การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเชื่อมโยงวิถีความเชื่อไทยเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ จังหวัดสิงห์บุรี

Main Article Content

เชิญขวัญ ขำเปรม
ศุศราภรณ์ แต่งตั้งลำ

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเชื่อมโยงวิถีความเชื่อไทยเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดสิงห์บุรี รูปแบบการวิจัยเป็นแบบผสมผสาน ประกอบด้วย การวิจัยเชิงคุณภาพ โดยผู้วิจัยใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง สัมภาษณ์ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 10 คน ด้วยวิธีคัดเลือกแบบเจาะจง และการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 400 คน เพื่อวิเคราะห์หาค่าความสำคัญระหว่างตัวแปรกับเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณจังหวัดสิงห์บุรี โดยการคำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วยวิธี Pearson Correlation เป็นวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างวิถีความเชื่อในด้านความต้องการการท่องเที่ยวจิตวิญญาณจังหวัดสิงห์บุรี กับเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเชื่อมโยง วิถีความเชื่อไทยเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดสิงห์บุรี


ผลการวิจัยพบว่า เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์จังหวัดสิงห์บุรี ได้ 4 เส้นทาง และนำเส้นทางการท่องเที่ยวมาทดสอบสมมติฐานในด้านวิถีความเชื่อในด้านความต้องการการท่องเที่ยวจิตวิญญาณจังหวัดสิงห์บุรี กับเส้นทางการเดินท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณจังหวัดสิงห์บุรี พบว่า วิถีความเชื่อในด้านความต้องการกับการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณกับเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณจังหวัดสิงห์บุรี มีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ 0.01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันเท่ากับ 0.637 ความสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลาง กล่าวคือ หากวิถีความเชื่อในด้านความต้องการกับการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณมีมาก ส่งผลให้เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณจังหวัดสิงห์บุรีมีความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น


องค์ความรู้จากงานวิจัยนี้ พบว่า 1) นักท่องเที่ยวมีความเชื่อและความต้องการทางจิตวิญญาณมากเท่าใด มีแนวโน้มที่จะเลือกเดินทางในเส้นทางที่สอดคล้องกับความเชื่อของตนเองมากขึ้น 2) ความหลากหลายของแรงจูงใจเชิงจิตวิญญาณมีผลต่อการเลือกเส้นทางท่องเที่ยว 3) การท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเป็นรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงคุณค่า และ 4) เส้นทางท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณควรได้รับการออกแบบตาม “กลุ่มความเชื่อ” หรือ “กลุ่มแรงจูงใจ”

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ขำเปรม เ., & แต่งตั้งลำ ศ. (2025). การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเชื่อมโยงวิถีความเชื่อไทยเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8(5), 2313–2328. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/280641
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกียรติศักดิ์ ไชยพัฒนะพฤกษ์. (2566). การประยุกต์หลักสัปปายะ 7 ในการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ. วารสารพุทธศิลปกรรม, 6(2), 114-135. สืบค้นจาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php /barts/article/view/2548

ขจร ทุมศรี และ สุนันทา คันธานนท์. (2567). แนวทางพัฒนาศูนย์พัฒนาจิต ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณสำหรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่สามเหลี่ยมอันดามัน. วารสารพุทธจิตวิทยา, 9(1), 316-329. สืบค้นจาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jbp/article/view/271944

เขมนิจ มาลาเว. (2567). การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา: ทุนวัฒนธรรมที่มองไม่เห็น. กรุงเทพฯ: มติชน.

ชนินทร สุวรรณภักดี. (2561). การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวมรดกวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี. วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี, 9(1), 39–50. สืบค้นจาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/truhusocjo/article/view/182558

ชนิษฐา ใจเป็ง. (2565). การท่องเที่ยวกับความเชื่อในเรื่องท้าวเวสสุวัณของนักท่องเที่ยวชาวไทย กรณีศึกษา วัดจุฬามณี ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม. วารสาร มจร.หริภุญชัยปริทรรศน์, 6(2), 111-126. สืบค้นจาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMHR /article/ view/ 261190

วสันต์ จันทร์ประสิทธิ์. (2562). การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม: ทางเลือกใหม่ของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 39(6), 104-125. สืบค้นจาก https://so05.tci-thaijo.org/ index.php/sujthai/article/view/167064

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี. (2566). แผนพัฒนาและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมและศาสนาในจังหวัดสิงห์บุรี ปีงบประมาณ 2566. สิงห์บุรี: สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2568). รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี 2567 และแนวโน้มปี 2568. กรุงเทพฯ: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

หิรัญญา กลางนุรักษ์, สันติธร ภูริภักดี และ มนัสสินี บุญมีศรีสง่า. (2567). ซอฟต์พาวเวอร์มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต. วารสารวิจัยวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์, 8(3), 629-641. สืบค้นจาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php /jmsr/article/view/268500

อภิชญา สุขประเสริฐ และสรพงษ์ วงศ์ธีระธรณ์. (2562). การสื่อสารภาพลักษณ์และการมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของชุมชนริมนํ้าจันทบูร จังหวัดจันทบุรี. วารสารนิเทศศาสตรปริทัศน์, 23(1), 137-147. สืบค้นจาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/jmctrmutp/ article/view/ 251898

อารีรัตน์ ฟักเย็น. (2567). การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในจังหวัดนครปฐม. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 7(6), 3338-3358. สืบค้นจาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/ 273241

Agarwal, R., & Pongjit, C. (2023). Spiritual folklore tourism: Tourists’ experience at Naga Cave in Thailand. Fieldwork in Religion, 18(1), 71-93. https://doi.org/10.1558/firn.26830

Creswell, J. W., & Plano Clark, V. L. (2018). Designing and conducting mixed methods research. (3rd ed.). California: SAGE Publication.

Damnoen, S., & Somruay Pindon, P. P. (2025). A synthesis of Buddhist principles based on king’s philosophy towards sufficiency agricultural learning for community self-reliance. Journal of Educational Management and Research Innovation, 7(1), 1–12. Retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jemri/article/view/275962

Globthailand. (2567, 20 มิถุนายน). Mutelu Economy: สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทยมหาศาล. สืบค้นจาก https://globthailand.com/interecon-mutelu-economy/

Gu, M., Leelapattana, W., Tsai, C.-F., & Sitthikun, S. (2024). The two-way influencing mechanism between corporate governance structure and equity market performance in China’s health and tourism industry. International Journal of Multidisciplinary in Management and Tourism, 8(2), 241–252. https://doi.org/10.14456/ijmmt.2024.18

Kamsali, N. D., & Nithya, S. (2024). Exploring the role of destination management organizations (DMOs) in leveraging social media as a destination marketing tool: Insights from Himachal Pradesh. Indian Scientific Journal of Research in Engineering and Management, 8(6), 1373-1380. https://doi.org/10.55041/IJSREM33747

Lang, E., Josiassen, A., Kock, F. (2023). Spiritual tourism: A review and synthesis. In Eijdenberg, E.L., Mukherjee, M., Wood, J. (eds) Innovation-Driven Business and Sustainability in the Tropics. SEIGOP 2023. Springer, Singapore. https://doi.org/10.1007/978-981-99-2909-2_9

Maligi, S. (2024). Identifying and marketing the spiritual tourism destination: A case study on Gokarna, Karnataka. International Journal for Multidisciplinary Research, 6(2), 1-8. https://doi.org/10.36948/ijfmr.2024.v06i02.14680

Ramírez, M. W. (2020). Aportes de la comunicación para la difusión del patrimonio cultural. Revista Communicare, 25(1), 49–55. https://doi.org/10.35742/rcci.2020.25(1).49-55

Salehi, H., & Farahbakhsh, M. (2012). Tourism advertisement management and effective tools in tourism industry. International Journal of Fundamental Psychology & Social Sciences, 2(2), 28-32. https://doi.org/10.18488/journal.10/2014.3.10/10.10.124.134