การรายงานข่าวภาคพลเมืองทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
คำสำคัญ:
ข่าวพลเมือง, นักข่าวพลเมือง, บทบาทการรายงานข่าว, สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทการรายงานข่าวช่วง “นักข่าวพลเมือง” รวมทั้งประเภทของข่าวและชนิดของข่าวในการรายงานข่าวช่วง “นักข่าวพลเมือง” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยระเบียบวิธีวิจัยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาจากข่าวพลเมืองในช่วง “นักข่าวพลเมือง” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระหว่าง พ.ศ. 2552-2558 รวมระยะเวลา 7 ปี จำนวน 1,133 ข่าว และการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้บริหารงานข่าวและกลุ่มนักข่าวพลเมือง ผลการวิจัยพบว่า บทบาทการรายงานข่าวช่วง “นักข่าวพลเมือง” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เน้นบทบาทด้านการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นหลัก รองลงมาคือบทบาทด้านการสร้างความต่อเนื่องทางสังคม สำหรับประเภทของข่าวและชนิดของข่าวในการรายงานข่าวช่วง “นักข่าวพลเมือง” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เน้นการนำเสนอข่าวประเภทข่าวเบามากกว่าข่าวหนัก โดยรายงานข่าวสังคมและสตรีมากเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวการศึกษา ศิลปะและวัฒนธรรม ข่าวการเกษตร ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าววิทยาศาสตร์และวิจัย และข่าวกีฬาตามลำดับ และไม่พบว่ามีการนำเสนอข่าวในพระราชสำนัก ข่าวเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ และข่าวบันเทิง
เอกสารอ้างอิง
กรวุฒิ กาญจนาบุญมาเลิศ. (2552). ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ในสมรภูมิข่าวโทรทัศน์. สารนิพนธ์วารสารศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กิตติ สิงหาปัด. (2548). การสร้างสรรค์รายการข่าว [เอกสารการสอนชุดวิชาการสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ หน่วยที่ 7]. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ณิชาภา แก้วประดับ. (2561). บทบาทการรายงานข่าวช่วง “นักข่าวพลเมือง” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส. มหาวิทยาลัย ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2544). ปาฐกถาเรื่อง “สื่อมวลชนกับการเมืองภาคประชาชน”. มูลนิธิอิศรา อมันตกุล.
นิธิตา สิริพงศ์ทักษิณ. (2554). การเมืองในนโยบายสื่อสาธารณะขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ แห่งประเทศไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551. (2551, 14 มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 125 ตอนที่ 8 ก. http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%CD22/%CD22-20-2551-a0001.htm
พัทธนันท์ วิเศษสมวงศ์. (2550). พัฒนาการและการจัดตั้งทีวีสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย [วิทยานิพนธ์ นิเทศศาสตร มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พีระ จิรโสภณ. (2551). ทฤษฎีการสื่อสารมวลชน [เอกสารการสอนชุดวิชาการ ปรัชญานิเทศศาสตร์และทฤษฎีการสื่อสาร หน่วยที่ 10]. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ภัทราวดี บุนทยะพัธน์. (2552). ความคาดหวังและความต้องการข่าวสารจากสื่อโทรทัศน์สาธารณะของประชาชนในเขต กรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษาสถานีโทรทัศน์ทีวีไทยสาธารณะ [การศึกษาเฉพาะบุคคล นิเทศศาสตร มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง. (2553). คู่มือสื่อพลเมือง. สำนักพิมพ์ภาพพิมพ์.
สุภารัตน์ ธนกุลพรรณ. (2553). สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย: แนวคิด ปรัชญา กลยุทธ์ และปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารงาน [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Allan, S., & Thorsen, E. E. (2009). Citizen Journalism: Global Perspectives. Peter Lang.
Chung, D., & Nah, S. (2010). Perceive Role Conceptions of Citizen and Professional Journalists: Citizens’ Views. AEJMC. http://www.aejmc.org/home/2010/07/civic-and-citizen-journalism - interest - group-2010 - abstracts/.
Friedland, L. A., & Willey, S. G. (2003). Public Journalism Past and Future. Foundation Press.
McQuail, D. (1994). Mass Communication Theory An Introduction. SAGE Publications Ltd.
Miller, R. (2005). Journalism returns to its (Grass) roots. Econtentmag. www.econtentmag.com.
Peat, D. (2010). “Cell phone Cameras Making Everyone into a Walking Newsroom”. Toronto Sun.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ปรากฏในวารสารกิจการสื่อสารดิจิทัล เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงาน กสทช. ซึ่งสำนักงาน กสทช. เปิดโอกาสให้สาธารณะหรือบุคคลทั่วไปสามารถนำผลงานไปเผยแพร่ คัดลอก หรือตีพิมพ์ซ้ำได้ ภายใต้สัญญาอนุญาตแบบเปิด (Creative Commons: CC) โดยมีเงื่อนไขสำหรับผู้ที่นำผลงานไปใช้ต้องระบุอ้างอิงแหล่งที่มา (Attribution: BY) ห้ามดัดแปลง (NoDerivatives: ND) และต้องไม่ใช้เพื่อการค้า (NonCommercial: NC) เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสำนักงาน กสทช.
อนึ่ง ข้อความ ตาราง และภาพที่ปรากฏในบทความซึ่งได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์และเผยแพร่ในวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้นิพนธ์ โดยไม่ผูกพันต่อ กสทช. และสำนักงาน กสทช. หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้นิพนธ์แต่ละท่านต้องรับผิดชอบบทความของตนเองแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับ กสทช. และสำนักงาน กสทช. แต่ประการใด