ผลของการใช้กิจกรรมจิตตปัญญาศึกษาต่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับนักศึกษาครู

ผู้แต่ง

  • Nuntawan Phuaphan อาจารย์ประจำ หลักสูตรสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

คำสำคัญ:

จิตตปัญญาศึกษา, การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, นักศึกษาครูวิทยาศาสตร์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นจิตตปัญญาศึกษาในรายวิชาการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และศึกษาการรับรู้ของนักศึกษาที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นจิตตปัญญาศึกษาเมื่อออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มที่ศึกษาคือ ในระยะที่1 นักศึกษาครูชั้นปีที่ 4 จำนวน 55 คน และระยะที่ 2 นักศึกษาครูชั้นปีที่ 5 จำนวน 11 คน ที่สมัครใจเข้าร่วมการวิจัย ผู้วิจัยใช้การเลือกอย่างเจาะจง (Purposive Sampling)   เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ (มคอ.3) ที่เน้นกิจกรรมจิตตปัญญาศึกษา สมุดบันทึกการเรียนรู้ของนักศึกษาและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงบรรยายและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา  ผลการวิจัยพบว่า  แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นจิตตปัญญาศึกษาได้คือ ขั้นที่ 1) การเตรียมความพร้อม ประกอบด้วย กิจกรรมผ่อนพักตระหนักรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดสติ รู้ตัว เกิดภาวะผ่อนคลายเอื้อต่อการเรียนรู้ โดยเทคนิคอาจจะซ้ำหรือเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ให้สอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนและเนื้อหา  เช่น กิจกรรมตัวฉัน ขั้นที่ 2) กิจกรรมหลักสำคัญ ประกอบด้วย กิจกรรมเนื้อหาหลักซึ่งเป็นการทบทวนความรู้เดิมและต่อยอด จากนั้นผู้สอนนำเนื้อหามาออกแบบการสอน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ตรงภายในและเกิดการใคร่ครวญเชื่อมโยง สรุปการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เช่น กิจกรรมสุนทรียสนทนา  กิจกรรมตะกร้า 3 ใบ โดยผู้เรียนมีบทบาท เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ และขั้นที่ 3) กิจกรรมสรุปการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ของความไว้วางใจให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ภายในและการเรียนรู้ของตนซึ่งไม่มีถูกผิด เช่น กิจกรรม ปากกาพาไป จากนั้นจะเป็นเวลาสงบให้ผู้เรียนใคร่ครวญ เขียนบันทึกการเรียนรู้ของตนเอง ส่วนการศึกษาการรับรู้ของนักศึกษาที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นจิตตปัญญาศึกษาเมื่อออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นักศึกษาส่วนใหญ่จำนวน 9 คน (ร้อยละ 81.81) ระบุว่า ตนเองมีแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจสามารถนำไปใช้ได้จริง เป็นกิจกรรมที่สามารถทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ด้วยตนเอง ทำให้ครูรู้จักผู้เรียนมากยิ่งขึ้น เห็นความแตกต่างของผู้เรียนมากยิ่งขึ้น เป็นผลทำให้ครูคิดกิจกรรมได้หลากหลายมากขึ้นที่เหมาะสมกับการเรียนรู้แต่ละบุคคล แต่ก็ยังมีส่วนน้อยจำนวน 2 คน (ร้อยละ 18.19) ระบุว่า การใช้จิตตปัญญาในการนำมาจัดการเรียนการสอนในการทำกิจกรรมใช้เวลาค่อนข้างนานในกรณีมีจำนวนผู้เรียนมาก (40 - 50 คนต่อห้อง) และคาบสอนเป็นคาบเดี่ยวอาจจะไม่เหมาะสมในรายวิชาวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีเนื้อหามากและทำกิจกรรมการทดลองในครั้งนั้น  แต่อย่างไรก็ตามจิตตปัญญาศึกษาเป็นอีกหนึ่งรูปแบบกิจกรรมที่ดีที่ท้าทายผู้สอนที่จะนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไปในภายหน้า

เอกสารอ้างอิง

1. Ministry of Education. National Education Act B.E. 2542 (1999) and Amendments
(Second National Education Act .B.E. 2545 (2002) and Amendments (Third National Education
Act .B.E. 2553 (2010). Bangkok; 2010. Thai.

2. Vasri P. New learning system out of the crisis of the era. Bangkok; 2006. Thai.

3. Hart T. Opening the contemplative mind in classroom. Journal of Transformative Education.
2004; 2(1): 28-46.

4. Poonpataracheewin J. Dare to step. Bangkok; 2008. Thai.

5. Panid V. Learn with your heart . Bangkok; 2007. Thai.

6. Hladis I. Transformative learning in adult hood. [Internet] 2005 Nov 1 [updated 2015 Jun 9; cited 2017 Dec 19].
Available from: http://www.ericdigests. Org/1990-2/adult hood.htm

7. Phra Dhamapidok (P. A. Payutto). Buddhist teaching. Bangkok: Sahatharmmik Publisher; 2001. Thai.

8. Prugtikul S. Development of Learning Process Organization Based on the Contemplative Education for
Enhance the Transformative Learning of Early Childhood. Journal of Education Burapa University.
2011; 22(2): 72-84. Thai.

9. Leetochavalit M. Development of the learning management process according to the concept of
mental intelligence for the development of teachers. [Ph.D. thesis]. Chulalongkorn University; 2010. Thai.

10. Phuaphan N, Jantarakantee E. The Effects of Instruction Base on Tri-sik-kha Principles for
Development of 10th Graders’ Metacognition in the Topic of Ecosystems and Human and Sustainable
Environment. KKU Res J (GS). 2014; 14(1): 55-69. Thai.

11. Ninchaikovit T, Juatarasuk A. The Art of Learning Process for Change: A Guide to
the Psychosocial Process. Contemplative Education Center Mahidol University.
NakhonPathom; 2009. Thai.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-18

รูปแบบการอ้างอิง

Phuaphan, N. (2019). ผลของการใช้กิจกรรมจิตตปัญญาศึกษาต่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับนักศึกษาครู. วารสารวิจัย มข. (ฉบับบัณฑิตศึกษา) สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 7(1), 102–111. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/gskkuhs/article/view/189950

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Articles)