เราเข้าใจตรงกันใช่ไหม : การเปรียบเทียบความเข้าใจความหมายเป็นนัยสนทนาของผู้เรียนภาษาไทยชาวจีนกับผู้พูดภาษาไทย

Main Article Content

ดีอนา คาซา
รดารัตน์ ศรีพันธ์วรสกุล

บทคัดย่อ

สำหรับผู้เรียนภาษาที่สอง การทำความเข้าใจความหมายเป็นนัยสนทนาถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เนื่องจากผู้เรียนจะต้องตีความความหมายที่คู่สนทนาต้องการสื่อโดยพิจารณาปริบทแวดล้อม หากผู้เรียนตีความผิดไปก็อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ งานวิจัยนี้จึงเปรียบเทียบการทำความเข้าใจความหมายเป็นนัยสนทนาของผู้เรียนภาษาไทยชาวจีนกับผู้พูดภาษาไทย และประเภทของความหมายเป็นนัยสนทนาที่มีผลต่อการทำความเข้าใจความหมายเป็นนัยสนทนาของผู้เรียนภาษาไทยชาวจีน โดยศึกษาเฉพาะความหมายเป็นนัยสนทนาที่เกิดจากการใช้การไม่เคารพหลักการความร่วมมือในการสนทนา (flouting a maxim) ตามแนวคิดของไกรซ์ (Grice, 1975) เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามชนิดหลายตัวเลือกจากผู้ตอบแบบสอบถาม 2 กลุ่ม คือ ผู้เรียนภาษาไทยชาวจีนจำนวน 50 คน และผู้พูดภาษาไทยจำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 80 คน ผลการศึกษาพบว่า ผู้เรียนภาษาไทยชาวจีนทำความเข้าใจความหมายเป็นนัยสนทนาได้น้อยกว่าผู้พูดภาษาไทยและแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังพบว่าผู้เรียนทำความเข้าใจความหมายเป็นนัยสนทนาที่เกิดจากการไม่เคารพหลักสัมพันธ์ได้มากที่สุด ในขณะที่ความหมายเป็นนัยสนทนาที่เกิดจากการไม่เคารพหลักคุณภาพมักทำให้เกิดความเข้าใจผิดมากที่สุด ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากระยะห่างระหว่างความหมายเป็นนัยสนทนากับความหมายตามรูปภาษาที่แตกต่างกัน

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

จันทิมา หวังสมโชค. (2549). กลวิธีสื่ออารมณ์ขันในละครตลกสถานการณ์ของไทยจากมุมมองวัจนปฏิบัติศาสตร์. วารสารศิลปศาสตร์, 6(2), 100-127.

จินดารัตน์ ธรรมรงวุทย์. (2553). ข้อบกพร่องเชิงวัจนปฏิบัติศาสตร์ในการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม:กรณีศึกษาการใช้ภาษาไทยของผู้พูดชาวอเมริกันและชาวจีน [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ฐิติภา คูประเสริฐ และ สมชาย สําเนียงงาม. (2562). การนําเสนอภาพลักษณ์ของบุคคลสาธารณะด้วยการละเมิดหลักความสัมพันธ์ในการตอบคําถามเกี่ยวกับกรณีความขัดแย้ง. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, 14(2), 21-38.

ณัฐพร พานโพธิ์ทอง. (2555). เอกสารคำสอนรายวิชา 2201783 การวิเคราะห์ภาษาไทยตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง). ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ดีอนา คาซา. (2564). การปฏิสัมพันธ์ของชาวอินโดนีเซียที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาที่สองกับชาวไทย: การศึกษาตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์อันตรภาษาและวัจนปฏิบัติศาสตร์ระหว่างวัฒนธรรม [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ยางวอน ฮยอน. (2559). การศึกษากลวิธีแสดงความเห็นแย้งของนักศึกษาเกาหลีที่พูดภาษาไทยเป็นภาษาที่ 2 ในการสนทนาแบบแสดงความคิดเห็นในภาษาไทยตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์อันตรภาษา. ภาษาและภาษาศาสตร์, 34(2), 1-19.

ยางวอน ฮยอน. (2560). การปฏิสัมพันธ์ของชาวเกาหลีที่ใช้ภาษาไทยและชาวไทยในปริบทธุรกิจ: การศึกษาตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์อันตรภาษาและวัจนปฏิบัติศาสตร์ระหว่างวัฒนธรรม [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รดารัตน์ ศรีพันธ์วรสกุล. (2562). การศึกษาวัจนกรรมการแสดงความเห็นแย้งของผู้เรียนภาษาไทยชาวจีนตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์อันตรภาษา: กรณีศึกษานักศึกษาชาวจีนจากมณฑลยูนนานและกวางสี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รดารัตน์ ศรีพันธ์วรสกุล. (2565). การศึกษาวัจนกรรมการแสดงความไม่พอใจตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์ภาษาระหว่างกลาง: กรณีศึกษาผู้เรียนภาษาไทยชาวจีน. ภาษาและภาษาศาสตร์, 40(2), 89-114.

รังสินีย์ ซื่อเกียรติขจร, นราวัลย์ พูลพิพัฒน์, และ สนิท สัตโยภาส. (2562) การศึกษา วัจนกรรมที่ปรากฏในบทสนทนาของชาวต่างประเทศที่ฝึกพูดภาษาไทย. พิฆเนศวร์สาร, 15(1), 11-18.

สำนักข่าวอิศรา. (2566). 10 ปี จีนอันดับหนึ่ง! ส่องสถิติ น.ศ.ต่างชาติในไทยปี 55-65 เมียนมาครองเบอร์สอง. สืบค้น 5 ตุลาคม 2566, จาก https://www.isranews.org/article/isranews-scoop/115794-isranews-09.html

สิริญญา สุขสวัสดิ์. (2558). ลักษณะภาษาและกลวิธีการใช้ภาษาตามแนววัจนปฏิบัติศาสตร์ ในหน้าแฟนเพจ ข้อความโดนๆ ในเฟซบุ๊ก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

สุพิชญา มั่นคง. (2552). การกล่าวเลี่ยงในภาษาไทยและภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน. วารสารศิลปศาสตร์, 9(1), 21-47.

อุมาภรณ์ สังขมาน. (2559). กลวิธีทางภาษาในวัจนกรรมเสียดสีเพื่อสร้างความตลกขบขันของไทย. วารสารมนุษยศาสตร์, 23(1), 154-178.

Zheng, W., รัชนีย์ญา กลิ่นน้ำหอม และ วิสันต์ สุขวิสิทธิ์. (2556). “ผมไม่ว่างครับ”: การศึกษาเปรียบเทียบกลวิธีการปฏิเสธการขอร้องของอาจารย์ระหว่างนักศึกษาไทยกับนักศึกษาจีน. วารสารวจนะ, 1(2), 61-72.

Bouton, L. F. (1988). A cross-cultural study of ability to interpret implicatures in English. World Englishes, 7(2), 183-196.

Bouton, L. F. (1990). The effective use of implicature in English: Why and how it should be taught in the ESL classroom. In L. F. Bouton & Y. Kachru (Eds.), Pragmatics and Language Learning: Monograph Series (pp. 43-52). University of Illinois.

Bouton, L. F. (1992). The interpretation of implicature in English by NNS: Does it come automatically without being explicitly taught? In L. F. Bouton (Ed.), Pragmatics and language learning: Monograph series Vol.3 (pp. 66-77). University of Illinois.

Bouton, L. F. (1994). Conversational implicature in a second language: Learned slowly when not deliberately taught. Journal of Pragmatics, 22(2), 157-167.

Bouton, L. F. (1999). Developing nonnative speaker skills in interpreting conversational implicatures in English. Culture in Second Language Teaching and Learning, 30(1), 47-70.

Cook, M., & Liddicoat, A. J. (2002). The development of comprehension in interlanguage pragmatics: The case of request strategies in English. Australian Review of Applied Linguistics, 25(1), 19-39

Grice, H. P. (1975). Logic and conversation. In P. Cole & J. L. Morgan (Eds.), Syntax and semantics: Vol. 3. Speech acts (pp. 41-58). Brill.

Kanchina, Y., & Deepadung, S. (2019). Request modifications used by Chinese learners and native speakers of Thai. Journal of the Southeast Asian Linguistics Society, 12(1), 83-112.

Kavetska, A. A. (2021). Factors influencing the comprehension of conversational implicatures by native and non-native speakers of English: an empirical study inspired by Bouton’s (1988). Forum for Contemporary Issues in Language and Literature, 2, 35-49.

Keenan, E. O. (1976). The universality of conversational postulates. Language in society, 5(1), 67-80.

Koike, D. A. (1995). Transfer of pragmatic competence and suggestions in Spanish foreign language learning.” In S. Gass & j. Neu (Eds.), Speech acts across cultures (pp. 257-281). Mouton de Gruyter.

Li, Q. (2016). Conversational implicature in English listening comprehension Teaching. Theory and Practice in Language Studies, 6(10), 2024-2051.

O'Connell, S. P. (2019). Comprehension of conversational implicature: examining evidence of Its separability as a listening subskill (publication No. 22583728) [Doctoral thesis, University of Maryland]. Proquest Dissertation and Thesis Global.

Roever, C. (2005). Testing EFL pragmatics. Peter Lang.

Student. (1908). The probable error of a mean. Biometrika, 6(1), 1-25.

Taguchi, N. (2005). Comprehension of implied meaning in English as a second language. The Modern Language Journal, 89(4), 543-562.

Taguchi, N. (2008). Pragmatic comprehension in Japanese as a foreign language. The Modern Language Journal, 92(4), 558-576.

Taguchi, N. (2013). Comprehension of conversational implicature: What response times tell us. In N. Taguchi & J. M. Sykes (Eds.), Technology in interlanguage pragmatics research and teaching (pp. 19-41). John Benjamins.

Taguchi, N., Li, S., & Liu, Y. (2013). Comprehension of conversational implicature in L2 Chinese. Pragmatics & Cognition, 21(1), 139-157.

Verschueren, J. (2012). Ideology in language use: Pragmatic guidelines for empirical research. Cambridge University Press.

Yamanaka, J. (2003). Effects of proficiency and length of residence on the pragmatic comprehension of Japanese ESL learners. Second Language Studies, 22(1), 107-175.