แนวทางการพัฒนาและประยุกต์ใช้เรื่องเล่าจากสถานีวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และพื้นที่เชื่อมโยงภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน
DOI:
https://doi.org/10.14456/arjla.2024.5คำสำคัญ:
เรื่องเล่า, สถานีวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, การมีส่วนร่วมของชุมชนบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อสืบเสาะ รวบรวม วิเคราะห์บทบาทและคุณค่า ตลอดจนออกแบบและพัฒนาเนื้อหาเรื่องเล่าจากสถานีวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และพื้นที่เชื่อมโยง เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง ประเมินความเหมาะสมโดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านเรื่องเล่า 3 คน คัดเลือกผู้ให้ข้อมูลสัมภาษณ์ เชิงลึกแบบเจาะจง 20 คน จากผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาหรือมีองค์ความรู้เรื่องเล่า วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและสรุปภาพรวม ผลการศึกษา พบเรื่องเล่าจากสถานีวิจัย 25 เรื่องใน 4 ประเภท คือ บริบทเชิงพื้นที่องค์ความรู้ด้านการเกษตร สถานที่สำคัญ และผลิตภัณฑ์เด่น มีบทบาทและคุณค่า 4 ด้าน คือ การทำหน้าที่ศาสตร์แห่งแผ่นดินกับชุมชน สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่พื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่วนชุมชนเชื่อมโยง พบเรื่องเล่า 32 เรื่องใน 7 ประเภท คือ บริบทเชิงพื้นที่ ประวัติศาสตร์/นิทาน/ตำนาน วิถีชีวิต ประเพณี อาหารถิ่น เกษตร/สมุนไพร และทรัพยากรธรรมชาติและสถานที่สำคัญ มีบทบาทและคุณค่า 5 ด้าน คือ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ สะท้อนความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ สื่อความหมายการท่องเที่ยว เกิดสำนึกร่วมกันของชาวเขาเผ่าม้ง และจัดเก็บเป็นองค์ความรู้ การออกแบบและพัฒนาเนื้อหาเรื่องเล่าพิจารณาใน 4 ขั้นตอน คือ รวบรวมข้อมูล ออกแบบ ประเมิน และปรับปรุงเนื้อหา เรื่องเล่าจากสถานีวิจัยและพื้นที่เชื่อมโยงเป็นเครื่องมือช่วยสำคัญในการเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจของชุมชนให้เกิดการพึ่งตนเองจากฐานทุนชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
กิตติมา ชาญวิชัย และธีรพล ภูรัต. (2563). การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการพัฒนาความเป็นตัวตนที่แท้จริงให้กับอาหารท้องถิ่นในอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านการเล่าเรื่อง. วารสารบริหารธุรกิจเศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร, 15(3), 26-37.
จริยา สุพรรณ. (2565). แนวทางการใช้เรื่องเล่าท้องถิ่นสื่อความหมายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดลพบุรี. วารสารอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน, 13(2), 250-279.
จริยา สุพรรณ, และมุกข์ดา สุขธาราจาร. (2565). ฐานทรัพยากรด้านการเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวจากสถานีวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ใน รัตนพล ชื่นค้า (บ.ก.), หนังสือรวมผลงานวิจัย-วิชาการวัฒนธรรมเกษตร (น.289-320). กรุงเทพมหานคร: บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน).
ชวัลนุช พุธวัฒนะ และปังปอนด์ รักอำนวยกิจ. (2564). แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของจังหวัดรองผ่านกระบวนการสร้างตราสินค้า การสร้างบรรจุภัณฑ์ และการเล่าเรื่อง (Branding, Packaging and Storytelling) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว: กรณีศึกษา กลุ่มจังหวัดอีสานใต้ (ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ). วารสารรัฐประศาสนศาสตร์, 19(2), 71-96.
ดุริยางค์ คมขำ. (2566). เรื่องเล่าและการเล่าเรื่องเพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเชียง. วารสารเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, 8(1), 91-108.
นภาภรณ์ หะวานนท์. (2552). วิธีการศึกษาเรื่องเล่า: จุดเปลี่ยนของการวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์. วารสารสังคมลุ่มน้ำโขง, 5(2), 1-21.
นรินทร์ สังข์รักษา, สุภาภรณ์ พรหมฤาษี และญัฐธยาน์ ตั้งถาวรสกุล. (2560). ชุดความรู้ที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์. Veridian E-Journal, Silpakorn University (Humanities, Social Sciences and arts), 10(2), 2143-2160.
ปรานี วงษ์เทศ. (2543). สังคมและวัฒนธรรมในอุษาคเนย์. กรุงเทพมหานคร: ศิลปวัฒนธรรม.
พงศ์วิชญ์ เขียวมณีรัตน์, สพสันติ์ เพชรคำ, ชนินทร์ วะสีนนท์, และศุภชัย สิงห์ยะบุศย์. (2561). บ้านภู: อัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ผู้ไทกับการบริหารการพัฒนาในบริบทการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(2), 17-25.
พรพรรณ เหมะพันธุ์. (2565). ความสำเร็จของชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี: กระบวนการและความเป็นผู้ประกอบการเชิงสถาบัน. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต, 10(1), 22-34.
พุทธชาติ โปธิบาล, มุกข์ดา สุขธาราจาร และจริยา สุพรรณ. (2564). โครงการการพัฒนาระบบสารสนเทศดิจิทัลทางด้านการเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวของผู้สูงอายุ (รายงานวิจัย). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สมปอง มูลมณี. (2564). เรื่องเล่าประจำจังหวัดจันทบุรี: ความสัมพันธ์กับการสร้างพื้นที่เพื่อจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดจันทบุรี. วิวิธวรรณสาร, 5(3), 337-358.
สิริพร เพียขันธ์. (2560). เศรษฐกิจการเมืองว่าด้วยการปรับตัวของชุมชนขาวไทยภูเขาเผ่าม้งต่อนโยบายรัฐ: กรณีศึกษาพื้นที่ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2549). สุวรรณภูมิ: ต้นกระแสประวัติศาสตร์ไทย. กรุงเทพมหานคร: มติชน.
สุนทรชัย ชอบยศ. (2562). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเพื่อการพัฒนารากฐานท้องถิ่นที่เข้มแข็งและยั่งยืน. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 17(2), 115-138.
สำราญ ผลดี, อัรฮาวี เจ๊ะสะแม และอุไรรัตน์ แย้มชุติ. (2564). การสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลท้องถิ่นเรื่อง “สมุทรสงคราม เมือง 3 น้ำ”. ศิลปศาสตร์ปริทัศน์, 16(2), 63-78.
อภิลักษณ์ เกษมผลกูล. (2558). เรื่องเล่าพื้นบ้านกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (OTOP) ในบริบทเศรษฐกิจสร้างสรรค์. ใน ศิราพร ณ ถลาง (บ.ก.). เรื่องเล่าพื้นบ้านไทยในโลกที่เปลี่ยนแปลง (น.19-68). กรุงเทพมหานคร: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
อัษฎาวุฒิ ศรีทน และอุมารินทร์ ตุลารักษ์. (2564). ทุนทางวัฒนธรรมในมิติการท่องเที่ยวชุมชนที่อธิบายผ่านเรื่องเล่า ตำนาน ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ในวิถีชีวิตชุมชน. ศิลปศาสตร์ปริทัศน์, 16(2), 141-158.
อาทิตย์ แวงโส, กิตติพัฒน์ ทาวงศ์ษา และมาโนช นันทพรม. (2564). เรื่องเล่าเชิงนิเวศกับการสร้างภูมิทัศน์วัฒนธรรมในชุมชนจังหวัดบึงกาฬ. วารสารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อุบลปริทรรศน์, 6(3), 1021-1032.
อิทธิพร ขำประเสริฐ. (2564). ยายหอมแห่งเมืองนครปฐม: การวิเคราะห์คุณค่าของตำนานและคติความเชื่อของชุมชน. วารสารข่วงผญา, 15(2), 30-54.
Firdaus, D.R.S & Purnamasair, O. (2023.) When Storytelling Complement Promotion: A Study at Sade Village Towards Sustainable. Retrieved form file:///C:/Users/PC109/Downloads/125985784%20(2).pdf.
Moen, T. (2006). Reflection on narrative approach. International Journal of Qualitative Methoods, 5(4), 1-16.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 ศิลปศาสตร์ปริทัศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศิลปศาสตร์ปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
