กลยุทธ์การตลาดธุรกิจข้าวฮาง กรณีศึกษากลุ่มเกษตรบ้านจาน หมู่ที่ 1 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินธุรกิจข้าวฮางของกลุ่มเกษตรกรบ้านจาน หมู่ที่ 1 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อกำหนดกลยุทธ์การตลาดในการประกอบธุรกิจข้าวฮาง ของกลุ่มเกษตรกรบ้านจาน หมู่ที่ 1 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ และ 3) เพื่อติดตามผลการดำเนินงานธุรกิจข้าวฮาง ของกลุ่มเกษตรกรบ้านจาน หมู่ที่ 1 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยคณะผู้วิจัยได้ทำการศึกษากับกลุ่มเกษตรกรบ้านจาน ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสังเกต แบบสอบถามแบบไม่เป็นทางการและแบบสอบถาม ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

จากการดำเนินการวิจัยตามกระบวนการในการวิจัย กลยุทธ์ทางการตลาดของกลุ่มเกษตรกรบ้านจาน หมู่ที่ 1 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ มีผลการศึกษาดังนี้ 1) กลุ่มเกษตรกรบ้านจาน ได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2551 ตั้งอยู่บ้านจาน หมู่ที่ 1 ตำบลโนนนาจาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทำการผลิตข้าวฮางจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชน และเพื่อสร้างความสามัคคีในกลุ่มชาวบ้าน จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบปัญหาด้านการตลาดมากที่สุด 2) กลุ่มเกษตรกรจึงได้กำหนดกลยุทธิ์ทางการตลาดดังนี้ ด้านผลิตภัณฑ์ กลุ่มเกษตรกรบ้านจานจะเน้นคุณภาพของข้าวเป็นอันดับแรกกระบวนการในการผลิตต้องปราศจากสารเคมี และให้ความสำคัญกับการบรรจุและบรรจุภัณฑ์เป็นอันดับรองลงมา, ด้านราคา ในตลาดการแข่งขันยังมีน้อย การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ทำการตลาดเฉพาะเจาะจง (Niche Market) โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นกลุ่มที่รักสุขภาพและมีกำลังซื้อสูง ดังนั้น จึงสามารถกำหนดราคาขายได้สูงแต่ก็ทำการเปรียบเทียบราคาโดยอิงจากราคาในท้องตลาดอยู่เสมอ เพื่อมิให้ราคาสูงมากนัก,ด้านช่องทางจำหน่าย มีการจำหน่ายโดยตรงทั้งขายส่งและขายปลีก รวมถึง การมีร้านค้าที่รับสินค้าไปจำหน่าย และมีตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัด และด้านการส่งเสริมทางการตลาด ได้มีประชาสัมพันธ์โดยจัดทำเป็น แผ่นพับ และป้ายประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ผ่านผู้บริโภคแบบปากต่อปาก รวมถึงการออกร้านตามงานแสดงสินค้าต่างๆก็เป็นการกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี 3) เมื่อได้ติดตามผลการดำเนินตามยุทธ์การตลาดธุรกิจข้าวฮาง พบว่า ได้มีการพัฒนาความรู้ของสมาชิกกลุ่มในการทำธุรกิจชุมชน โดยได้พัฒนาในด้านการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมกับบริบทและสภาพของกลุ่มอันส่งผลให้สมาชิกในกลุ่มได้มีความรู้เพิ่มขึ้นในประกอบการธุรกิจ ส่งผลกระทบในทางที่ดีต่อระบบเศรษฐกิจในชุมชน ทำให้ชุมชนมีรายได้มากขึ้น มีการใช้จ่ายหมุนเวียนกันภายในชุมชน ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจมากขึ้น

This research aimed to study: 1) to study the condition of Khao Hang Business of Ban Jan Agricultural Group. 2) to setting marketing strategy of Khao Hang Business. 3) to monitoring performance of Khao Hang Business and the researchers was conducted with Ban Jan Agricultural Group, Non Nachan Sub-District, Nakhu District, Kalasin Province. Study by using the research tools were observations, formal and informal questionnaire.

The results of research processes were as follows;

1) In 2008,Ban Jan Agricultural Groupwas established at Moo.1, Non Nachan Sub-District, Nakhu District, Kalasin Province, the objective is to increase the income and generosity for the community. From the past marketing is always the problem.

2) Khao Hang Business had developed marketing strategy as follows; Product aspect : Ban Jan Agricultural Group focused on the quality of the rice fi rst. Second, the process of production was free from chemicals and focused on the packaging. Pricing aspect : There was less marketing competition, product positioning was Niche market by the target were a group person who kept fi t and had high purchasing power so the price could be focus in high cost but it always compared with the standard price of marketing to avoid if price was too high. Distribution channel aspect : They had sold directly to wholesale and retail including most stores received products for selling and distribution in the provinces. Marketing promotion aspect : They had commercial advertisements by prepared a brochure and sigh boards, the consumers talked spread widely to publicity as well as various exhibitions that it will boost sales as well.

3) The result of Marketing Strategies of Khao Hang Business shown the group members in the business community had developed knowledge in a marketing strategy appropriate to the context and conditions of the group which a result of the group members had increased the knowledge of Khao Hang business with the local labor and materials that impact on the economy of the community and making the community had increase their income, the current spending within the community, making communities strength and more economically including they had more time with their family members, which impact on society and culture within the community.