Sociality Rights or Face?: Motivational Concerns during Interactions between Indonesian Users of Thai as a Second Language and Native Speakers of Thai
Main Article Content
Abstract
People from different cultural groups might have different concerns when they interact with others. Therefore, an understanding of motivational concerns has been a significant keystone contributing to smooth interactions among people with different cultures. To date, very few investigations have examined interactions between Indonesian users of Thai as a second language and native speakers of Thai. The present study explores the motivational concerns that occur during the interactions between these language users using the rapport management framework proposed by Spencer-Oatey (2002). The data were elicited by in-depth interviews of 82 interviewees with a total of 50 incidences. The interviewees included 32 Indonesian users of Thai as a second language and 50 native speakers of Thai who used to interact with Indonesian users of Thai as a second language. The results revealed that the Indonesian users of Thai primarily focused their concerns on sociality rights especially “association rights”. By contrast, the native speakers of Thai tended to have motivational concerns associated with face management especially “quality face”.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของภาษาและภาษาศาสตร์
References
กฤติกา ชูผล. (2564). ข้อบกพร่องเชิงวัจนปฏิบัติศาสตร์ในการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมของชาวจีนที่พูดภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 12(1), 157-170.
จรัส พยัคฆราชศักดิ์, สมพร อ่อนน้อม, และประจวบ ตรีภักดิ์. (2551). หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานพระพุทธศาสนา 1 ม. 4-6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. วัฒนาพานิช.
จินดารัตน์ ธรรมรงวุทย์. (2553). ข้อบกพร่องเชิงวัจนปฏิบัติศาสตร์ในการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม: กรณีศึกษาการใช้ภาษาไทยของผู้พูดชาวอเมริกันและชาวจีน [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ทรงธรรม อินทจักร. (2553). ความสุภาพ ความเกรงใจ และวัจนปฏิบัติศาสตร์ปลดพันธนาการ. ภาษาและภาษาศาสตร์, 29(1), 17-42.
ทิพจุฑา สุภิมารส. (2550). การพัฒนากระบวนการถ่ายทอดวัฒนธรรมการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยเขมรถิ่นไทยตามแนวทฤษฎีการสร้างพลังภูมิปัญญาชาวบ้าน [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (20 พฤษภาคม 2561). ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและข้อมูลพื้นฐานต่างๆของประเทศสมาชิกอาเซียน. https://www.bot.or.th/Thai/FinancialInstitutions/Highlights/ASEANCommunity/generalAndEcoInfo/Documents
นฤมล วงษ์เดือน. (2558). สมรรถนะการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในการให้บริการสุขภาพแรงงานข้ามชาติ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหิดล.
ประภัสสร เจียมวงษา. (2558). กลวิธีการขอร้องของชาวพม่าผู้พูดภาษาไทยเป็นภาษาที่สอง: การศึกษาตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์ระหว่างภาษาและวัจนปฏิบัติศาสตร์ระหว่างวัฒนธรรม [ปริญญานิพนธ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปรีดา นัคเร. (2561). การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในการจ้างแรงงานชาวเมียนม่าร์ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์.
พีรยุทธ โอรพันธ์. (2551). การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายมลายูในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยและชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยในรัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เมตตา วิวัฒนานุกูล. (2556). การรับรู้และการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมของนักเรียนไทยกับคนในประเทศกลุ่มอาเซียน. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ยางวอน ฮยอน. (2560). การปฏิสัมพันธ์ของชาวเกาหลีที่ใช้ภาษาไทยและชาวไทยในปริบทธุรกิจ: การศึกษาตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์อันตรภาษาและวัจนปฏิบัติศาสตร์ระหว่างวัฒนธรรม [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วสุ เขียวสอาด. (2544). การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมระหว่างชาวไทยและชาวมอญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชน: กรณีศึกษา ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ศุภางค์ นันตา. (2542). การเปิดรับสื่อวิทยุ-โทรทัศน์จากสปป.ลาว ของผู้รับสารตามแนวชายแดนไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมเกียรติ วันทะนะ. (2535). น้ำใจ. ใน สุวรรณา สถาอานันท์ และเนื่องน้อย บุณยเนตร (บรรณาธิการ), คำ: ร่องรอยความคิด ความเชื่อไทย (น. 306-312). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักนายกรัฐมนตรี. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560 - 2564. http://www.nesdb.go.th/download/plan12/
อาทิตยา เที่ยงวงษ์. (2548). การสื่อสารระหว่างชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ในชุมชนรูสะมิแล จ. ปัตตานี ในช่วงระหว่างวิกฤตการณ์ความรุนแรงของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Brown, P., & Levinson, S. C. (1987). Politeness: Some universals in language usage. Cambridge University Press.
Fraser, B. (1990). Perspectives on politeness. Journal of Pragmatics, 14(2), 219-236.
Hofstede Insights. (2021, November 25). Country comparison. https://www.hofstede-insights.com/
Komin, S. (1990). Psychology of the Thai people: Values and behavioral patterns. Research Center of National Institute of Development Administration.
Leech, G. N. (1983). Principles of pragmatics. London.
Mao, Luming R. (1994). Beyond politeness theory: ‘Face’ revisited and renewed. Journal of Pragmatics, 21(5), 451-486.
Matsumoto, Y. (1988). Reexamination of the universality of face: Politeness phenomena in Japanese. Journal of Pragmatics, 12(4), 403-426.
Morfit, M. (1981). Pancasila: The Indonesian state ideology according to the new order government. Asian Survey, 21(8), 838-851.
Spencer-Oatey, H. (2000). Rapport management: a framework for analysis. In H. Spencer-Oatey (Ed.), Culturally speaking: managing rapport through talk across cultures (pp. 11-46). Continuum.
Spencer-Oatey, H. (2002). Managing rapport in talk: Using rapport sensitive incidents to explore the motivational concerns underlying the management of relations. Journal of Pragmatics, 34(5), 529-545.
Spencer-Oatey, H. Xing, J. (2000). A problematic Chinese business visit to Britain: Issues of face. In Spencer-Oatey, H. (Ed.), Culturally speaking: Managing rapport through talk across cultures (pp. 272-288). Continuum.
Tim Redaksi BIP. (2019). Undang-undang dasar negara republik Indonesia tahun 1945. PT. Bhuana Ilmu Populer.