แรงจูงใจที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ 2) เพื่อนำเสนออิทธิพลระหว่างแรงจูงใจกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 339 คน ที่ปฏิบัติงานในขณะการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t-Test การทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ (Multiple regression) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีช่วงอายุ 27-31 ปี มากที่สุด จำนวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ 26.50 สถานภาพโสด มากที่สุด จำนวน 229 คน คิดเป็นร้อยละ 67.60 ระดับการศึกษาปริญญาตรี มากที่สุด จำนวน 256 คน คิดเป็นร้อยละ 75.50 รายได้ต่อเดือน 20,000–30,000 บาท มากที่สุด จำนวน 115 คน คิดเป็นร้อยละ 33.90 ระยะเวลาทำงาน มากกว่า 9 ปี ขึ้นไป มากที่สุด จำนวน 87 คน คิดเป็นร้อยละ 25.70 2) ระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ด้านปัจจัยจูงใจหรือปัจจัยกระตุ้น และปัจจัยอนามัยหรือปัจจัยค้ำจุน โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3) ระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่ประสิทธิภาพมากที่สุด คือ ด้านระยะเวลา รองลงมาเป็นด้านค่าใช้จ่าย ถัดไปเป็นด้านคุณภาพของงาน และสุดท้าย ด้านปริมาณของงาน และ 4) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในภาพรวมได้ ร้อยละ 66.40 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05