นารีเรืองนาม: วรรณกรรมสอนสตรีสมัยหลังรับอิทธิพลตะวันตกที่ปรากฏในหนังสือชำร่วย

Main Article Content

ชนัญชิดา บุญเหาะ

บทคัดย่อ

บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหนังสือรวมบทประพันธ์เรื่องนารีเรืองนามในฐานะวรรณกรรมสอนสตรีสมัยหลังรับอิทธิพลจากตะวันตกทั้งด้านเนื้อหาและกลวิธีการประพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า เรื่องนารีเรืองนามมีเนื้อหาที่มุ่งสนับสนุนสตรีให้เห็นความสำคัญของความรู้ ความกล้าหาญและเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติสืบเนื่องจากบริบทสังคมและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ต้องการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น ในด้านกลวิธีการประพันธ์ กวีนำเสนอเรื่องนารีเรืองนามในลักษณะการเล่าชีวประวัติเชิงสดุดีเกียรติคุณเพื่อยกย่องบทบาทของสตรีในประวัติศาสตร์ไทย สตรีในประวัติศาสตร์ตะวันตกและสตรีในวรรณคดีจำนวน 16 ท่าน ได้แก่ 1)กลุ่มสตรีที่ได้รับการบันทึกอยู่ในพระราชพงศาวดาร 2) กลุ่มสตรีที่ได้รับการยกย่องในฐานะวีรสตรีของฝ่ายสัมพันธมิตรและ 3) กลุ่มสตรีที่เป็นตัวละครเอกของวรรณคดีเรื่องต่าง ๆ  วิธีการคัดเลือกสตรีแต่ละกลุ่มเพื่อยกย่องบทบาทหน้าที่ระหว่างมีชีวิตหรือบทบาทหน้าที่ในฐานะตัวละครเอกล้วนมีความสัมพันธ์กับการควบคุมความรู้ของราชสำนักส่วนกลาง อุดมการณ์ทางการเมืองของชนชั้นนำและบริบทสังคมในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งสะท้อนให้เห็นความคาดหวังต่อบทบาทหน้าที่ของสตรีในสังคมช่วงเวลาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

Article Details

ประเภทบทความ
Review articles

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา แก้วเทพ. (2543). ความเรียงว่าด้วยสตรีกับสื่อมวลชน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กุสุมา รักษมณี. (2534). การวิเคราะห์วรรณคดีไทยตามทฤษฎีวรรณคดีสันสกฤต. กรุงเทพฯ: มูลนิธิ
โครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
กรมศิลปากร. (2513). นารีเรืองนาม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พระจันทร์. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ใน
งานพระราชทานเพลิงศพคุณหญิงคลับ ประดิพัทธภูบาล ณ เมรุวัดธาตุทอง พระโขนง วันที่ 16
มีนาคม พุทธศักราช 2513)
ขัตติยา กรรณสูตร. (2535). “สตรีกับการเมือง” ใน รวมบทความวิชาการ พัฒนาสังคม: แนวคิดและ
การปฏิบัติการ. คณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระและชุมนุมกวี. (2559). นารีเรืองนาม. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:
สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์.
เทพ บุญตานนท์. (2559). การเมืองในการทหารไทย สมัยรัชกาลที่ 6. กรุงเทพฯ: มติชน.
ณัฐวดี ชัยชนะ. (2529).สตรีในสังคมสมัยใหม่: ศึกษากรณีสตรีซึ่งประกอบอาชีพพยาบาล (พ.ศ.2439-2485).
วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นครินทร์ เมฆไตรรัตน์. (2527). ประวัติศาสตร์ภูมิปัญญาของการเปลี่ยนแปลงระบอบปกครองไทย
ระหว่าง พ.ศ.2470-2480. วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิพนธ์ สุขสวัสดิ์. (2520). วรรณคดีไทยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พิฆเณศ.
บัวพร มาลัยคำ. (2544). การศึกษาเปรียบเทียบวรรณกรรมคำสอนสตรีของไทยและลาว. วิทยานิพนธ์
ปริญญาอักษรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ประสิทธิ์ กาพย์กลอน. (ม.ป.ป.). วรรณกรรมประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ: ภาควิชาภาษาไทย
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พัชลินจ์ จีนนุ่น. (2555). ลักษณะเด่นและบทบาททางสังคมของวรรณกรรมคำสอนภาคใต้ “ฉบับพิมพ์เล่มเล็ก”.
วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิมพกา จาดเลน. (2542). “วรรณกรรมคำสอนสำหรับผู้หญิง” ใน ภูมิปัญญาของคนไทย: ศึกษาจากวรรณกรรมคำสอน.
เอกสารการประกอบการประชุมเชิงวิชาการ จัดเมื่อวันที่ 25-26 มีนาคม พ.ศ.2562 ณ ห้องประชุม 10 อาคาร
สารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. เอกสารหมายเลข 3.
พิสิทธิ์ กอบบุญ. (2551). วรรณคดีคำสอน. เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 1411 365 สาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการ
สื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
พฤกษ์ พรหมพันธุม. (2545). “มองมารยาทไทยผ่านแนวคิดสกุลอาณานิคม” ใน ผู้หญิงกับความรู้ 4: รัฐ
เรื่องเล่าและแนวคิดสกุลหลังอาณานิคม. กรุงเทพฯ. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการประเพณี
แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4. จัดโดยโครงการสตรีและเยาวชนศึกษา สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
พฤฒิชา นาคะผิว. (2562). “นารีเรืองนาม: ยอดสตรีในสายตากวีสยามกับแนวทางการดำเนินชีวิตของหญิงและชายสมัย
รัชกาลที่ 6.” วารสารมนุษยศาสตร์วิชาการ. 26, 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม): 63-94.
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (2510). ประมวลบทพระราชนิพนธ์ ภาคปกิณกะ (บางเรื่อง).
พิมพ์ครั้งที่ 5. พระนคร: กรมศิลปากร.
___________________________. (2530). ปลุกใจเสือป่า. กรุงเทพฯ: มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระบรมราชูปถัมภ์.
___________________________. (2540). หลักราชการ. (พิมพ์ครั้งที่ 50). กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2545). พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรมอังกฤษ-ไทย. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.
______________. (2554). พจนานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.
รื่นฤทัย สัจจพันธุ์. (2534). ตัวละครหญิงในวรรณคดีไทยสมัยอยุธยาและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ.1893-2394).
วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิจิตรวาทการ, พลตรี หลวง. (2551). วรรณคดีชาดก. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สร้างสรรค์บุ๊คส์.
สายใจ อินทรัมพรรย์. (2526). “หน่วยที่ 4 วรรณคดีประวัติศาสตร์.” ใน เอกสารการสอนชุดวิชาภาษาไทย 4 : วรรณคดี
ไทย หน่วยที่ 1-7. 219-230. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
สุมาลี ลิ้มประเสริฐ. (2538). ตัวละครหญิงในบทละครพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว: สื่อในการอบรมหญิงไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
ภาษาไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุรีรัตน์ ทองคงอ่วม. (2542). การวิเคราะห์วรรณคดีประวัติศาสตร์ประเภทสดุดีวรรณกรรม. วิทยานิพนธ์
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุวดี ธนประสิทธิ์พัฒนา. (2534). “สถานภาพทางสังคมของสตรีไทยสมัยปฏิรูปประเทศ” ใน อักษรศาสตร์.
23, 2. (กรกฎาคม-ธันวาคม): 302-337
เสาวณิต จุลวงศ์. (2555). “ที่ทางของหญิงและชายในคำสอน” ใน จุลสารลายไทย ฉบับพิเศษวันภาษา
ไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคม 2555. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 64-66.
อนรรฆ พิทักษ์ธานิน. (2550). หนังสืออนุสรณ์งานศพ: พื้นที่แห่งความทรงจำ (ที่ถูกเลือก). ใน ดำรงวิชาการ. 6,1
(มกราคม-มิถุนายน): 134-158.
อัญชลี ภู่ผะกา. (2553). พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว: วรรณคดีกับการสร้างชาติ. วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อภิลักษณ์ เกษมผลกูล. (2561). “วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง” ใน เอกสารการสอนชุดวิชาภาษาถิ่นและ
วรรณกรรมท้องถิ่นไทย สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 6-94. นนทบุรี:
สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.