บทบาทชุมชนไทย-มอญ บ้านเจดีย์ทองต่อความเชื่อมโยงระหว่างวัด และพระสงฆ์ในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
บทบาทของวัด, วิถีชีวิตชุมชน, ไทย-มอญบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาบทบาทชุมชนไทย-มอญ บ้านเจดีย์ทองต่อความเชื่อมโยงระหว่างวัดและพระสงฆ์ในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 2) เพื่อศึกษาความเชื่อมโยงของชุมชนไทย-มอญ บ้านเจดีย์ทองต่อวัดและพระสงฆ์ ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป โดยมีแบบสัมภาษณ์ 2 ชุด ประกอบไปด้วยชุดที่1แบบสัมภาษณ์ชาวบ้านและกรรมการวัด และชุดที่ 2 แบบสัมภาษณ์พระสงฆ์ โดยมีกลุ่มประชากรตัวอย่างที่เลือก ประกอบไปด้วย (1) กลุ่มชาวบ้าน 4 คน (2) กลุ่มกรรมการวัด 3 คน (3) กลุ่มพระสงฆ์ 3 รูป (4)กลุ่มวัด 3 รูป (โดยสัมภาษณ์ผ่านทางพระสงฆ์ชุดเดิม)
ผลการวิจัยพบว่า บทบาทชุมชนไทย-มอญ บ้านเจดีย์ทองต่อความเชื่อมโยงระหว่างวัดและพระสงฆ์ในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ยังมีความเชื่อมโยงและการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรมด้วยกันอย่างมากโดยผ่านการทำหน้าที่การทำกิจกรรมต่างๆ คือ 1) ในส่วนของชาวบ้านและกรรมการวัดมีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนเชิงเศรษฐกิจและแรงงาน เช่นการจัดการศานสมบัติของวัด การช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆภายในวัด และการทำกิจกรรมแทนพระสงฆ์ 2) ในส่วนของวัด มีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนทางสังคมและวัฒนธรรม เช่นเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล เป็นศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม และเป็นที่ประกอบพิธีกรรม 3) ในส่วนของพระสงฆ์ มีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรม เช่น การอบรมทางจริยธรรม การเผยแพร่ธรรมะ การพัฒนาจิตใจ การส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม 4) ในส่วนของการเข้าใช้พื้นที่และสถานที่ภายในวัดโดยให้ความสำคัญกับ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ พระอุโบสถ พื้นที่ริมน้ำ และเจดีย์มอญมาก จากรายการต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นทำให้รู้ว่า บทบาทของอาคารเพื่อทำกิจของฆารวาสและสงฆ์นั้น ให้ความสำคัญกับการใช้งานของกิจกรรมเป็นหลัก ทำให้เกิดความถี่การเข้าใช้สอยพื้นที่ตามมา และเกิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจ นำไปสู่ความเชื่อมโยงระหว่างวัดกับชุมชน
เอกสารอ้างอิง
จวน เครือวิชาฌยาจารย์. (2548). ประเพณีมอญที่สำคัญ. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.
จวน ปานแก้ว. กรรมการวัด วัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
ฉัตรชัย ไชยโยธา. (2549). บทบาทพระสงฆ์กับการพัฒนา: กรณีศึกษาหลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท วัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ.
โชคชัย สุวรรณรส. (2562, 15 ตุลาคม 2562) ชาวบ้านชุมชนมอญวัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี.
ปกรณ์ ทันการ. (2562) ชาวบ้านชุมชนมอญวัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี.
พระมหากฤษฎา นันทเพรช. (2540). ทัศนคติของพระสงฆ์ต่อบทบาทการพัฒนาสังคม. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, คณะพัฒนาสังคม.
พระมหาทนงชัย บูรณพิสุทธิ. (2545). บทบาทของวัดกับชุมชนเมือง ในเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหิดล. บัณฑิตวิทยาลัย.
พระมหาพีระพงษ์ พยัคกาฬ. (2549). ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชนในการจัดการ การเทศน์มหาชาติของล้านนา. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, บัณฑิตวิทยาลัย.
พิชิต คำพลงาม. (2549). พระสงฆ์กับการพัฒนาท้องถิ่น กรณีศึกษาอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย, บัณฑิตวิทยาลัย.
พิสัณฑ์ ปลัดสิงห์. (2532). คนมอญ. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์.
พระครูโสภณ สุตวัฒน์. เจ้าอาวาส วัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
พระเกษม ชีตะมาโร. พระสงฆ์ วัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
พระอภิวัฒค์ ธนงค์. พระสงฆ์ วัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2551). การปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สวัสดี สุวรรณรส. กรรมการวัด วัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
สาคูน ทันการ. ชาวบ้านชุมชนมอญวัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
สุภรณ์ โอเจริญ. (2541). มอญในเมืองไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
แสวง อุดมศรี. (2533). การปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
อำภา มะเฟือง. กรรมการวัด วัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี, สัมภาษณ์, 15 ตุลาคม 2562.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และวารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอสงวนสิทธิในการเผยแพร่ผลงานที่ตีพิมพ์ในแบบรูปเล่มและทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นใด
บทความหรือข้อความคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนโดยเฉพาะ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ