ทัศนคติของบุคลากรต่อรูปแบบการสื่อสารภายในและพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการเปิดรับข่าวสาร ทัศนคติ พฤติกรรมการมีส่วนร่วม และแนวโน้มการมีส่วนร่วมของบุคลากร เพื่อศึกษาลักษณะส่วนบุคคลกับการเปิดรับข่าวสาร เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับข่าวสารกับทัศนคติต่อรูปแบบการสื่อสาร เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อรูปแบบการสื่อสารกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วม และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อรูปแบบการสื่อสารกับแนวโน้มพฤติกรรมการมีส่วนร่วม โดยวิธีวิจัยเชิงปริมาณเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบง่าย เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามบุคลากรจำนวน 463 คน วิเคราะห์ข้อมูลสถิติพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จากนั้นนำค่าเฉลี่ยแต่ละประเด็นมาคำนวณระดับประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ของ ส.ก.อ. และ ส.ม.ศ. ซึ่งสอดคล้องกับ บุญชม ศรีสะอาด (2545) ที่ได้เสนอช่วงคะแนนที่มีความเป็นกลางและเหมาะสม จากนั้นวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การทดสอบความแตกต่างของลักษณะส่วนบุคคลจะมีการเปิดรับข่าวสารต่างกัน สมมติฐานที่ 1 ประชากรมากกว่า 2 กลุ่มใช้ One-way ANOVA และการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวแปร สมมติฐานที่ 2 3 และ 4 ใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ค่าสถิติ t วิเคราะห์ด้วยโปรแกรม SPSS
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง และมีช่วงอายุ 38-53 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความอดทน สู้งาน และต้องการความมั่นคงการงาน รองลงมากลุ่มช่วงอายุ 23-38 ปี เป็นกลุ่มที่ต้องการการยอมรับ มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นตัวของตนเองสูง ทั้งนี้ ราว 1 ใน 5 เป็นกลุ่มอายุมากกว่า 53 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความขยัน อดทน จริงจังการทำงาน แสดงว่าการจัดการรูปแบบการสื่อสาร ต้องคำนึงถึงกลุ่มอายุที่ต่างกัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล, 2561) และส่วนใหญ่เปิดรับข่าวสารจาก อีเมล หนังสือเวียน และเว็บไซต์ จำนวน 1-2 ครั้งต่อวัน เวลา 08.30-12.00 น. ในวันทำงาน ข่าวสารที่สนใจ ได้แก่ ข่าวประกาศ ข่าวบุคลากร ข่าวกิจกรรมสำคัญ และข่าววิจัยและนวัตกรรม ทัศนคติต่อการสื่อสารแนวราบอยู่ระดับมากที่สุด โดยใช้ช่องทางอีเมลซึ่งทำให้เกิดความรวดเร็ว ประสานงานราบรื่น เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ทัศนคติต่อการสื่อสารจากบนลงล่าง ข่าวสารจากผู้บริหารอยู่ในระดับมาก เนื้อหาข่าวสารที่ทำให้รับรู้นโยบายขององค์กรที่ถูกต้องชัดเจน ผ่านช่องทางเว็บไซต์ที่มีความทันสมัย และทัศนคติต่อการสื่อสารจากล่างขึ้นบน เรื่องที่บุคลากรสะท้อนไปยังผู้บริหาร อยู่ระดับปานกลาง บุคลากรมักใช้ช่องทางออนไลน์ เพื่อเสนอแนะ และคาดหวังการตอบสนอง บุคลากรมีพฤติกรรมการมีส่วนร่วมระดับปานกลาง โดยเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพ และกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม จำนวน 1-5 ครั้งต่อปี และมีแนวโน้มสูงที่จะเข้าร่วมกิจกรรมด้านวิชาการอีก และจะแนะนำให้เพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วยกัน
ผลการวิจัยลักษณะส่วนบุคคลกับการเปิดรับข่าวสารพบว่า เพศหญิงเปิดรับข่าวสารจากอีเมลมากกว่าเพศชาย นอกนั้นไม่พบความแตกต่าง และความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับข่าวสารกับทัศนคติต่อรูปแบบการสื่อสาร พบว่าการเปิดรับข่าวสารจากอีเมลสัมพันธ์กับทัศนคติการสื่อสารแนวราบด้านช่องทาง และสัมพันธ์กับทัศนคติการสื่อสารแบบล่างขึ้นบนทั้งด้านเนื้อหาและช่องทาง และการเปิดรับข่าวสารจากบันทึกข้อความสัมพันธ์กับทัศนคติการสื่อสารแบบบนลงล่าง ด้านช่องทาง และทัศนคติโดยรวมต่อรูปแบบการสื่อสารมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมและแนวโน้มพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ณัฐดนัย เพชรสุ่ม. (2558). พฤติกรรมและความพึงพอใจต่อการสื่อสารภายในองค์การของพนักงานบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จํากัด. การศึกษาอิสระปริญญาวารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการสื่อสารองค์กร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น. ประทุมมา ทาแดง, หญิง โพธิสุวรรณ และ สมพิศ นามเปือย. 2557. ประสิทธิผลของช่องทางการรับสื่อประชาสัมพันธ์คณะทันต แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารวิจัยสถาบัน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2(2): 87-92.
วรัญญู ดอนเหนือ, ทองรวี ศิลาน้อย และ ปรเมศวร์ จรัสเมธากุล. 2563. การศึกษาประสิทธิภาพการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อของ กองสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารวิชาการ ปขมท., 8(2): 61-69.
อารี จำปากลาย, กาญจนา ตั้งชลทิพย์ และ สุภาณี ปลื้มเจริญ. (2561). ความอยู่ดีมีสุขในสังคมไทย: ความฝันหรือความจริง. พิมพ์ครั้งที่ 1. นครปฐม: สำนักพิมพ์ประชากรและสังคม.
สถาพร นาวานุเคราะห์, อุดมชัย สุพรรณวงศ์ และ ชุตินันท์ พันธ์จรุง. 2562. การศึกษาประสิทธิภาพการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อของ กองสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารวิชาการ ปขมท., 8(2): 61-69.
สุชาติ ประสิทธิ์รัฐสินธุ์. (2548). เทคนิคการวิเคราะห์ตัวแปรหลายตัวสำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ : หลักการ วิธีการและการประยุกต์. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สามลดา.
สุภากรณ์ อานุภาพศรีธาดา. (2558). พฤติกรรมการสื่อสารภายในองค์กรของ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ (สำนักงาน กปร.). การศึกษาอิสระปริญญาวารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการสื่อสารองค์กร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สมยศ นาวีการ. (2544). การติดต่อสื่อสารขององค์การ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์บรรณกิจ 1991.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. 5th ed. New York: Harper Collins Publishers.
Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory statistic. 2nd ed. New York: Harper & Row.