การพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของพนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ วัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อศึกษาลักษณะของพนักงาน ปัจจัยสนับสนุนและการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของพนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์ 2) เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างลักษณะของพนักงานกับการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของพนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ พนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์ จำนวน 370 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ ได้แก่แบบสอบถาม (Questionnaire) สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation : S.D) ค่า t-test ความแปรปรวนทางเดียว (Analysis of variance: One way ANOVA หรือ F-test และหาค่าความสัมพันธ์ของตัวแปรด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัจจัยประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ปัจจัยสนับสนุนในภาพรวม ด้านความรู้เกี่ยวกับการผลิตอะไหล่รถยนต์ ด้านเสภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้านความพึงพอใจในงาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านแรงจูงใจ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก 2) พนักงานที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งงาน และประสบการณ์ในการทำงานของพนักงานต่างกันมีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ปัจจัยสนับสนุนด้านความรู้เกี่ยวกับการผลิตอะไหล่รถยนต์มีความสัมพันธ์ทางลบในระดับต่ำมาก (r = -0.149) กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์ ด้านความพึงพอใจในงานมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง (r=0.682) และด้านแรงจูงใจมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำ ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 และด้านสภาพแวดล้อมไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานผลิตอะไหล่รถยนต์ ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05