Book Review : Islam and Social Work: Debatings values, transforming practice

Authors

  • วรรณวดี พูนพอกสิน, รองศาสตราจารย์ Faculty of Social Administration, Thammasat University

Keywords:

Islam, Social Work, Debatings values, transforming practice

Abstract

ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา กระแสความเป็นมุสลิมถูกพาดพิงถึงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมโลก มุสลิมยังถูกมองว่าเป็นผู้กระทำผิด เป็นต้นเหตุของสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ความน่าสนใจดังกล่าวนำไปสู่การให้ความสนใจของผู้คนต่อทุกรายละเอียดในศาสนาอิสลาม ในความเป็นมุสลิม สำหรับสังคมไทย นอกเหนือจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ยาวนานมากกว่า 10 ปีที่ความเป็นมุสลิมมักถูกโยงให้เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้ก่อให้เกิดความไม่สงบ ในรอบปีที่ผ่านมา ยังมีการอพยพเข้าสู่ประเทศไทยของ “มุสลิมโรฮีนจา”(Rohingya) กลุ่มชาติพันธุ์ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศพม่า ชาวจีนมุสลิมชนชาติ “อุยกูร์” (Uyghur) เชื่อมโยงไปถึงการวางระเบิดศาลพระพรหมในกรุงเทพมหานคร มากไปกว่านั้น ที่ดูเป็นการก่อการร้ายสากลที่สร้างความรุนแรง ความหวาดกลัว ในหลายพื้นที่ของโลก มีการกล่าวพาดพิงว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นการกระทำของ “ไอซิส” (Islam State of Iraq and al-Sham: ISIS) ซึ่งหมายถึงรัฐอิสลามในอิรักและอัล-ชาม (ซีเรีย) เหล่านี้ทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้และไม่เข้าใจในศาสนาอิสลามอย่างแท้จริงต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม และความโหดร้ายของมุสลิม จนเกิดกระแสการต่อต้าน รังเกียจมุสลิมไปทั่วโลก …ในขณะที่อีกมุมของโลก หลายคนอาจมองไม่เห็น หรือมองข้ามความรุนแรง ไม่ได้ยินเสียงของมุสลิมที่เป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรง ความสูญเสียที่มุสลิมได้รับอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานจนไม่อาจประเมินค่าการสูญเสียได้ พวกเขาถูกกระทำให้อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจนแทบจะเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นถูกทำให้เป็นความปกติ เงียบ ไม่มีเสียง ไม่มีพลังที่จะไปต่อรองกับใคร เมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ๆ ที่อำนาจของเสียงที่มีทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต อาวุธที่ครอบครองพร้อมที่จะจัดการกับผู้เกี่ยวข้องอย่างรุนแรง โดยการตัดสินความผิดเอง และไม่สนใจว่าผู้ได้รับผลกระทบจะเป็นใครบ้าง เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของปาเลสไตน์ ซีเรีย อิรัก และประเทศมุสลิมอื่นๆ สถานการณ์ที่ดูเหมือนเป็นการลงโทษมุสลิมผู้กระทำผิดของประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทประหนึ่งศาลโลกเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดกระแสการต่อต้านความเป็นมุสลิมของบุคคลในเกือบทุกประเทศทั่วโลก มุสลิมกลายเป็นภาพตัวแทนของความรุนแรง ความโหดร้าย ความน่ากลัว อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม บทวิจารณ์หนังสือในครั้งนี้ มิได้มุ่งไปที่ความรุนแรงที่เกริ่นนำในข้างต้น แต่เป็นหนังสือที่พยายามสะท้อนภาพและอภิปรายถึงหลักคำสอนของมุสลิมในเกือบทุกด้านที่มีความเป็นอัตลักษณ์ เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตซึ่งผนวกรวมการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน เนื้อหาอาจช่วยสร้างความเข้าใจต่อมุสลิมได้ในบางบริบทและบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีการอธิบายเล็กน้อยถึงสงครามศาสนา (ญิฮาด) ในบทนำด้วย เป้าหมายของหนังสือ “อิสลามและสังคมสงเคราะห์” พยายามอธิบายและชี้ให้เห็นวัฒนธรรมมุสลิมที่ผู้เกี่ยวข้องต่างต้องเรียนรู้และให้ความเคารพในคำสอนที่มีความเฉพาะ เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ ผู้วิจารณ์ซึ่งมีความเป็น “คนใน” มีความสนใจงานด้านสังคมสงเคราะห์สำหรับมุสลิมเป็นพิเศษ แต่แทบไม่มีหนังสือเล่มใดที่มีในห้องสมุดต่างๆ ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ชัดเจน เป็นเรื่องเป็นราว ในที่สุดก็ได้รับความอนุเคราะห์จากห้องสมุดของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการซื้อหนังสือเล่มนี้ เพื่อให้ผู้เขียนและผู้สนใจได้ศึกษาและเข้าใจในงานสังคมสงเคราะห์สำหรับมุสลิมชัดเจนมากขึ้น จึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

Additional Files

Published

18-02-2019

How to Cite

พูนพอกสิน ว. (2019). Book Review : Islam and Social Work: Debatings values, transforming practice. Journal of Social Work and Social Administration, 23(2), 208–216. Retrieved from https://so04.tci-thaijo.org/index.php/swjournal/article/view/173045