การบูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกแก้ว อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
คำสำคัญ:
หลักไตรสิกขา, คุณภาพชีวิต, เยาวชน, องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกแก้วบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกแก้ว อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) กับคุณภาพชีวิตของเยาวชน และ 3. นำเสนอแนวทางบูรณาการหลักไตรสิกขาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ด้านปริมาณเก็บข้อมูลจากเยาวชน 207 คน ผ่านแบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยสถิติ เช่น ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ส่วนด้านคุณภาพใช้สัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 9 คน ได้แก่ กลุ่มพระสงฆ์ กลุ่มนักวิชาการและกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพชีวิตโดยรวมของเยาวชนในพื้นที่อยู่ในระดับมาก (=3.50, S.D.=0.77) ด้านจิตใจสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ และด้านสังคมอยู่ในระดับปานกลาง แสดงถึงความมั่นคงทางจิตใจ คุณธรรม และการปรับตัวที่ดีในสังคม หลักไตรสิกขามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับคุณภาพชีวิตของเยาวชนทุกมิติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) หมายความว่า การนำหลักไตรสิกขามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตในทุกด้าน แนวทางบูรณาการควรดำเนินผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น ค่ายคุณธรรม อบรมเชิงปฏิบัติ และสร้างเครือข่ายกับสถาบันการศึกษาและองค์กรท้องถิ่น ให้เยาวชนได้ปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้ให้ข้อมูลต่างเห็นพ้องว่าช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนได้รอบด้านและยั่งยืน สรุปได้ว่า การบูรณาการหลักไตรสิกขาเป็นกรอบแนวคิดและเครื่องมือที่เหมาะสมในการพัฒนาเยาวชนตำบลหนองนกแก้ว เชื่อมโยงการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต ความควบคุมอารมณ์ และการปรับตัวในสังคม โดยการจัดกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่องสะท้อนถึงความตั้งใจและศักยภาพของชุมชนในการพัฒนาเยาวชนอย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
กนกพร เพ็ชรพงศ์ และคณะ. (2546). บทบาทของครูในการส่งเสริมความมีวินัยในตนเองของนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจิตร (สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
กรมกิจการเด็กและเยาวชน. (2564). กฎหมายเด็กและเยาวชน. กรุงเทพฯ: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และคณะ.(2546). ทิศทางการปกครองท้องถิ่นของไทยและต่างประเทศเปรียบเทียบ. กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
บุษราภรณ์ ติเยาว์ และคณะ. (2562). ขบวนการจิตอาสา : การขัดเกลาทางสังคมกับการพัฒนาตนของเยาวชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 7(ฉบับเพิ่มเติม), 67-78.
พระครูปลัดสิทธิชัย วิสุทฺโธ และคณะ. (2565). การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดจันทบุรี. วารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์, 7(2), 194-208.
พระบรรยงก์ ขนฺติธมฺโม. (2561). กิจกรรมการพัฒนานักเรียนตามหลักไตรสิกขาของโรงเรียนเทศบาลทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรี (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาอานนท์ อานนฺโท. (2560). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนทวีวัฒนา (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สมพงษ์ สุนทรธรรม และคณะ. (2566). การพัฒนาทุนมนุษย์ของบุคลากรเทศบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 12(4), 339-350.
สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี. (2567). ประวัติความเป็นมา. สืบค้น 20 เมษายน 2567, จาก https://shorturl.asia/KQcCN
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2567). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11. สืบค้น 20 เมษายน 2567, จาก https://shorturl.asia/rvKdi
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น


