การขยายตัวของเมืองที่ส่งผลต่อการพัฒนาป่าเฮี่ยวสู่พื้นที่สาธารณะทางวัฒนธรรม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การขยายตัวของเมือง, การแปรเปลี่ยนของพื้นที่, ป่าเฮี่ยวบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการขยายตัวของเมืองที่ส่งผลต่อการพัฒนาป่าเฮี่ยวสู่พื้นที่สาธารณะทางวัฒนธรรม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลจากการสำรวจการใช้พื้นที่ป่าเฮี่ยวทั้ง 10 แห่ง ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้มีส่วนได้เสียในการใช้พื้นที่ เช่น ผู้ประกอบพิธีกรรม ผู้นำหมู่บ้าน และตัวแทนจากเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อวิเคราะห์การขยายตัวของเมืองที่ส่งผลต่อการการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ป่าเฮี่ยว และสังเคราะห์การพัฒนาป่าเฮี่ยวให้เป็นพื้นที่อรรถประโยชน์สู่พื้นที่สาธารณะทางวัฒนธรรม
ผลการวิจัยพบว่า พื้นที่ป่าเฮี่ยวทั้ง 10 แห่งยังคงการใช้พื้นที่เพื่อประกอบพิธีกรรมเผาศพตามจารีตประเพณี แต่มีพื้นที่ป่าเฮี่ยวถึง 5 แห่ง ที่คงเหลือพื้นที่ในการประกอบพิธีกรรมนี้น้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ป่าเฮี่ยวทั้งหมด เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานของพื้นที่ตามทิศทางการเติบโตของเมืองตามแผนพัฒนาและผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ โดยป่าเฮี่ยวทั้ง 10 แห่ง ปรับเปลี่ยนการใช้งานออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ 1) พื้นที่สำหรับประกอบพิธีกรรม 2) พื้นที่สำหรับใช้สอยของส่วนราชการ 3) พื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมชุมชน 4) พื้นที่สำหรับจัดกีฬาและนันทนาการ 5) พื้นที่สีเขียว 6) พื้นที่สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของเมืองที่ส่งผลต่อการพัฒนาป่าเฮี่ยวให้เป็นพื้นที่อรรถประโยชน์ ที่นำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สร้างคุณภาพชีวิต และก่อให้เกิดพื้นที่สาธารณะทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ของเมืองเทศบาลนครเชียงใหม่อย่างยั่งยืน
References
Ministry of interior. (2021). Kan Hai Chai Bangkhop Phanrmueang Ruam Mueang Chiang Mai 2021. Royal Gazette, 138 (191), 9-16.
Sunanta,C., Laksana,S. (2021). “Kan Phoem Phuenthi SiKhiao Khong Mueang Nai Satsanasathan Praphet Wat Korani Sueksa Thetsaban Nakhon Chiang Mai”. Sarasatr academic journal, 4(1), 236-249.
Wattanachot P., and Nakfon P., (2023). “Kan Wikhro Khrueakhai Nayobai Nai Kan Phat thana Phuen Thi Satharana SiKhiao Nai Khet Krungthepmahanakhon”. Social science journal Chulalongkorn University, 53(1), 161-183.
Khamprasert I., (2023). “Kan Wikhro Prakotkan Kan Khlueanwai Khong Khabuankan Thang Sangkhom Phuea Kan Anurak Chumchon Mueang”. Khuang Phaya Journal, 17(1), 66-88.
Tiensap A., (2023). “Naeothang Kan Anurak Lae Phatthana Phum That Mueang Boran Chiang Saen Chiang Rai Province”. Sarasatr academic journal, 6(1), 166-179.
Arunrat, W., Chonthira,S., Sombat,B., Lamoon,C. (2003). Sitthi Chumchon Thongthin Phuenmueang Dangdoem Lan Na Korani Sueksa Chumchon Lua Yuan Lue Paka Ke a Yo Krariang Nai Changwat Nan Chiang Rai Lae Chiang Mai. BKK: Nititham Publishing.
Rojanasa-nga A. (2020). “Phuenthi Thang Watthanatham Nai Huean Thai Yai Ban Khlong Nam Sai Changwat SaKaeo”. Institute of Culture and Arts Journal, 21(2), 177-189.
Denzin, N. K. (1989). The research act (3rd ed.). McGraw-Hill.
Krejcie, R., & Morgan, E. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(1), 607-610.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.