การบริหารจัดการเชิงศิลปะเพื่อการท่องเที่ยววัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
การบริหาร, การจัดการเชิงศิลปะ, การท่องเที่ยวบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาสภาพทั่วไปของการบริหารจัดการเชิงศิลปะเพื่อการท่องเที่ยว 2. ศึกษากระบวนการในการบริหารจัดการเชิงศิลปะเพื่อการท่องเที่ยวและ 3. เสนอการบริหารจัดการเชิงศิลปะเพื่อการท่องเที่ยว วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การวิจัยใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ โดยดำเนินการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้างกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ กับผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการเชิงศิลปะเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 18 รูปหรือคน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า วัดสะแกมีจุดแข็งด้านตำแหน่งที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ มรดกทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม รวมถึงชื่อเสียงทางจิตใจและความศรัทธา อย่างไรก็ตามยังมีจุดอ่อนด้านการขาดแคลนบุคลากรเชี่ยวชาญ การประชาสัมพันธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ และโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ ด้านโอกาส ได้แก่ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดเชื่อมโยง พุทธมรดกที่เป็นสมบัติทางจิตวิญญาณ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่วนอุปสรรคประกอบด้วยความท้าทายด้านกฎหมายและระเบียบ การแข่งขันกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น และปัญหาการอนุรักษ์โบราณวัตถุ กระบวนการบริหารจัดการ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก คือ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การตรวจสอบ และการปรับปรุงแก้ไขซึ่งครอบคลุมการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรทางศิลปะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำสื่อการเรียนรู้ และการพัฒนาบุคลากร การบริหารจัดการเชิงศิลปะเพื่อการท่องเที่ยวจำเป็นต้องพัฒนาในด้านทรัพยากรการท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก เส้นทางคมนาคม ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เพื่อให้วัดสะแกกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เอกสารอ้างอิง
กรรณิกา คำดี. (2558). วัดและศาสนสถานในมิติของการท่องเที่ยว. วารสารบัณฑิตศึกษา มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 4(2), 116-126.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2566). แผนวิสาหกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2566-2570. สืบค้น 27 มิถุนายน 2568, จาก https://shorturl.asia/YCVXG
ทรงพล รวมใหม่. (2565). การพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. วารสาร มจร การพัฒนาสังคม, 7(3), 346-358.
นิศา ชัชกุล. (2557). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บริษัท วี พริ้นท์.
เปรมฤดี พิธพรชัยกุล. (2565). การพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมชุมชนจังหวัดปทุมธานี (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูสังฆรักษ์มุนินทร์ มุนินฺทโร และคณะ. (2565). การพัฒนาการบริหารจัดการท่องเที่ยววิถีพุทธของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 11(1), 334-347.
พระครูสุนทรสีลสัมบัน (คำรณ ล้ำเลิศ) และคณะ. (2565). การบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงพุทธของวัดใน อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 9(3), 237-250.
พระศรีสังคม ชยานุวฑฺโฒ และปาริชาติ วลัยเสถียร. (2563). การท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา : รูปแบบและเครือข่าย การจัดการท่องเที่ยวของวัดในสังคมไทย. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 7(3), 238-249.
พระอธิการสุรศักดิ์ สุขุมาโล และคณะ. (2564). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดสระบุรี. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 10(2), 1-13.
ฤทธิจักร จันทิมา และคณะ. (2565). แนวทางการพัฒนาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภาคเหนือแบบยั่งยืน. วารสารการบริหารจัดการและนวัตกรรมท้องถิ่น, 4(3), 127-143.
วิวัฒน์ชัย บุญยภักดิ์. (2550). การท่องเที่ยว. ใน ตำรา-เอกสารวิชาการ. (หน้า 89-90). กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
อธิป จันทร์สุริย์ และคณะ. (2565). แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปะตามองค์ประกอบการท่องเที่ยว ชุมชนหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร. วารสารทีทัศน์วัฒนธรรม, 21(1), 18-39.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น


