การพัฒนาชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
คำสำคัญ:
The objectives of this research were 1) To develop citizenship learning packages toward the law in daily life by using problem based learning for secondary school year 3 students to be efficient in accordance with the efficiency standard criterion of 75/75; 2) To determine effectiveness index of citizenship learning packages toward the law in daily life by using problem based learning for secondary school year 3 students; 3) To study the problem solving abilities of secondary school year 3 students before and after using problem based learning and 4) To explore the satisfaction of the students with learning through the learning packages toward the law in daily by using problem based learning for secondary school year 3 students. The research was a Quasi-Experimental research. The study sample were 35 students of secondary school year 3/1 in Watratbamrung School, selected by using simple random sampling. The research instruments included 5 citizenship learning packages for main idea, lesson plans, achievement test, a problem solving abilities test, and questionnaire about students‘satisfaction. The Statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, and E.I. The findings indicated that: (1) The efficiency index (E1/ E2) of the citizenship learning packages toward the law in daily life by using problem based learning for secondary school year 3 students was 79.09/82.29, (2) The effectiveness index of the citizenship learning packages was 0.7256, indicating learning progress (E.I.) accounted for 72.56, (3) Problem solving abilities of secondary school year 3 students using problem based learning were Very high-level, and (4) The satisfaction of students with learning through the learning packages toward the law in daily life by using problem based learning for secondary school year 3 students as whole was at a high level. Keywords: Problem Based Learning, Lawsบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ให้มีประสิทธิภาพ 75/75 (2) หาดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (3) ศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบเชิงกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (งามศิริวิทยาคาร) จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) ชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย (4) แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาแบบอัตนัย และ (5) แบบสอบถามความพึงพอใจสำหรับนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ดัชนีประสิทธิผล
ผลการวิจัยพบว่า (1) ชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/ E2) เท่ากับ 79.09/82.29 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (2) ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยชุดการเรียนรู้ (E.I.) มีค่าเท่ากับ 0.7256 ซึ่งแสดงว่านักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมีความก้าวหน้าทางการเรียน คิดเป็นร้อยละ 72.56 (3) ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนอยู่ในระดับสูงมากและ (4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง เรื่อง รอบรู้กฎหมายใกล้ตัวเรา ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน
คำสำคัญ : การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน, กฎหมาย
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551ข ). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพ : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
กุหลาบ หงส์ทอง. (2546). การพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชุมชน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร
ชนันพัฒน์ วรรณวิจิตร. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมวิชาหน้าที่พลเมืองโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี ประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มัณฑรา ธรรมบุศย์. (2545). การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยใช้ PBL (Problem-Based Learning) . วิชาการ.
วรายุภัสร์ ปานอำพันธ์. (2560). ผลการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่องการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษาซีพลัสพลัส ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีแบบการเรียนต่างกัน. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต : มหาวิทยาลัยศิลปากร
วัชรา เล่าเรียนดี. (2556). ศาสตร์การนิเทศการสอน และการโค้ช การพัฒนาวิชาชีพ : ทฤษฎีกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 12. นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์นครปฐม.
สมพิศ กอบจิตติ. (2548). การพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.วิทยานิพนธ์. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สาริญา และสุมผล. (2560). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาชีววิทยาทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
อิทธิพัทธ์ ศุภรัตนาวงศ์. (2558). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง สังคมไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับสังคมออนไลน์. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Best,John W. ,and James V Kahn.(1986). Research in Education. 5 th ed. New Delhi: Prentice - Hall of India.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการและบทความวิจัยในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศาส์น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
