“จีนตั้วเหี่ย” ภาพสะท้อนบทบาทและอิทธิพลของชาวจีนโพ้นทะเล ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 3-4)

ผู้แต่ง

  • สำราญ ผลดี รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการศึกษาทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

DOI:

https://doi.org/10.14456/arjla.2024.13

คำสำคัญ:

จีนตั้วเหี่ย , สมาคมลับ , ชาวจีนโพ้นทะเล

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งศึกษาถึงภาพสะท้อนบทบาทและอิทธิพลของกลุ่มชาวจีนในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 3-4) ผ่านการดำเนินงานของ “สมาคมลับ” หรือ “จีนตั้วเหี่ย” ซึ่งพบว่า ชาวจีนอพยพเข้ามาในสยามจำนวนมากตั้งแต่สมัยธนบุรีจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ โดยมีมูลเหตุมาจาก สยามต้องการชาวจีนให้เข้ามาช่วยในเรื่องการผลิตและการค้า รวมถึงการให้อิสระและสิทธิพิเศษในการอยู่อาศัย ชาวจีนพยายามสร้างสถานภาพและความมั่นคงในหลายลักษณะทั้งการแต่งงานกับชาวสยาม การเข้าไปมีบทบาทในระบบราชการ การแสวงหาความคุ้มครองจากต่างชาติ ปัญหา จีนตั้วเหี่ย เกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 3 โดยมีมูลเหตุมาจาก ปัญหาเรื่องการค้าฝิ่น ความเจ็บแค้นในข้าราชการสยาม ความต้องการได้รับการคุ้มครอง โดยกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ตามที่ต้องการ แม้ว่าการกระทำนั้นจะขัดต่อกฎหมายของบ้านเมือง รัชกาลที่ 3 ทรงใช้นโยบายแข็งกร้าวและการปราบปรามอย่างเด็ดขาด แต่ปัญหาจีนตั้วเหี่ยกลับเพิ่มจำนวนขึ้นและกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ หลายจังหวัด ในขณะรัชกาลที่ 4 ทรงเลือกใช้นโยบายประนีประนอมมากกว่า ปัญหาจีนตั้วเหี่ย คือสะท้อนบริบททางประวัติศาสตร์สังคมสำคัญทั้งความสำคัญของชาวจีน ความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมของชาวจีน นโยบายของรัฐที่มีต่อชาวจีน รวมถึงอิทธิพลของชาวจีนในช่วงเวลาดังกล่าว

เอกสารอ้างอิง

กรมศิลปากร. (2554). รวมเรื่องแปลหนังสือและเอกสารทางประวัติศาสตร์ ชุดที่ 5. กรุงเทพมหานคร: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์.

กรมศิลปากร. (2555). รวมเรื่องแปลหนังสือและเอกสารทางประวัติศาสตร์ ชุดที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์.

กรมศิลปากร. (2557). ไทยและลาวในสายตามิชชันนารีชาวอเมริกัน. กรุงเทพมหานคร: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์.

กิติศักดิ์ วิทยาโกมลเลิศ. (2545). การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตั้งถิ่นฐานจากชุมชนน้ำสู่เมืองบกในพื้นที่เมืองฝั่งธนบุรี. (วิทยานิพนธ์การวางผังเมืองมหาบัณฑิต), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.

คริส เบเคอร์ และผาสุก พงษ์ไพรจิตร. (2562). ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: มติชน.

จำนงศรี รัตนิน (หาญเจนลักษณ์). (2542). ดุจนาวางกลางมหาสมุทร (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: นานมีบุ๊คส์.

เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค). (2560). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3. กรุงเทพมหานคร: ไทยควอลิตี้บุ๊คส์.

ประภัสสร เสวิกุล. (2548). จากฮวงโหสู่เจ้าพระยา. กรุงเทพมหานคร: อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนพับลิชชิ่ง.

มัลลิกา เรืองระพี. (2518). บทบาทของชาวจีนในด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปกรรมไทย สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.

รังสรรค์ ธนะพรพันธ์. (2527). ภาษีอากรในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย คลังข้อมูลและบทสำรวจสถานะทางวิชาการ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศุภรัตน์ เลิศพาณิชย์กุล. (2524). สมาคมลับอั้งยี่ในประเทศไทย พ.ศ. 2367-2453. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.

สกินเนอร์, จี. วิลเลียม. (2548). ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. (บรรณาธิการ). สังคมจีนในไทย:ประวัติศาสตร์เชิงวิเคราะห์. พรรณี ฉัตรพลรักษ์และคณะ (ผู้แปล). กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. (2559). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 5. กรุงเทพมหานคร: ไทยควอลิตี้บุ๊คส์.

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. (ม.ป.ป.). นิทานโบราณคดี. ค้นคืนจาก https://vajirayana.org.

สำราญ ผลดี. (2565). ประวัติศาสตร์ การเมือง การสงคราม สมัยต้นรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร: ศรีปัญญา.

สำราญ ผลดี. (2566). นัยและภาพสะท้อนทางการเมืองจากความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างสยามและจีนในสมัยสมเด็จพระนเรศวร. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์ปริทัศน์, 18(2), 244-261.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-05-27

รูปแบบการอ้างอิง

ผลดี ส. (2024). “จีนตั้วเหี่ย” ภาพสะท้อนบทบาทและอิทธิพลของชาวจีนโพ้นทะเล ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 3-4). วารสารศิลปศาสตร์วิชาการและวิจัย (ออนไลน์), 19(1), 231–246. https://doi.org/10.14456/arjla.2024.13

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ