การพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT ประกอบการใช้เกมบิงโก (Bingo Game) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
คำสำคัญ:
แบบฝึกทักษะ, การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT, เกมบิงโก (Bingo Game)บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT ประกอบการใช้เกมบิงโก (Bingo Game) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT ประกอบการใช้เกมบิงโก (Bingo Game) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยการพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TGT ประกอบการใช้เกมบิงโก (Bingo Game) กลุมตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (งามศิริวิทยาคาร) จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 25 คน ได้มาโดยใช้วิธีสุมตัวอย่างแบบอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) แบบฝึกทักษะการพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (2) แผนการจัดการเรียนรู้ (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) แบบฝึกทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.90/84.00 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 2) ค่าดัชนีประสิทธิของแบบฝึกทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ มีค่าเท่ากับ 0.7585 แสดงว่าหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคTGTสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ75.85 และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการพัฒนาทักษะทาง การเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง การคูณ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน ด้านที่ นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านเนื้อหา และด้านการวัดและประเมินผล สำหรับด้านที่เหลืออยู่ในระดับมากที่สุด
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551.
กรุงเทพมหานคร : กระทรงศึกษาธิการ.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี. (2546). การจัดการเรียนรู้กลุ่มวิทยาศาสตร์
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ม.ป.ท. : ม.ป.พ.
สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์. (2549). “สมรรถนะครูและผู้บริหารการศึกษา”, วรสารการศึกษาไทย. (17) : 10-21กิตติ พัฒนตระกูลสุข. (2548). บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้สำหรับครูคณิตศาสตร์, คณิตศาสตร์. 554 (48) : 1.พิทักษ์ อุดมชัย. (2552). หน้าที่ทางการบริหารที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่นเขต 5. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ทิศนา แขมณี. (2554). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์. (2554). การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและการประเมินตามสภาพจริง.เชียงใหม่ : เชียงใหม่โรงพิมพแ์ สงศิลป์.
อังคณา ชัยมณี. (2540). การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยเพื่อความเข้าใจโดยใช้การเรียน แบบร่วมมือด้วยเทคนิคการแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3.
วิยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาประถมศึกษา, บัณวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ฟิลลิปส์, แปลโดย เตือนใจ เฉลิมกิจ. (2545). กิจกรรมภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก. กรุงเทพฯ :
หน้าต่างสู่โลกกว้าง
ศิฬาวรรณ อินทะเสน. (2553). รายงานวิจัยเรื่องการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์เรื่องการคูณโดย ใช้ชุดฝึกทักษะและกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. บุรีรัมย์ : มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์, คณะครุศาสตร์.
ไพลิน ลือสาร. (2553). ผลการใช้เกมคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกลบเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา).สืบค้นจาก https://is.gd/THByal
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2545). 21 วิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด.
กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการและบทความวิจัยในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศาส์น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์