ความต้องการและความเต็มใจจ่ายค่าเข้าชมของพิพิธภัณฑ์: กรณีศึกษา เรือหลวงลันตาและศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา

Main Article Content

อรอนงค์ เฉียบแหลม

บทคัดย่อ

            พิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตาและศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา เป็นโครงการที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ที่จะดำเนินการเปิดให้ชมในอนาคต ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการของนักท่องเที่ยว นักเรียน/นักศึกษา และผู้ประกอบการธุรกิจจัดนำเที่ยวในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ รวมทั้งเพื่อศึกษาความเต็มใจจ่ายในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ โดยใช้วิธีการสมมติเหตุการณ์ให้มีการประเมินค่าสินค้าที่ไม่ผ่านตลาดหรือ Contingent Valuation Method (CVM) เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เครื่องมือแบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง (Structure Questionnaire) สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง 4 กลุ่ม จำนวน 400 ตัวอย่าง ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 130 ตัวอย่าง นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 100 ตัวอย่าง นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 110 และผู้ประกอบการธุรกิจจัดนำเที่ยว 60 ตัวอย่าง ทำการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics)


            ผลการศึกษาพบว่า หากมีการเปิดพิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตาและศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา ส่วนใหญ่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ประกอบการธุรกิจจัดนำเที่ยว และนักเรียน/นักศึกษาจะเข้ามาชมอย่างแน่นอน โดยคิดเป็นร้อยละ 75.40, 65.00 และ 64.00 ตามลำดับ ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นส่วนใหญ่ร้อยละ 66.70 ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาชมหรือไม่ ส่วนกิจกรรมที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.75 ต้องการเข้าไปชมและเรียนรู้คือ ส่วนแสดงเรื่องประวัติเรือหลวงลันตา ในด้านความเต็มใจจ่ายพบว่าถ้ามีการเปิดให้เข้าชมชมพิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตาพบว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีความเต็มใจจ่ายในราคาเฉลี่ย 191.94 บาท รองลงมาคือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและประชาชนทั่วไป มีความเต็มใจจ่ายเฉลี่ย 47.42 บาท และกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาเต็มใจจ่ายเฉลี่ย 30.73 บาท ส่วนด้านผู้ประกอบการธุรกิจจัดนำเที่ยวทั้งหมดนั้น ต้องการให้มีการเก็บค่าธรรมเนียมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และร้อยละ 61.70 ของผู้ประกอบการธุรกิจจัดนำเที่ยวคิดว่าควรเก็บจากนักเรียน/นักศึกษา อย่างไรก็ตามร้อยละ 58.30 คิดว่าไม่ควรเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าชมจากกลุ่มผู้สูงอายุ
หรือกลุ่มคนชราควรให้มีการเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนั้นหากพิพิธภัณฑ์ฯ จะเก็บค่าธรรมเนียมในการ
เข้าชมจึงไม่ควรที่จะมีราคาเกินราคาเฉลี่ยดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับต้องการของผู้เข้าชม และควรมีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้โดยเฉพาะด้านประวัติศาสตร์ให้น่าสนใจเนื่องจากผู้เข้าชมส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เฉียบแหลม อ. (2020). ความต้องการและความเต็มใจจ่ายค่าเข้าชมของพิพิธภัณฑ์: กรณีศึกษา เรือหลวงลันตาและศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา . วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย, 15(2), 55–67. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/tourismtaat/article/view/241942
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Azam, A., Mohamad, H. M. & Majid, K. S. (2016). Estimating the Outdoor Recreational Value of Lavizan Jungle Park of Tehran Using Contingent Valuation Method (CV). Journal of Ecology, 6, 225–234

Biswas, A. (2016). A Study of Consumers’ Willingness to Pay for Green Products. Journal of Advanced Management Science, 4(3), 211–215

Bowker, J. M., Cordell, H. K. & Johnson, C. Y. (1999). User Fees for Recreation Service on Public Lands: A National Assessment. Journal of Park and Recreation Administration, 17(3), 1–14

Corbos, R. A. & Popescu, R. I. (2011). Museum, Marketing, Tourism and Urban Development: The British Museum–A Successful Model for Romanian Museums. Management and Marketing, 9(2), 303–314

Gilmore, A. & Rentschler, R. (2002). Changes in Museum Management: A Custodial or Marketing Emphasis? Journal of Management Development, 21(10), 745–760

Krabi Provincial Administrative Organization. (2010). Innovation of Krabi Provincial Administrative Organization in H.T.M.S. Lanta Museum and Learning Center to Commemorate the Auspiciousness of His Majesty the King’s 84th Birthday. Krabi.

Orachorn Ruangchan. (2006). Analysis of Willingness to Pay for Admission Fee in Natural Science Museum, Queen Sirikit Botanic Garden. Master’s Thesis. Faculty of Economics, Chiang Mai University.

Reynisdottir, M., Song, H. & Agrusa, J. (2008) Willingness to Pay Entrance Fees to Natural Attractions: An Icelandic Case Study. Tourism Management, 29, 1076–1083.

Siripen Yiamjanya. (2012). Decision Making and Behavior of Thai Tourists in Visiting Saisuddha Nobhadol Mansion in Suan Sunandha Palace and Marketing Mix Factors that Influence Their Decision. Suan Sunandha Rajabhat University.