ความยืดหยุ่นในการประยุกต์ใช้ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุดและจุดสั่งซื้อใหม่: กรณีศึกษาธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างขนาดกลาง
Abstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความยืดหยุ่นของการประยุกต์ใช้ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด (EOQ) และจุดสั่งซื้อใหม่ (ROP) ในการบริหารสินค้าคงคลังในธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก สังเกตการณ์ และเอกสารทางการเงินและบัญชีของกิจการ มาคำนวณปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุดและจุดสั่งซื้อใหม่ของกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าขายสะสมประจำปีสูงที่สุด 9 รายการตามหลักการ ABC Classification System ผลการศึกษา พบว่า แนวคิด EOQ และ ROP มีสูตรการคำนวณที่ง่ายไม่ซับซ้อน และใช้ข้อมูลไม่มากในการคำนวณ ได้แก่ ต้นทุนในการสั่งซื้อ ต้นทุนในการเก็บรักษา และระยะเวลารอคอย แต่มีความยุ่งยากในการประมาณการต้นทุนที่ใช้ในการคำนวณให้สะท้อนกิจกรรมการดำเนินงานจริงของธุรกิจ และประกอบการบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นในการประมาณการต้นทุนจึงต้องอาศัยความเข้าใจความสัมพันธ์ของทรัพยากรและการดำเนินงานภายในของธุรกิจ
ABSTRACT
This research aims to analyze the flexibility of applying the Economic Order Quantity (EOQ) and Reorder Point (ROP) Concept in managing inventory for a construction materials distribution business. Data collected from in-depth interviews, observation, and financing and accounting documents is used for calculating economic order quantities and reorder points of high demand products which are classified following the ABC Classification System concept. The results indicate that the EOQ and ROP conceptshave a simple formula and needfew information, including ordering costs, carrying costs, and lead time. However, there is a difficulty in estimating costs which are able to reflect real business operations and support business management efficiently. Therefore, the cost estimation needs the deep understanding the relationship between business resources and internal operations.