การวิเคราะห์แนวทางการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำในประเทศไทย โดยใช้เกาะหมาก จังหวัดตราด เป็นกรณีศึกษา
DOI:
https://doi.org/10.14456/arjla.2024.16คำสำคัญ:
การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ , เกาะหมาก , การอนุรักษ์พลังงาน , การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำจากข้อมูลเชิงวิชาการ 2) เพื่อศึกษาการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำในเชิงปฏิบัติในพื้นที่เกาะหมาก จ.ตราด จากแหล่งข้อมูลที่ปรากฏในสื่อองค์กรต่างๆ และ 3) เพื่อวิเคราะห์และกำหนดแนวทางการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่เหมาะสมในประเทศไทย งานวิจัยนี้เก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูล 2 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลเชิงวิชาการจากฐานข้อมูล TCI และ Google Scholar และข้อมูลจากองค์กรหรือสื่อต่างๆ ที่นำเสนอเกี่ยวกับการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำในพื้นที่เกาะหมาก จ.ตราด โดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (content analysis) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบของการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำจากข้อมูลเชิงวิชาการ สามารถสรุปและสังเคราะห์ได้ 8 องค์ประกอบ ได้แก่ ชุมชนคาร์บอนต่ำ แหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ที่พักคาร์บอนต่ำ อาหารคาร์บอนต่ำ กิจกรรมคาร์บอนต่ำ การขนส่งคาร์บอนต่ำ การร่วมมือภาคีเครือข่าย และ การประชาสัมพันธ์ 2) ผลการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเชิงปฏิบัติในพื้นที่เกาะหมาก จ.ตราด สามารถรวบรวมได้ 9 องค์ประกอบ โดยองค์ประกอบที่ 1 ถึง 8 มีความคล้ายคลึงกับผลการวิจัยในข้อ 1) ข้างต้น และมีองค์ประกอบที่เพิ่มเติมจำนวน 1 องค์ประกอบ คือ การจัดการด้านพลังงาน และ 3) ผลการวิเคราะห์แนวทางการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่เหมาะสมในประเทศไทย ด้วยการนำผลการวิจัยข้อที่ 1) และ 2) มาบูรณาการและสังเคราะห์ร่วมกัน ได้แนวทางการจัดการจำนวน 9 แนวทาง โดยผลการวิจัยในครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ด้านวิชาการ ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำผลไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและปรับปรุง และนำแนวทางการปฏิบัติไปส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีแก่ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมศักยภาพการจัดการการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำให้มีความเหมาะสมสำหรับประเทศไทยต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ชาคริต อ่องทุน และนรินทร์ สังข์รักษา. (2561). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการจัดการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำตามบริบทการพัฒนาประเทศไทย 4.0 ชุมชนในภาคตะวันออกของไทย (ดุษฎีนิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม. ค้นคืนจาก http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/1651.
ชาคริต อ่องทุน และนรินทร์ สังข์รักษา. (2562). การปฏิบัติที่เป็นเลิศในการจัดการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ: กรณีศึกษาชุมชนในภาคตะวันออกของไทย. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 13(2), 374-384.
เดอะคลาวด์. (2565). Low Carbon Destination. ค้นคืนจาก https://readthecloud.co/ kohmak-resort-trat/.
วณิชชา แก้วสุวรรณ์ และศุภิกา วานิชชัง. (2564). การประเมินการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการ แข่งขันเรือพายชิงแชมป์แห่งประเทศไทย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพมหานคร.
ณัฎฐกานต์ พฤกษ์สรนันทน์ และอดาร์ช บาตรา. (2561). การท่องเที่ยวอาหารแบบคาร์บอนต่ำโดยมะพร้าว เกาะสมุย ประเทศไทย. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 12 Special (2018): ครบรอบ 25 ปี วิทยาลัยดุสิตธานี, 231-247.
ธารีทิพย์ เหล่าวิโรจนกุล และอัศวิน แสงพิกุล. (2566). การวิเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ: แนวทางสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. วารสารศิลปศาสตร์ปริทัศน์, 18(1), 129-143.
ปิยะวิทย์ ทิพรส และอัศวิน แสงพิกุล. (2565). การวิเคราะห์์งานวิจัยและคำวิจารณ์ของลูกค้าในธุรกิจเชิงสุขภาพประเภทเดย์สปา. วารสารการบริหารและสังคมศาสตร์์ปริทรรศน์์, 5(3), 75-87.
สรัญญา จันทร์ชูสกุล. (2560). การประเมินคุณภาพวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับประถมศึกษา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ Veridian มหาวิทยาลัย, 10(2), 160-175.
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. (2558). อพท. 1 ชูแบรนด์ Low Carbon Holiday มัดใจนักท่องเที่ยวคุณภาพสู่จังหวัดตรา. ค้นคืนจาก: http://www.trattown.com/th/travel/low-carbon-holiday.
อะเมซซิ่งไทยแลนด์. (2566). อะไรเอ่ย 17 STGs มารู้จัก 17 เป้าหมายสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. ค้นคืนจาก https://www.facebook.com/AmazingThailand/posts/pfbid02s9DoogB9q6Pec ESFb8zFpVM5Z67 RRkgikiLiGrtHo4afEPdnRSt7cSFiU3pdqejml.
อัศวิน แสงพิกุล. (2558). การเปรียบเทียบการจัดนำเที่ยวเชิงนิเวศของผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวสีเขียวอย่างมีคุณภาพ: กรณีศึกษาผู้ประกอบการในเกาะภูเก็ตและเกาะบาหลี. วารสารสุทธิปริทัศน์. 30(93). 275-294.
Apivantanaporn, T. & Walsh, J. (2016). The low carbon tourism paradox: Evidence from Koh Mak. Quaestus, (9), 9-20.
Chookietwana, J., Sereenonchai, S., Arunrat, N., & Yuttitham, M. (2021). Communication Strategies of Natural Resources and Environmental Protection Volunteer (NEV) to Drive Low Carbon Community: A Case Study of Ban Tor Phae, Khun Yuam District, Mae
Hong Son Province. In The 8th Business Economics and Communications International Conference, Phisanulok (pp. 119-125).
Gefen, Z. (2013). Research on Low-carbon Rural Tourism Development in Western Minority Regions in China —from the perspective of Neo institutional economics. Journal of Contemporary Research in Business, 10(4), 117-125.
Fakfare, P. & Wattanacharoensil, W. (2023). Low-carbon tourism: determining domestic tourist perception from Thailand: TOURISM AGENDA 2030. Tourism Review, 78(2), 496-516.
Hanpattanakit, P., Pimonsree, L., Jamnongchob, A., & Boonpoke, A. (2018). CO2 emission and reduction of tourist transportation at Kok Mak Island, Thailand. Chemical Engineering Transactions, 63, 37-42.
Nguyen, H. A. T., Gheewala, S. H., Sophea, T., Areerob, T., Hashimoto, K., Pimonsree, S., & Prueksakorn, K. (2020). Comparative carbon footprint assessment of agricultural and tourist locations in Thailand. Journal of Cleaner Production, 269, 122407.
Sukcharoenchok, M. N. & Rado, I. (2019). The impacts of community-based tourism on economic, social, and environmental dimensions for the local communities in Thailand. (Master’s thesis, School of Global Studies, Thammasat University). Bangkok, Thailand.
Sununta, N., Kongboon, R., & Sampattagul, S. (2019). GHG evaluation and mitigation planning for low carbon city case study: Dan Sai Municipality. Journal of Cleaner Production, 228, 1345-1353. https://doi.org/10.1016/j.jclepro.2019.04.312.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์วิชาการและวิจัย (ออนไลน์)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศิลปศาสตร์ปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
