อิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อสุขภาวะของประชาชนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี

Main Article Content

Sungkom suparatanagool

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อสุขภาวะของประชาชนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เก็บข้อมูลโดยแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 383 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติพรรณนา และสถิติอนุมาน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่การใช้สื่อสังคมออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ใช้บ่อยบริเวณบ้านพักส่วนตัว โดยส่วนใหญ่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ 1 – 2 ครั้งต่อวันในช่วงตั้งแต่เที่ยงวันจนถึง 6 โมงเย็น ครั้งละ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง มีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนและบุคคลอื่น ทำให้สามารถได้โต้ตอบกับเพื่อนหรือผู้ที่ต้องการจะสื่อสารได้  โดยสื่อสังคมออนไลน์เหล่านี้ ส่งผลดีต่อสุขภาวะทางด้านจิตใจโดยใช้เป็นแหล่งให้ความบันเทิง ต่อสุขภาวะทางด้านสติปัญญาด้วยคือ ใช้เป็นแหล่งเพิ่มพูนความรู้และข่าวสารต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามยังส่งผลเสียต่อสุขภาวะทางด้านร่างกายคือ ทำให้มีอาการเกี่ยวกับดวงตาและการมองเห็น รวมทั้งส่งผลเสียสุขภาวะทางด้านสังคมคือมีเวลาให้สังคมรอบข้างน้อยลง และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ตามประเภทบัญชีผู้ใช้สื่อ สถานที่การเข้าใช้สื่อ ความถี่การใช้สื่อในแต่ละวัน ช่วงเวลาที่ใช้สื่อ วัตถุประสงค์การเข้าใช้สื่อ ประเภทของสื่อและประโยชน์การใช้สื่อ ทั้งหมดนี้สามารถพยากรณ์สุขภาวะของประชาชนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้ร้อยละ 67.7 (R2= .677)


 

Article Details

ประเภทบทความ
Research articles

เอกสารอ้างอิง

กำจร หลุยยะพงศ์. (2556). โซเชียลมีเดียกับเยาวชนไทย. เรียกใช้เมื่อ 28 มกราคม 2561 จาก สิ่งที่ไม่อาจมองข้าม: https://www.leaeners.in.th/article/media_effect/teenagers
จิตติพันธ์ ความคนึง และ มฤษฎ์ แก้วจินดา. (2559). การปรึกษาแบบกลุ่มด้วยเทคนิคการสร้างความมั่นคงทางจิตใจเพื่อเสริมสร้างทักษะการเผชิญปัญหา สำหรับเยาวชนที่ถูกรังแกผ่านโลกไซเบอร์. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
จิรภัทร เริ่มศรี. (2557). พฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี : สถาบันราชภัฎอุบลราชธานี.
ปานระพี รพิพันธุ์. (2557). สถิติการเติบโตของผู้ใช้ Facebook ในไทย และช่วงเวลาไหนคนใช้ facebook มากที่สุด. เรียกใช้เมื่อ 30 ตุลาคม 2560 จาก IT 24 Hrs ไอที24ชั่วโมง เทคโนโลยีใกล้ตัว เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น: https://www.it24hrs.com/2014/infographic-thai-facebook-user-2014/
. (2559). สรุปสถิติผู้ใช้ Social Media ในไทยจากงาน Thailand Zocial Awards 2016. เรียกใช้เมื่อ 30 ตุลาคม 2560 จาก IT 24 Hrs ไอที24ชั่วโมง เทคโนโลยีใกล้ตัว เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น: https://www.it24hrs.com/2016/stat-social-media-thai-populations/
วันวิสาข์ เจริญนาน. (2555). พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย (Social Media) ของคนในกรุงเทพฯ. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการ และธุรกิจ มหาวิยาลัยอัสสัมชัญ.
วิมลทิพย์ มุกสิกพันธ์, สุจินดา ย่องจีน, และ สาลินี จันทร์เจริญ. (2554). โครงการศึกษาการจัดการพฤติกรรมข่มเหงรังแกผ่านโลกไซเบอร์ด้วยการมีส่วนร่วมของครอบครัว. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล.
เอมิกา เหมมินทร์. (2556). พฤติกรรมการใช้และความคิดเห็นเกี่ยวกับผลที่ได้จากการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Media) ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
Honestdocs. (ม.ป.ป.). โซเชียลมีเดียส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างไร. เรียกใช้เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2560 จาก Media Affects Mental Health: https://www.honestdocs.co/social-media-affects-mental-health
Kowalski & Limber. (2013). Psychological, physical, and academic correlates of cyber bullying and traditional bullying. เรียกใช้เมื่อ 31 พฤศจิกายน 2560 จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23790195
Krejcie and Morgan. (1970). DETERMINING SAMPLE SIZE FOR RESEARCH. เรียกใช้เมื่อ 10 กรกฎาคม 2560 จาก https://home.kku.ac.th/sompong/guest_speaker/KrejcieandMorgan_article.pdf
Smith, Merritt Roe; and Leo Marx, eds. (1994). Does Technology Drive History? The Dilemma of Technological Determinism. Cambridge: MIT Press.