Development of Happiness Model for the Elderly

Main Article Content

Sopana Jirawongnusorn

Abstract

The happiness model for the elderly promotes the health and happiness of the elderly. The objectives of creating and developing a model and testing its effectiveness were divided into two phases. Phase 1: Creating and developing the model by stakeholders in Bang Muang Subdistrict, Bang Yai District, Nonthaburi Province, a total of 15 people; Phase 2: Testing the effectiveness of the model. A random sampling group consisted of 42 people. Data were collected using the elderly mental health assessment questionnaire. Analyzing the data with average statistics, standard deviation, and paired sample t-test. The health belief model assessment form and the satisfaction assessment form are equal to the .907, .829, and .857, respectively.


The study found that a model was developed by applying 5-dimensional happy activities for the elderly and a health belief model, consisting of 11 activities. The results of the efficacy test were as follows: 1) After the experiment, 33 elderly people had happiness levels better than the general population, representing 78.6 percent. 2) The mental health level of the elderly had significantly higher mean scores at the .05 level. 3) Recognition of the risk of disease, perception of the severity of disease, and perceived barriers to prevention and treatment of diseases had significantly higher mean scores at the .05 level. 4) Satisfaction with the model was at the highest level (gif.latex?\bar{x} = 4.6, S.D. = 0.518). The results showed that the happiness model for the elderly was highly effective. Therefore, this happiness model for the elderly can be applied into practice to achieve success.

Article Details

How to Cite
Jirawongnusorn, S. (2023). Development of Happiness Model for the Elderly. Journal of Multidisciplinary in Humanities and Social Sciences, 6(4), 2230–2251. Retrieved from https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/266020
Section
Research Articles

References

กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2562). มาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติ เรื่องสังคมสูงอายุ. (ฉบับปรับปรุง) (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง.

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2564). สถิติผู้สูงอายุ : สถิติผู้สูงอายุของประเทศไทย 77 จังหวัด ณ.วันที่ 31 ธันวาคม 2564. สืบค้นจาก https://www.dop.go.th/th/know/1.

กรมสุขภาพจิต. (2564). แบบประเมินสุขภาพจิตผู้สูงอายุ ฉบับสั้น. สืบค้นจาก https://www.dmd.go.th.

กรมอนามัย. (2565). ฐานข้อมูลกรมอนามัย. สืบค้นจาก https://dohdatacenter.anamai.moph.go.th/coverpage/index.php?r=groupdata/index&group=1&id=4.

กรรณิการ์ เงินดี. (2564). ทำการศึกษาวิจัยเรื่องประสิทธิผลของโปรแกรมการประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิต สูง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา(วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยพะเยา.

กิติศักดิ์ เมืองหนู. (2557). การประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับกระบวนการกลุ่มในการให้ความรู้ทางสุขภาพ. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 1(3), 1-14.

จักรพันธ์ เพ็ชรภูมิ. (2561). พฤติกรรมสุขภาพ แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกต์ใช้. (พิมพ์ครั้งที่ 3). มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ชัชญาภา สมศรี. (2564). การพัฒนารูปแบบของกิจกรรมสร้างสุข 5 มิติในผู้สูงอายุที่มีความจำบกพร่องเบื้องต้น และศึกษา. วารสารโรงพยาบาลนครพนม, 8(2), 78-93.

ณัฐนันท์ คำพิริยะพงศ์ และศิริพันธุ์ สาสัตย์. (2560). ผลของโปรแกรมความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง. วารสารแพทย์นาวี, 44(3), 67-83.

ทนงศักดิ์ มุลจันดา และ ทัตภณ พละไชย. (2561). ศึกษาผลการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุด้วยสุข 5 มิติ โรงเรียนผู้สูงอายุนาผาง ตำบลห้วย อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์, 2(2), 14-29.

ทิตาวดี สิงห์โค. (2563). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและการรับรู้ประโยชน์ของการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยง(วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยคริสเตียน.

ทิศนา แขมมณี. (2545). ศาสตร์ การสอน: องค์ความรู้ เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นภา พวงรอด. (2558). การศึกษาภาวะซึมเศร้าของผู้สูงอายุในจังหวัดนนทบุรี. วารสารสงขลานครินทร์ ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์, 2(1), 63-74.

นวรัตน์ ไวชมภู, สุนีย์ เครานวล, รัตติภรณ์ บุญทัศน์ และ เดียร์นา แม็ง. (2562). รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตามหลัก 3 อ ในโรงเรียนผู้สูงอายุ ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา. คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.

นิธิพงศ์ ศรีเบญจมาศ และ กิ่งแก้ว สำรวยรื่น (2564) ประสิทธิผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุ ตำบลจอมทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย, 15(1), 155-166.

ประทีป ทับอัตตานนท์. (2562). สิทธิของผู้สูงอายุในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรุงสยาม พับลิชชิ่ง.

มณเฑียร ทักษณา และ ณัฐพล พุ่มอิ่ม. (2563). ผลของโปรแกรมสร้างสุขในชมรมผู้สูงอายุ ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิจัยและวิชาการสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร, 1(2), 54-63.

มาร์เก็ตเธียร์. (2565). สถิติผู้สูงอายุไทยปี 65 จำนวนผู้สูงวัยเพิ่มต่อเนื่อง แต่อัตราการเกิดต่ำ. สืบค้นจาก https://marketeeronline.co/archives/272771.

รัชนี โตอาจ. (2565). สังคมผู้สูงอายุ : นัยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ. สืบค้นจาก https://www.stou.ac.th/stouonline/lom/data/sec/Lom12/05-04-02.html.

ลัญฉศักดิ์ อรรฆยากร. (2653). การดูแลสุขภาพกายและใจให้สมดุล โรงพยาบาลมนารมย์. สืบค้นจาก https://www.manarom.com/blog/Balance_mind_and_body.html

วริศรา อินทรแสน. (2562). การพัฒนารูปแบบสังคมผู้สูงอายุด้านความสุข ในยุคไทยแลนด์ 4.0(วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสรุปผลที่สำคัญ. (2563). การสำรวจสุขภาพจิต (ความสุข) ของคนในประเทศไทย พ.ศ. 2563. กรุงเทพฯ:. บางกอก บล๊อก.

สำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต. (2560). คู่มือวิทยากรจัดกิจกรรมสร้างสุข 5 มิติ สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน. โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.

สุภาภรณ์ สมพาน. (2564). ผลการส่งเสริมสุขภาพจิตผู้สูงอายุด้วยโปรแกรมสร้างสุข 5 มิติ ชมรมผู้สูงอายุตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่.

สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้นจาก https://www.chiangmaihealth.go.th/all_academic.php?pages=2.

สุภาวดี พรมแจ่ม. (2559). ผลของโปรแกรมความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนของผู้สูงอายุที่มีโรคความดันโลหิตสูง(วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุรเดช ดวงทิพย์สิริกุล. (2557). สังคมผู้สูงอายุ...กับความท้าทายของการจัดการด้านสุขภาพ. โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นจาก https://www.hitap.net/wp-content/uploads/2014/12/PB_Elderly-Survey-2556-_Final.pdf

สุวิมลรัตน์ รอบรู้เจน. (2560). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 9(3), 57-69.

อนัญญา เดชะคำภู. (2560). ประสิทธิผลของโปรแกรมพัฒนาความสุข 5 มิติในผู้สูงอายุ: กรณีศึกษาในผู้สูงอายุ ตาบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ. การประชุมวิชาการผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษา ระดับชาติและระดับนานาชาติ. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

อัชฌานี สิงขโรทัย. (2560). ผลของการใช้โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเสี่ยง โรคความดันโลหิตสูง โดยการประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ตำบลเขาพนม อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(2),259-279

อาภาพร เผ่าวัฒนา. (2554). การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชนการประยุกต์แนวคิดและทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: คลังนานาวิทยา.

Bardo, J.W., & Hartman, J.J. (1982). Urban Society: A Systemic Introduction. New York: Peacock.

Rosenstock, I.M. (1974) Historical Origins of the Health Belief Model. Health Education Monographs, 2, 328-335. https://doi.org/10.1177/109019817400200403