ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกับกฎหมายเกี่ยวการรับราชการทหาร
คำสำคัญ:
รัฐธรรมนูญ, พระราชบัญญัติการรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497, หน้าที่ของพลเมือง, การตรวจเลือกทหารบทคัดย่อ
บทความวิชาการฉบับนี้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรับราชการทหาร โดยมุ่งศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างหลักการในรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของปวงชนชาวไทย กับพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497 และกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อทำความเข้าใจระบบกฎหมายที่สนับสนุนการบริหารกำลังพลของชาติให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชนสากล รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในฐานะกฎหมายสูงสุด ได้กำหนดไว้ในมาตรา 50 (5) ว่า บุคคลมีหน้าที่ต้องรับราชการทหารตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสานระหว่างหน้าที่ของพลเมืองกับอำนาจของรัฐในการพิทักษ์ความมั่นคงของประเทศ ทั้งยังเป็นการวางกรอบให้กฎหมายลำดับรองดำเนินการภายใต้หลักความเสมอภาค โปร่งใส และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 จึงเป็นกฎหมายหลักที่แปลงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยกำหนดกระบวนการตรวจเลือก การลงบัญชี การผ่อนผัน และการยกเว้นการรับราชการทหาร ขณะที่กฎกระทรวง เช่น ฉบับที่ 36, 37, 74 และ 76 ได้เพิ่มเติมรายละเอียดในเชิงปฏิบัติ เช่น การตรวจร่างกายตามมาตรฐานทางการแพทย์ การจับสลากอย่างโปร่งใส และหลักเกณฑ์การยกเว้นตามเหตุผลทางสุขภาพหรือศาสนา ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายทหารมีลักษณะเป็นระบบกฎหมายแบบบูรณาการสามระดับ ได้แก่ 1. ระดับนโยบายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ 2. ระดับการปฏิบัติของพระราชบัญญัติ และ 3. ระดับรายละเอียดทางเทคนิคของกฎกระทรวงและระเบียบภายในหน่วยงาน ทั้งสามระดับทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงของรัฐ และสิทธิมนุษยชนของประชาชน ผลลัพธ์ คือ การเกิดองค์ความรู้ใหม่ในรูปแบบของระบบเกณฑ์ทหารประชาธิปไตย ซึ่งยึดหลักความชอบธรรม โปร่งใส ยุติธรรม และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันเป็นรากฐานของการบริหารกฎหมายในระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
กรมแพทย์ทหารบก. (2565). แนวทางปฏิบัติในการตรวจร่างกายผู้เข้ารับการตรวจเลือกทหาร. กรุงเทพฯ: กรมแพทย์ทหารบก.
กระทรวงกลาโหม. (2555). กฎกระทรวง ฉบับที่ 76 พุทธศักราช 2555 แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 74 พ.ศ. 2540 ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497. สืบค้น 25 กรกฎาคม 2568, จาก https://shorturl.asia/yD4Sz
กองทัพบก. (2565). คู่มือการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปีงบประมาณ 2565. กรุงเทพฯ: กรมสรรพาวุธทหารบก.
_____. (2565). คู่มือการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ. กรุงเทพฯ: กองทัพบก.
มหาวิทยาลัยมหิดล. (2559). แนวปฏิบัติเกี่ยวกับโรคที่เป็นข้อยกเว้นในการเกณฑ์ทหาร. สืบค้น 25 กรกฎาคม 2568, จาก https://shorturl.asia/BASQO
ราชกิจจานุเบกษา. (2497). พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497. สืบค้น วันที่ 25 กรกฎาคม 2568, จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th
_____. (2516). กฎกระทรวง ฉบับที่ 36 พุทธศักราช 2516 ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497 มาตรา 24. สืบค้น 25 กรกฎาคม 2568 จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2516). กฎกระทรวง ฉบับที่ 37 พุทธศักราช 2516 ว่าด้วยการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ. สืบค้น 25 กรกฎาคม 2568, จาก https://sassadee.rta.mi.th/sassadee/low37_2516.pdf
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม. (2540). กฎกระทรวง ฉบับที่ 74 พุทธศักราช 2540 ออกตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 41 และ 51. สืบค้น 25 กรกฎาคม 2568, จาก https://shorturl.asia/2c4tk
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. สืบค้น 25 กรกฎาคม 2568, จาก https://shorturl.asia/HcAuq
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น


