ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาสภาเด็กเพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่

Main Article Content

รุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว
ทวี แจ่มจำรัส
ปิยะวดี จินดาโชติ
ไปรพร แสงจันทร์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการพัฒนาสภาเด็กเพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ ภาวะผู้นำของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นโยบายของภาครัฐ การมีส่วนร่วมของภาคสังคม และโครงการส่งเสริมในการพัฒนา 2) เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุของภาวะผู้นำของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นโยบายของภาครัฐ การมีส่วนร่วมของภาคสังคม และโครงการส่งเสริมในการพัฒนาที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาสภาเด็กและเยาวชน เพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสภาเด็กเพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณมีกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 400 ตัวอย่าง กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้หลักเกณฑ์ 20 เท่าของตัวแปรสังเกต สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึกประกอบด้วยนายกองค์การปกครองส่วนจังหวัดเชียงใหม่และเจ้าหน้าที่ นายกเทศบาล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล และตัวแทนภาคประชาชน รวมทั้งสิ้น 17 คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
                ผลการวิจัย พบว่า 1) การพัฒนาสภาเด็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการมีส่วนร่วมของภาคสังคม ภาวะผู้นำของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  โครงการส่งเสริมในการพัฒนา และนโยบายของภาครัฐ มีความสำคัญอยู่ในระดับมากทั้งหมด 2) นโยบายของภาครัฐมีอิทธิพลเชิงสาเหตุรวมต่อการพัฒนาสภาเด็กเพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด รองลงมาได้แก่ โครงการส่งเสริมในการพัฒนา ภาวะผู้นำของผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของภาคสังคม ตามลำดับ และ 3) แนวทางการพัฒนาสภาเด็กเพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย นโยบายของภาครัฐที่มีอิทธิพลรวมมากที่สุด เป็นฐานผลักดันอยู่ล่างสุด มีโครงการส่งเสริมในการพัฒนา และภาวะผู้นำของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยู่ตรงกลาง และการมีส่วนร่วมของภาคสังคมช่วยส่งเสริมอยู่ในระดับบนด้วย  นอกจากนั้นความสำเร็จของการพัฒนาสภาเด็กเพื่อชุมชนเข้มแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องประกอบด้วย สิทธิในการอยู่รอดและการส่งเสริมชีวิต สิทธิในการปกป้องคุ้มครอง สิทธิในการศึกษา และสิทธิในการใช้แรงงานเด็ก  ผลการวิจัยมีประโยชน์ต่อการนำไปเป็นแนวทางการพัฒนาสภาพเด็กองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ และใช้เป็นแนวทางให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นไปใช้ในการพัฒนาสภาเด็กให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ. (2560). ภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น.

คณาพร ปิ่นกุมภีร์.(2562). ครูจะช่วยดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้อย่างไร. ค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2567 จาก http://kri2.esdc.go.th/bthkhwam.

ชานนท์ โกมลมาลย์. (2561). การวิจัยประเมินผลการพัฒนาสภาเด็กและเยาวชน. Journal of Social Work, 24(1), 105-134.

ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2560). การเล่นเพื่อการเรียนรู้ ในเด็กออทิสติก. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการพัฒนาออทิสติก สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต

ธนวิทย์ บุตรอุดม. (2563). กำหนดยุทธศาสตร์ด้านเด็กและเยาวชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคเหนือตอนบน. วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร 4(2), 15-25.

ปิยลักษณ์ โพธิวรรณ์. (2562). แนวทางการจัดการคุ้มครองสวัสดิภาพและสังคมสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสภาเด็กและเยาวชน จังหวัดมหาสารคาม. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, 16 (1),12-25.

วิชัย ตันศิริ. (2562). โฉมหน้าการศึกษาในอนาคต: ความสำคัญของการปฏิรูปในพระราชบัญญัติการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย

อนุพงศ์ จันทะแจ่ม.(2562). การศึกษาและพัฒนาข้อเสนอเพื่อส่งเสริมให้ท้องถิ่นสนับสนุนสภาเด็กและเยาวชนและกลุ่มเด็กและเยาวชนริเริ่มทำกิจกรรมสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาในชุมชนสังคมของตนเอง. วารสารพัฒนศาสตร์, 2(2), 62 -101.

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. (2560). นโยบายการพัฒนาเด็กและเยาวชน. ค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2567 จาก http://www.dla.go.th/index.jsp.

Arnstein, S. R. (1969). A ladder of citizen participation. Journal of the American Institute of Planners, 35(4), 216-224.

Anderson, James E. (1994). Public Policy – Making : Introduction. 2nd. New York : Houghton Mifflin Company.

Avolio, B.J. (2018). Organizational Transformation: How to achieve it, one person at a time. Stanford, CA: Stanford University Press.

Collins, M. E., Augsberger, A., & Gecker, W. (2019). Youth councils in municipal government: Examination of activities, impact, and barriers. Children and Youth Services Review, 65, 140-147.

Collins, T. M., Jamieson, L., Wright, L. H., Rizzini, I., Mayhew, A., Narang, J., ... & Ruiz-Casares, M. (2020). Involving child and youth advisors in academic research about child participation: The Child and Youth Advisory Committees of the International and Canadian Child Rights Partnership. Children and Youth Services Review, 109, 104569.

Forde, C., & Martin, S. (2020). Children and young people’s right to participate: National and local youth councils in Ireland. The International Journal of Children's Rights, 24(1), 135-154.

Greenspan, S. I., & Wieder, S. (2019). The interdisciplinary council on developmental and learning disorders diagnostic manual for infants and young children–An overview. Journal of the Canadian Academy of Child and Adolescent Psychiatry, 17(2), 76.

Hart, R. A. (1997). Children's Participation: The Theory and Practice of Involving Young Citizens in Community Development and Environmental Care. UNICEF.

Nir, T., & Perry-Hazan, L. (2020). The framed right to participate in municipal youth councils and its educational impact. Children and Youth Services Review, 69, 174-183.

Wright, B. E., & Pandey, S. K. (2010). Transformational leadership in the public sector: Does structure matter?. Journal of Public Administration Research and Theory, 20(1), 75-89.