แนวทางการพัฒนาการให้บริการความช่วยเหลือทางกฎหมาย ของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
แนวทางการพัฒนา, การให้บริการ, ความช่วยเหลือทางกฎหมายบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการความช่วยเหลือทางกฎหมายของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2) เปรียบเทียบระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการความช่วยเหลือทางกฎหมายของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการให้บริการความช่วยเหลือทางกฎหมายของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีตัวแปรต้น คือ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ และสถานภาพ ส่วนตัวแปรตาม คือ ด้านการให้บริการอย่างเสมอภาค ด้านการให้บริการที่ตรงเวลา ด้านการให้บริการอย่างเพียงพอ ด้านการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และด้านการให้บริการอย่างก้าวหน้า กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ ผู้ขอรับความช่วยเหลือทางกฎหมายกับสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 290 คน การวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ พนักงานอัยการ จำนวน 4 คน รักษาการผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ จำนวน 1 คน หน่วยงานอื่นที่มาขอรับความช่วยเหลือทางกฎหมาย จำนวน 5 คน รวมทั้งสิ้น 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยการวิจัยเชิงปริมาณเป็นแบบสอบถาม การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบค่าเอฟ และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีการแอล เอส ดี และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการความช่วยเหลือทางกฎหมายของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.26) 2) ผู้ขอรับความช่วยเหลือทางกฎหมายที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการแตกต่างกัน และ 3) แนวทางการพัฒนาระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการความช่วยเหลือทางกฎหมาย ได้แก่ 1. ด้านการให้บริการอย่างเสมอภาค ควรเพิ่มบุคลากรในการให้บริการให้ความช่วยเหลือประชาชน หรือจัดเวรผลัดเปลี่ยนบุคลากรเพื่อทำให้สามารถเปิดบริการในช่วงเวลาพักเที่ยงได้ 2. ด้านการให้บริการที่ตรงเวลา มุ่งเน้นการจัดระบบงานหรือบริการที่ช่วยให้ประชาชนเกิดความสะดวก รวดเร็ว 3. ด้านการให้บริการอย่างเพียงพอ ควรจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย นำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการ มีช่องทางในการติดต่อหลากหลายช่องทาง 4. ด้านการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ควรให้ข้อมูลที่ชัดเจน เข้าใจง่ายเกี่ยวกับขั้นตอนของการให้บริการให้แก่ประชาชนที่มาติดต่อ และ 5. ด้านการให้บริการอย่า'ก้าวหน้า ควรปรับปรุงการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่แก่ประชาชนเมื่อเกิดปัญหา และควรปรับปรุงทักษะการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการแก่ประชาชน