พัฒนาการอ่านคำและสะกดคำภาษาอังกฤษ นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น

ผู้แต่ง

  • อัญชลี วงษ์กัณหา นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการวิจัยและประเมินทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  • อนุ เจริญวงศ์ระยับ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  • สุขแก้ว คำสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
  • ปัณณวิชญ์ ใบกุหลาบ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

คำสำคัญ:

การอ่านคำภาษาอังกฤษ, การสะกดคำภาษาอังกฤษ และครอสแลค

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้พัฒนาการอ่าคำและสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาพัฒนาการอ่านคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น  2) เพื่อศึกษาพัฒนาการสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วในการเรียกชื่อสัญลักษณ์กับความจำตัวอักษรมีผลต่อการอ่านคำและสะกดคำภาษาอังกฤษ และความสัมพันธ์ระหว่างการอ่านคำภาษาอังกฤษและการสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 โรงเรียนวัดปลวกง่าม    อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 56 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดความเร็วในการเรียกชื่อสัญลักษณ์และความจำตัวอักษร, แบบฝึกการอ่านออกเสียง(โฟนิกส์) และแบบทดสอบการอ่านคำและสะกดคำภาษาอังกฤษ การวิเคราะห์ข้อมูลค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของภาพกราฟแผนภูมิเส้นสองมิติโดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel for Windows, และสถิติ Cross-lag ผลการวิจัยพบว่า 1.  พัฒนาการอ่านคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น ค่าเฉลี่ยของการอ่านคำภาษาอังกฤษครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 4 คือ 5.5, 6.7, 7.4 และ 8.0 ตามลำดับ พัฒนาการด้านการอ่านคำภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นทุกครั้งในการวัด หลังการสอนทุกครั้ง 2.  พัฒนาการสะกดคำภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น ค่าเฉลี่ยของการอ่านคำภาษาอังกฤษครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 4 คือ 5.5, 6.4, 7.4 และ 7.9 ตามลำดับ แสดงค่ามีพัฒนาการด้านการสะกดคำภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นทุกครั้งในการวัด หลังการสอนทุกครั้ง 3.  ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วในการเรียกชื่อสัญลักษณ์กับความจำตัวอักษรมีผลต่อการอ่านคำและสะกดคำภาษาอังกฤษ และความสัมพันธ์การอ่านคำภาษาอังกฤษกับการสะกดคำภาษาอังกฤษ เปรียบเทียบความกลมกลืนโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ใช้สถิติ cross-lag ค่าพารามิเตอร์ของความสัมพันธ์การอ่านคำภาษาอังกฤษความสอดคล้องใกล้เคียงกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Model fit) เป็นไปตามเกณฑ์ พิจารณาจากค่าไค-สแควร์ (  ) = 41.85 , P = 0.00024, df = 15, ไค-สแควสัมพัทธ์ ( /df ) = 2.79  ดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (CFI) เท่ากับ 0.97  ค่ารากของค่าเฉลี่ยกำลังสองของความคลาดเคลื่อน (RMSEA) เท่ากับ 0.17 และ ค่ารากที่สองของค่าเฉลี่ยกำลังสองของเศษเหลือในรูปคะแนนมาตรฐาน (SRMR) เท่ากับ  0.058

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-28

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)