำผิดในประเทศไทย อย่างมาตรการในการขึ้นทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อนำมาศึกษาและปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างมาตรการของประเทศอังกฤษและมาตรการของประเทศไทย รวมทั้งพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการนำมาตรการการขึ้นทะเบียนเยาวชนผู้กระทำผิดทางเพศมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน โดยงานวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและใช้ระเบียบวิจัยเชิงพรรณนา</span></span></p> Warapat Ratanapanich Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/260628 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 การลดทอนความผิดอาญาและการยกเลิกความผิดลหุโทษ: ศึกษาบทบัญญัติซึ่งไม่ครบตามองค์ประกอบของโครงสร้างของความผิดอาญา https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/262317 <p>ความผิดลหุโทษ เป็นความผิดที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการบัญญัติกฎหมายอาญาเพื่อคุ้มครองความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด จึงได้มีการบัญญัติให้การกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับไว้ในประมวลกฎหมายอาญาและมีโทษทางอาญา เมื่อพิจารณาถึงลักษณะของความผิดลหุโทษตามบทบัญญัติมาตรา 367 ถึงมาตรา 398 แล้ว ทำให้พบว่า บทบัญญัติของความผิดลหุโทษบางมาตราต้องการองค์ประกอบภายในส่วนของเจตนาแต่บางมาตราไม่ต้องการ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากความผิดอาญาทั่วไปที่ถือว่าเจตนาเป็นสาระสำคัญของการวินิจฉัยความผิดอาญา การศึกษาวิจัยถึงแนวคิดในการกำหนดความผิดอาญา โครงสร้างของความผิดอาญา แนวคิดในการกำหนดโทษอาญาทั้งตามกฎหมายของประเทศไทยและประเทศที่ใช้ระบบซีวิลลอว์ แนวคิดในการลดทอนความผิดอาญา แล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกับเจตนารมณ์ของบทบัญญัติ มาตรา 77 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งวางหลักให้ การกำหนดโทษทางอาญาในกฎหมายนั้น ให้กำหนดเฉพาะในความผิดร้ายแรง สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการบัญญัติกฎหมายที่มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การกำหนดทุกความผิดให้มีโทษทางอาญาสมควรได้รับการแก้ไข ในทางตรงข้ามการลดทอนความผิดอาญามีแนวโน้มในความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น งานวิจัยเล่มนี้ จึงเห็นควรว่าต้องมีการทบทวน แก้ไขบทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญา ภาคลหุโทษ เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางที่เหมาะสมในการจัดแบ่งกลุ่มของความผิดอาญาลหุโทษให้ชัดเจนเป็นระบบและสอดคล้องกับหลักวิชาการทางกฎหมายอาญาตลอดจนสภาพการณ์ของสังคมปัจจุบัน</p> <p>ผลจากการศึกษาวิจัย ทำให้เข้าใจถึงแนวคิดในการกำหนดความผิดอาญาและได้มาซึ่งแนวทางการจัดแบ่งกลุ่มความผิดของบทบัญญัติ ภาคลหุโทษทั้ง 32 มาตรา ทั้งในส่วนของการกระทำที่เป็นความผิดอาญาและส่วนที่ไม่ควรเป็นความผิดอาญา โดยเสนอแนะในรูปแบบผสมผสานระหว่างแนวทางของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยจัดวางความผิดที่มีลักษณะของความผิดอาญาที่แท้จริง สอดคล้องกับหลักของโครงสร้างของความผิดอาญาไว้ในประมวลกฎหมายอาญา ภาค 2 ความผิด และนำความผิดที่ไม่มีลักษณะของความผิดอาญา ไม่เป็นการกระทำที่เป็นก่ออันตรายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนไปบัญญัติไว้ในกฎหมายอื่นซึ่งไม่มีการลงโทษทางอาญา ทั้งนี้ เพื่อให้การกำหนดความผิดอาญามีกรอบที่ชัดเจนเป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพ ตลอดจนเป็นธรรมอย่างแท้จริง</p> Supachalee Devahastin Na Ayudhya Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/262317 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 ปทัสถานทางสังคมของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ที่มีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/266615 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลกับปทัสถานทางสังคม และ 2) เพื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างปทัสถานทางสังคมกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณโดยการสุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้ความน่าจะเป็นกับกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า โดยมีค่าความเชื่อมั่น 0.925 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคลกับปทัสถานทางสังคม เป็นเพศหญิง มีอายุ 31-40 ปี สถานภาพสมรส ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพพนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีรายได้ต่อเดือนละ 20,001-30,000 บาท และ 2) ปทัสถานทางสังคมของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ที่มีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน 1) ด้านกฎหมาย (Laws) รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ กฎหมายไม่สามารถโต้แย้งได้ โดยจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจอธิปไตย ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันทางการเมือง เสรีภาพพลเมือง 2) ด้านวิถีชาวบ้าน (Folkways) กฎเกณฑ์ความประพฤติที่มนุษย์แสดงออกตามวิถีชีวิตและสังคมที่ตนได้รับการฝึกฝนและขัดเกลา และ 3) ด้านกฎศีลธรรม (Morals) อุปนิสัย อุปนิสัย ความเอื้อเฟื้อ คือส่วนในของบุคคล รู้สิ่งเหล่านี้จากกิริยาที่แสดงออกทางกาย วาจา และเมื่อทำการทดสอบสมมุติฐาน ความสัมพันธ์ระหว่างปทัสถานทางสังคมกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ทุกด้านยอมรับสมมติฐาน</p> Dr.Chattawat Shatnataphat Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/266615 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 พลวัตการบวชแบบลาวในชุมชนบ้านลาดพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/265193 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ศึกษาพลวัตการบวชแบบลาว ในบริบทการเปลี่ยนแปลงจากชุมชนบ้านลาดพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม โดยใช้ระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพ นำเสนอข้อมูลด้วยการพรรณนาเชิงวิเคราะห์ ศึกษาทั้งเอกสาร และลงพื้นที่วิจัยเก็บข้อมูล จากผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน เจ้าภาพงานบวช ผู้เคยผ่านการบวช และชาวบ้าน แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยแนวคิดพลวัตวัฒนธรรม</p> <p>&nbsp;ผลการศึกษาพบว่า การบวชในชุมชนบ้านลาดพัฒนาได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ การเมือง สังคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ โดยรูปแบบการบวชแบบลาวยุคจารีตนั้น ยึดโยงกับหลักพระธรรมวินัยที่เป็นพระอุปัชฌาย์มีคุณสมบัติตามหลักธรรมวินัยคือ มีพรรษาสิบ มีอันเตวาสิก เลื่อมใส และมีคุณสมบัติเป็นสัทธิวิหาริก พร้อมมีการจัดงานแบบประเพณีลาว ต่อมาภายหลังเมื่ออิทธิพลทางการเมืองของสยามได้เข้าปกครอง สยามรวมศูนย์อำนาจการปกครองคณะสงฆ์ ทำให้ผู้ที่เป็นอุปัชฌาย์ได้นั้น ไม่เพียงแค่มีคุณสมบัติตามพระธรรมวินัยเท่านั้น หากแต่ยังต้องได้รับการแต่งตั้งหรือรับรองจากองค์กรคณะสงฆ์ไทย พร้อมกับครอบงำวัฒนธรรมลาวให้เป็นแบบไทย ทั้งนี้ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ยังมีผลให้วัฒนธรรมการบวชเปลี่ยนแปลงทั้งการจัดงานบวชและระยะเวลาการบวช การบวชแบบลาวผ่านกรณีศึกษาบ้านลาดพัฒนา จึงพลวัตไปตามเงื่อนไขประวัติศาสตร์ การเมือง สังคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจอย่างเลื่อนไหล</p> Varaditdhammasan Utairuang (Chatapayo) Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/265193 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 พลวัตแนวคิดและปฏิบัติการของประชาสังคมไทยด้านการจัดการทรัพยากร หลังปี พ.ศ. 2549 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/265053 <p>งานวิจัยเรื่อง “พลวัตแนวคิดและปฏิบัติการของประชาสังคมไทยด้านการจัดการทรัพยากร หลังปี พ.ศ. 2549” มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพลวัตแนวคิดและปฏิบัติการของประชาสังคมไทยด้านการจัดการทรัพยากร หลังปี พ.ศ. 2549 ผ่านปฏิบัติการผลักดันโฉนดชุมชน และการคัดค้านนโยบายทวงคืนผืนป่าและการแก้ไขปัญหาป่าไม้ที่ดินของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ในบริบทการเมือง เศรษฐกิจ สังคม หลังรัฐประหาร พ.ศ. 2549 ซึ่งมีความขัดแย้งทางการเมืองและรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ การแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาสังคมด้านทรัพยากรป่าไม้ที่ดินไม่มีความคืบหน้า ในขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 มีบทบัญญัติเรื่องสิทธิชุมชนกลายเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ทำให้ภาคประชาสังคมใช้ต่อรองกับรัฐ กระทั่งรัฐประหารในปี พ.ศ. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และได้ใช้อำนาจในการจำกัดเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งการจัดการทรัพยากรจนสร้างผลกระทบกับประชาชน ผลการศึกษาพบว่าแนวคิดเรื่องสิทธิชุมชน เป็นแนวคิดหลักที่ขบวนการประชาสังคมใช้เพื่อต่อสู้เพื่อการจัดการทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปัญหาป่าไม้ที่ดินในสามกรณีที่กล่าวมา ส่วนในเชิงปฏิบัติการ พบว่า ขบวนการประชาสังคมใช้ยุทธศาสตร์แทรกเข้าไปในพื้นที่ของรัฐ (Forward Infiltration) ผ่านการเมืองของอิทธิพล (The Politic of Influence) ด้วยการต่อต้าน การล็อบบี้ การให้ข้อมูลโดยใช้ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อกดดันให้รัฐตอบสนองข้อเรียกร้อง ในขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ตอบโต้ด้วยการแทรกเข้าไปในพื้นที่ของประชาสังคม (Backward Infiltration) ด้วยยุทธศาสตร์การเมืองของการแทนที่ (The Politic of Substitution) ผ่านระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2557</p> Niphawan Kaewsaentip, สุรางค์รัตน์ จำเนียรพล Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/265053 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 เพศชายกับการถูกคุกคามทางเพศในสถานบันเทิง กรุงเทพมหานคร https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/260108 <p>บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบพฤติกรรมการถูกคุกคามทางเพศของเพศชายในสถานบันเทิง กรุงเทพมหานคร และวิธีการรับมือและตอบโต้เมื่อเพศชายเผชิญกับเหตุการณ์การถูกคุกคามทางเพศในสถานบันเทิง กรุงเทพมหานคร โดยใช้ระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการศึกษาข้อมูลจากเอกสารและสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 15 คน ผลการศึกษาพบว่าการถูกคุกคามทางเพศของเพศชายในสถานบันเทิง กรุงเทพมหานคร แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบ ได้แก่ 1. รูปแบบทางร่างกาย เช่น การจับอวัยวะเพศหรือบั้นท้าย 2. รูปแบบทางวาจา เช่น อวัยวะเพศใหญ่จัง 3. รูปแบบทางสายตา เช่น การมองร่างกายเป็นระยะเวลา 10&nbsp; วินาทีขึ้นไป 4. รูปแบบทางท่าทาง การกำมือเป็นกำปั้นแล้วพยักหน้าขึ้นลง และ 5. รูปแบบทางการสื่อสาร เช่น การแอบถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ โดยวิธีการรับมือและตอบโต้เมื่อเพศชายเผชิญกับเหตุการณ์การถูกคุกคามทางเพศในสถานบันเทิงโดยส่วนใหญ่ ได้แก่ การประนีประนอม คือ การใช้คำพูดในทางปฏิเสธ ว่ากล่าวตักเตือน เดินหลีกหนีออกไปจากสถานการณ์นั้น หรือการอดทนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น นิ่งเฉย นอนหลับ และ การแจ้งให้ผู้อื่นทราบโดยบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เพื่อนทราบ ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางในการถูกคุกคามทางเพศของเพศชายในสถานบันเทิง จึงเห็นควรให้รัฐบาลมีนโยบายหรือบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ ประชาสัมพันธ์การถูกคุกคามทางเพศ และควรบรรจุเรื่องการคุกคามทางเพศเพิ่มในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับประชาชนชายมิให้ตกเป็นเหยื่อถูกคุกคามทางเพศ</p> Nanrapat Chaiakaraphong, Suthina Wiroonwachira Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/260108 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 สถานภาพและบทบาททางการเมืองของผู้หญิงชนชั้นสูงในราชสำนักสมัยธนบุรี https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/261185 <p>งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานภาพและบทบาททางการเมืองของผู้หญิงชนชั้นสูงในราชสำนักสมัยธนบุรี ดำเนินการวิจัยด้วยการศึกษาจากเอกสาร โดยยึดระเบียบวิธีวิจัยทางประวัติศาสตร์ในการดำเนินการวิจัย ซึ่งมีขั้นตอนสำคัญ คือ การศึกษาทบทวนตรวจสอบเอกสารและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งหลักฐานชั้นต้นและชั้นรอง การวิพากษ์หลักฐาน วิพากษ์ข้อมูล ตีความข้อมูล สังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ และนำเสนอในรูปแบบพรรณนาวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงชนชั้นสูงในราชสำนักสมัยธนบุรี ได้แก่ หม่อมเจ้ามิตร หม่อมเจ้ากระจาด หม่อมเจ้าอุบล หม่อมเจ้าฉิม เจ้าจอมฉิมหรือกรมบริจาภักดีศรีสุดารักษ์ รวมถึงเจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ มีสถานภาพเป็นภรรยาของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี อีกทั้งยังมีชาติกำเนิดเป็นชนชั้นสูง ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับผู้มีอำนาจทางการเมืองการปกครองในฐานะลูกสาวหรือหลานสาว สถานภาพดังกล่าวส่งผลให้ผู้หญิงชนชั้นสูงข้างต้นมีบทบาททางการเมืองในลักษณะของการเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายทางการเมือง</p> theranun therathanakorn Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/261185 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 อัตลักษณ์แห่งชาติของไต้หวันกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/261458 <p>บทความวิจัยนี้มุ่งศึกษาการเกิด การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์แห่งชาติของไต้หวันที่ดำรงควบคู่ไปกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพผ่านเอกสารทุติยภูมิในการวิเคราะห์ถึงอัตลักษณ์และผลประโยชน์ของไต้หวัน และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างอัตลักษณ์และผลประโยชน์ของไต้หวันซึ่งมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไต้หวันและจีน &nbsp;เพื่อศึกษาความเกี่ยวเนื่องของอัตลักษณ์แห่งชาติของไต้หวันกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ และการขับเคลื่อนการพัฒนาอัตลักษณ์แห่งชาติของไต้หวันกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่าท่าทีและสถานการณ์ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ ตลอดจนหลักการทางกฎหมายและสนธิสัญญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันระหว่างไต้หวัน-จีนก่อให้เกิดสำนึก การพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของไต้หวันเพิ่มมากขึ้นซึ่งขับเคลื่อนทั้งโดยภาครัฐและภาคประชาชน จนอนาคตทางการเมืองและผู้ปกครองของไต้หวันถูกผูกโยงไปกับการพัฒนาอัตลักษณ์ทางการเมืองกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ การพัฒนาอัตลักษณ์ของไต้หวันได้นำมาซึ่งสำนึกในความเป็นไต้หวันและแบ่งแยกจากจีน แต่ไต้หวันก็ยังไม่อาจไปสู่อิสรภาพอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันการพัฒนาอัตลักษณ์ของไต้หวันก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่ออนาคตความสัมพันธ์กับจีนอีกด้วย</p> Suppakarn Pongyelar, ปิยะฉัตร จิรฉวีวรรณ Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/261458 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 Communication Strategy of "Knowledge of Thai Traditional Medicine" to Counter Fake News on Social Networks of Thai Traditional Medical Agencies in Thailand https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/263033 <p>This research aimed to study about: 1) communication process; 2) communication strategy; 3) communication problems and obstacles; and 4) guidelines to communicate knowledge of Thai traditional medicine to counter fake news on social networks by means of mixed method research. For quantitative one, samples from the central region of the country (from 22 provinces) were collected with the total number of 2,508 people. For qualitative method, in-depth interview from Thai traditional medical agencies.<br>The findings revealed that : 1) communication process of knowledge of Thai traditional medicine to counter fake news on social networks was having Thai traditional medical personnel as key messengers focusing on communicating facts and using suitable media with the target group of different age range, which was congruent with opinion survey results related to factors affecting “Knowledge of Thai Traditional Medicine” communication of Thai people, who had always received the information on this matter from the network of hospitals at a high level with the mean score of 4.11 2) communication strategy involved propagating facts within twenty-four hours after fake news had been detected ; 3) significant problems and obstacles were those of quantity and speed of fake news on social media which was found to be in abundance; and 4) one communication guideline that AI should be used to detect fake news and propagate facts, law should be strictly enforced and so forth. </p> nutcha pattananukit Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/263033 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 จากนโยบาย “ลูกคนเดียว” สู่ “ลูกสามคน” https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/260917 <p>ตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 เหมา เจ๋อตงสนับสนุนให้จีนมีประชากรจำนวนมาก เพราะเป็นทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว แต่จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ 1970 สร้างความกังวลให้แก่เติ้ง เสี่ยวผิงผู้นำจีนรุ่นที่ 2 เป็นอย่างมาก เขาจึงประกาศใช้ “นโยบายลูกคนเดียว” ทั่วประเทศในปี 1979</p> <p>ตลอด 35 ปี นโยบายลูกคนเดียวได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างประชากร ความเชื่อ สังคม และเศรษฐกิจ ในสังคมจีนไปอย่างสิ้นเชิง บทความชิ้นนี้ต้องการอภิปรายนโยบายลูกคนเดียว ผลของนโยบายดังกล่าว การประกาศใช้ “นโยบายลูกสองคน” และ “นโยบายลูกสามคน” ของรัฐบาลจีน ผู้เขียนวิเคราะห์ความท้าทายของนโยบายดังกล่าวซึ่งที่มีท่าทีที่จะไม่ประสบความสำเร็จอันเป็นผลจากสถานะของผู้หญิงในสังคมจีน ค่านิยมในสังคมจีนที่เปลี่ยนไป สถานะทางเศรษฐกิจ และการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และโรคระบาด</p> ลดาวัลย์ ไข่คำ Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/260917 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 พุทธรัฐศาสตร์ : บทศึกษาเบื้องต้นว่าด้วยความหมาย และการประยุกต์ใช้กับการเมืองการปกครอง https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/261396 <p>บทความวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายของพุทธรัฐศาสตร์ และหลักธรรมใดในศาสนาพุทธที่ประยุกต์ใช้กับการเมืองการปกครองได้และประยุกต์ใช้อย่างไร โดยกำหนดเกณฑ์การเลือกคือ เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ประยุกต์ใช้ได้จริง ผลการศึกษาพบว่า “พุทธรัฐศาสตร์” เป็นความรู้เกี่ยวกับการนำหลักธรรมในศาสนาพุทธมาประยุกต์ใช้กับการเมืองการปกครอง หรือเป็นความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาพุทธกับรัฐในมิติการเมืองการปกครอง โดยรัฐและศาสนามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับประชาชนทุกระดับ ส่วนศาสนาพุทธมีหลักธรรมสำคัญที่ง่ายต่อการนำมาประยุกต์ใช้กับการเมืองการปกครอง ได้แก่ สุจริต 3, ฆราวาสธรรม 4, พรหมวิหาร 4, และทศพิธราชธรรม โดยทั้ง 4 หลักธรรมข้างต้นได้ครอบคลุมทั้งกาย วาจา ใจ หากนำมาประยุกต์ใช้ย่อมส่งผลดีต่อตนเองและสังคม โดยเฉพาะในสังคมไทยที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งจะทำให้สังคมมีความเข้มแข็ง และรัฐมีผู้นำทางการเมืองที่ดีและมีคุณธรรม เนื่องจากความรู้ การเมือง และอำนาจไม่อาจทำให้เกิดการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมได้ ดังนั้น หากสามารถนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้อย่างจริงจังและเหมาะสม จะเป็นกลไกหนึ่งในการเสริมพลังให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก และรัฐประสบความสำเร็จในการพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างมั่นคงและยั่งยืน</p> สุนิตย์ เหมนิล Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/261396 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700 ปัจจัยทางสังคมที่มีความสัมพันธ์กับการข่มขื่นกระทำชำเราของเยาวชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ศาลเยาวชนและครอบครัว ภาค 1 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/269528 นวลจันทร์ ทัศนชัยกุล Copyright (c) 2023 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/269528 Tue, 26 Dec 2023 00:00:00 +0700