ประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของพระสังฆาธิการในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
ประสิทธิภาพ, การบริหารจัดการ, พระสังฆาธิการ, อิทธิบาท 4บทคัดย่อ
บทความวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติงานตามหลักบริหารจัดการและหลักอิทธิบาท 4 กับประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของพระสังฆาธิการในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี และ 2. เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของพระสังฆาธิการในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี จำนวน 140 รูป และการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบลขึ้นไป และคฤหัสถ์ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบริหารวัด จำนวน 10 รูปหรือคน สถิติที่ใช้ได้แก่ การหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน รวมไปถึงการสรุปข้อมูลการสัมภาษณ์โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1. หลักบริหารจัดการด้านการอำนวยการ มีความสัมพันธ์เชิงลบกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของพระสังฆาธิการในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยรวม อยู่ในระดับต่ำมาก (r = -0.172*) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ดังนั้น จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ และหลักอิทธิบาท 4 ด้านจิตตะ มีความสัมพันธ์เชิงลบกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของพระสังฆาธิการในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยรวม อยู่ในระดับต่ำมาก (r = -0.200*) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ดังนั้น จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ 2. แนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของพระสังฆาธิการ ด้านฉันทะ ควรส่งเสริมความรักและความพอใจในการทำงาน ด้านวิริยะ ควรจัดระบบการทำงานและแบ่งงานตามความรับผิดชอบและความสามารถของบุคลากร ด้านจิตตะ ควรวางแผนและดูแลบุคลากรด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ด้านวิมังสา ควรประเมินผลการทำงานเพื่อลดข้อผิดพลาดและปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ถูกต้อง
References
กองแผนงาน กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วยพระราชบัญญัติกฎระเบียบและคำสั่งของคณะสงฆ์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.
จิรัตติกาล สุขสิงห์. (2565). การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กร. วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์, 5(1), 211-219.
จุฬารัตน์ บุณยากร. (2550). วัดพัฒนา 50. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
ธีรวุฒิ ทองโอษฐ์. (2546). การศึกษาการปฏิบัติศาสนกิจของเจ้าอาวาสในจังหวัดร้อยเอ็ด (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
บุญช่วย จันทร์เฮ้า. (2547). พฤติกรรมการบริหารของเจ้าอาวาสที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานวัดในเขตการปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พระครูอาทรวรธรรม (บุญธรรม หมื่นคลัง). และคณะ. (2565). การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดของเจ้าอาวาสในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 11(2), 239-251.
พระมหาสมทรง สิรินฺธโร และคณะ. (2525). บทบาทของวัดและพระสงฆ์ไทยในอนาคต. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการศาสนาเพื่อการพัฒนา.
ศศิพิมพ์ กองสุข และคณะ. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาทกับประสิทธิผลการบริหารงานวิชากาของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร. วารสาร มจร มนุษยศาสตร์ปริทรรศน์, 8(1),19-33.
สำนักงานเจ้าคณะอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี. (2566). สถิติพระภิกษุสามเณรจำพรรษา ปี พ.ศ. 2566. ปทุมธานี: สำนักงานเจ้าคณะอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี. (อัดสำเนา).
Taro Yamane. (1973). Statistics : an introductory analysis. (3rd ed.). New York: Harper & Row
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น