การประยุกต์หลักพุทธธรรม และการสื่อสารทางการเมืองเพื่อสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
หลักสัปปุริสธรรม 7, การสร้างความนิยม, การเลือกตั้งท้องถิ่นบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาสภาพทั่วไปของการสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 2. ศึกษาปัจจัยการสื่อสารทางการเมืองที่ส่งผลต่อการสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และ 3. ศึกษาแนวทางการประยุกต์หลักสัปปุริสธรรม 7 กับการสื่อสารทางการเมือง เพื่อสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสถิติสำเร็จรูป และการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 18 รูปหรือคน โดยใช้การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการศึกษาพบว่า 1. สภาพทั่วไปของการสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสื่อสารทางการเมืองของนักการเมือง การสื่อสารทางการเมืองส่งผลต่อการสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยเรียงลำดับ คือ ด้านผู้ส่งสาร ด้านช่องทางการสื่อสาร ด้านสาร และด้านผู้รับสาร ตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ส่งผลต่อการสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ .05 โดยเรียงลำดับ คือ ด้านมัตตัญญุตา รู้จักประมาณ ด้านกาลัญญุตา รู้จักกาลเวลา ด้านอัตตัญญุตา รู้จักตน ด้านปริสัญญุตา รู้จักชุมชน สังคม และด้านธัมมัญญุตา รู้จักเหตุ สามารถพยากรณ์การสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นได้ 3. การนำเสนอการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการสื่อสารทางการเมืองของนักการเมืองเพื่อสร้างความนิยมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช คือ การรับรู้ความสำคัญ เหตุผลของการที่ต้องมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น การรู้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ ประเมินผลและการดำเนินการแก้ไขปัญหาของท้องถิ่นได้
References
บาว นาคร. (2552). การสื่อสารทางการเมืองในสถานการณ์ความขัดแย้งของสังคมไทย. ปัตตานี: ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้.
ประคอง มาโต. (2564). การส่งเสริมความนิยมทางการเมืองของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองในจังหวัดอุทัยธานี (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว. (2532). ข่าวสารการเมืองของคนไทย 2532. กรุงเทพฯ: สำนักการพิมพ์ เจ้าพระยาการพิมพ์.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2559). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม (พิมพ์ครั้งที่ 34). กรุงเทพฯ: มูลนิธิศึกษาเพื่อสันติภาพ.
พระมหาเอกกวิน ปิยวีโร. (2564). การนำหลักพุทธธรรมาภิบาลไปประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระสมุห์อาคม อาคมธีโร. (2565). พุทธบูรณาการพัฒนาการเมืองท้องถิ่นในระบอบประชาธิปไตย ของจังหวัดเพชรบุรี (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักงานสถิติจังหวัดนครศรีธรรมราช. (2564). จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช: สำนักงานสถิติจังหวัดนครศรีธรรมราช.
สุภากาญจน์ ชัยฤกษ์ และคณะ. (2563). โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563 : การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
สุรวุฒ ณ ระนอง. (2566). การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลงในการบริหารองค์กร. วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์, 6(1), 189-198.
Yamane, T. (1967). Statistic: An Introductory Analysis. (3rd ed.). New York: Harpen and Row.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น