มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากอุทกภัย
คำสำคัญ:
มาตรการทางกฎหมาย, ความเสี่ยง, อุทกภัยบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือเพื่อศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยของประเทศไทย และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการลดความเสี่ยงจากอุทกภัย เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบปัญหากฎหมายที่กำหนดอำนาจและหน้าที่ซึ่งเป็นอุปสรรคในการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยของประเทศไทย โดยเทียบเคียงกับกฎหมายในการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยของสาธารณรัฐฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น และเพื่อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยดำเนินการศึกษาทฤษฎี แนวคิด และหลักการทางกฎหมายในการป้องกันอุทกภัยของประเทศไทย โดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการวิจัยเอกสาร การสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า กฎหมายเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยของประเทศไทยในปัจจุบัน ยังไม่มีประสิทธิภาพในการนำมาปรับใช้เท่าที่ควร เพราะยังมีปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการลดความเสี่ยงจากอุทกภัย เนื่องจากการมีหน่วยงานหลายหน่วยงาน มีกฎหมายหลายฉบับในการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ที่มีผลทำให้การบริหารจัดการน้ำของประเทศไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรและทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนภายในประเทศ เพราะยังมีช่องว่างของกฎหมาย ไม่มีเอกภาพ และไม่สอดคล้องกับทฤษฎีและหลักเกณฑ์ภารกิจของรัฐหรือการจัดทำบริการสาธารณะ ประกอบกับพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ได้บัญญัติให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) แต่ในกฎหมายดังกล่าวไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการจัดทำแผนแม่บทว่าให้แล้วเสร็จเมื่อใด จึงทำให้เกิดความล่าช้าที่จะนำแผนดังกล่าวมาบังคับใช้ในการลดความเสี่ยงจากอุทกภัย อีกทั้งยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำจำนวน 22 ลุ่มน้ำ โดยมีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม แต่ในกฎหมายดังกล่าวก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมให้แล้วเสร็จ ทำให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ไม่สามารถลดความเสี่ยงภัยจากอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยเกิดปัญหาในการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในระดับการกำหนดแนวนโยบายโดยที่ประชาชนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นของประชาชนได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ไม่ได้ให้สิทธิแก่ภาคเอกชนในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวนโยบายในการสงวน บำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เอกสารอ้างอิง
ขนิษฐา ปาลโมกข์. (2557). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันมหาอุทกภัย ศึกษาเทศบาลนครนนทบุรีและเทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี (รายงานการวิจัย). สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ.
ชาญวิทย์ ชัยกันย์. (2558). ความรับผิดของรัฐเกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติ : ศึกษาเปรียบเทียบกรณีของญี่ปุ่นและไทย. สำนักงานศาลปกครอง (รายงานการวิจัย). สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ.
บรรเจิด สิงคะเนติ. (2552). หลักพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). สำนักพิมพ์วิญญูชน.
พระราชบัญญัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550. มาตรา 20. (2550, กันยายน 9). ราชกิจจานุเบกษา, 124 (52ก), 10.
พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. 2561 (2561, ธันวาคม 28). ราชกิจจานุเบกษา, 135 (113ก), 50
สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2547). รายงานฉบับสุดท้าย “โครงการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำและจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ”. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
สุนทรชัย ชอบยศ. (2555). “อุทกภัย : มหาภัยพิบัติที่ท้าทายการจัดการ(วิกฤต)ของรัฐไทย,” วารสารรัฐสภาสาร, 60(1), 24.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความเป็นลิขสิทธิของคณะมส. มรภ อต.