การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจของประชาชนที่มีผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรี ในจังหวัดชลบุรี
คำสำคัญ:
การบูรณาการ, หลักพุทธธรรม, จริยธรรมทางการเมือง, ระบอบประชาธิปไตย, นักการเมืองท้องถิ่นบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพความไว้วางใจของประชาชนต่อการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรี 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความไว้วางใจของประชาชนที่มีผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรี และ 3. เพื่อนำเสนอการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจของประชาชนที่มีผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรี ในจังหวัดชลบุรี เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 รูปหรือคน ด้วยแบบสัมภาษณ์ และการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า 1. ความไว้วางใจทางการเมืองของประชาชนที่มีผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรี ในจังหวัดชลบุรี โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความไว้วางใจ ร่วมกันทำนายการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรี ในจังหวัดชลบุรี ได้ร้อยละ 86.0 มีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย และหลักสัปปุริสธรรม 7 ร่วมกันทำนายการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีในจังหวัดชลบุรี ได้ร้อยละ 82.4 มีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3. การประยุกต์หลักธรรมเพื่อความไว้วางใจไปการลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีในจังหวัดชลบุรี จากการสัมภาษณ์พบว่า การรู้จักเหตุ นายกเทศมนตรีมีความสามารถรู้ปัญหาในพื้นที่ มีเหตุผลในการกำหนดนโยบายเพื่อท้องถิ่น การรู้จักผล รู้เป้าหมายในการกำหนดนโยบายและปัญหาที่เกิดขึ้นในเทศบาล การรู้จักตน รู้บทบาทหน้าที่ มีภาวะผู้นำ มีความรับผิดชอบต่อประชาชน การรู้จักประมาณ สามารถบริหารงบประมาณท้องถิ่นเป็นที่โปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุด การรู้จักกาล นายกเทศมนตรีเข้าไปช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีปัญหาสามารถแก้ไขได้ทันเวลา การรู้จักชุมชน สังคม รู้จักท้องถิ่นที่เข้าไปพบปะประชาชนสม่ำเสมอ ส่งเสริมจุดเด่นกำจัดจุดด้อยของแต่ละชุมชน การรู้จักบุคคล รู้จักประชาชนคนในพื้นที่ดี ทั้งผู้นำกลุ่ม ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน และเครือข่ายต่าง ๆ ในพื้นที่
References
จริยา มหายศนันทน์. (2558). การพัฒนาบทบาทและหน้าที่ในการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์) พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์. (2565). จำนวนประชากร 2565 เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ (ทน.เจ้าพระยาสุรศักดิ์) อำเภอศรีราชา จังหวัด ชลบุรี สืบค้น 15 กันยายน 2565, จาก http://www.chaoprayasurasak.go.th.
ประคอง มาโต. (2564). การส่งเสริมความนิยมทางการเมืองของประชาชนมีต่อนักการเมืองในจังหวัดอุทัยธานี (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหานรินทร์ สุรปญฺโญ (เอมพันธ์). (2564). การประยุกต์หลักพุทธจริยธรรมเพื่อพัฒนาจริยธรรมทางการเมืองของผู้นำทางการเมืองในจังหวัดชัยภูมิ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ไพบูลย์ สุขเจตนี. (2563). การพัฒนาความไว้วางใจทางการเมืองของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองระดับท้องถิ่นในจังหวัดนนทบุรี (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วีระศักดิ์ เครือเทพ และคณะ. (2557). ประเมินผลการกระจายอำนาจของไทยระยะ 15 ปี: สังคมไทยได้อะไร ก้าวหน้าไปถึงไหน และจะเดินต่อไปกันอย่างไร ?. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 12(3), 82-122.
วุฒิสาร ตันไชย. (2546). การกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. นนทบุรี: สถาบันพระปกเกล้า.
ศุภณัฐ เจริญสุข. (2558). กลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารเทศบาลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Citrin, W.M. & Leonard, M.L. (1974). The Right Versus the Obligation to Vote: Effects on Cross-Country Government Growth. Economics and Politics, 5(1), 43-51.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น