ยกระดับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานทรัพยากรท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงของชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี

ผู้แต่ง

  • จุฑาธิปต์ จันทร์เอียด คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

การยกระดับ, การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, ทรัพยากรท้องถิ่นเศรษฐกิจสร้างสรรค์, ชุมชนเกาะล้าน

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษา และประเมินพรรณไม้บริเวณระบบนิเวศป่าบนเกาะบนพื้นที่เกาะล้าน สู่การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี 2) เพื่อศึกษาความพร้อมของชุมชนและความต้องการของนักท่องเที่ยวต่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่ชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี 3) ยกระดับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานทรัพยากรท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงของชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างเชิงวิจัยปริมาณ และวิจัยเชิงคุณภาพ พื้นที่วิจัย คือ ชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณ จำนวน 385 คน เนื่องจากไม่ทราบขนาดของประชากรที่แน่นอน แต่ทราบว่ามีจำนวนมากและต้องการประมาณค่าสัดส่วนของกลุ่มประชากร โดยใช้ระดับความเชื่อมั่น 95% ความคลาดเคลื่อนเท่ากับ 5% ได้กลุ่มตัวอย่าง ผู้ให้ข้อมูลสำคัญเชิงคุณภาพ จากเป็น 5 กลุ่ม โดยผู้วิจัยได้คัดเลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ รวมจำนวน 25 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบการตรวจสอบทรัพยากรท่องเที่ยว แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และแบบสอบถามแบบใช้การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพวิเคราะห์ด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) การวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินพรรณไม้ และการวิเคราะห์เชิงปริมาณด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติด้านมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ผลการสำรวจ การสำรวจเบื้องต้นในเส้นทางธรรมชาติบนเขาสังวาล และเขานมสาวพบว่า มีสภาพป่าเป็นป่าผลัดใบแคระ โดยพบพรรณไม้เด่น ได้แก่ กลุ่มไม้ต้น เช่น คำมอกหลวง หรือต้นไวอะกร้า (Gardenia sootepensis Hutch) ไม้พุ่ม เช่น ติ้วขน หรือติ้วแดง (Cratoxylum formosum subsp. pruniflorum (Kurz) Gogelein) ไม้ล้มลุก ได้แก่ หนอนตายหยาก (Stemona phyllantha Gagnep) เป็นต้น ส่วนผลการศึกษาศักยภาพของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศก่อนกระบวนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พบว่า มีมาตรฐานคุณภาพ โดยรวมอยู่ในระดับ ดี คือ มีคะแนนจากการประเมินเท่ากับ 64 คะแนน หรือร้อยละ 64 ส่วนผลการประเมินหลังผ่านกระบวนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมในระยะเวลา 10 เดือน พบว่า มีมาตรฐานคุณภาพ โดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก คือ มีคะแนนจากการประเมินเท่ากับ 76 คะแนน หรือ ร้อยละ 76 คณะผู้วิจัยขอนำเสนอแนวทางการยกระดับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานทรัพยากรท้องถิ่นด้วย BCG Model สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงของชุมชนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ดังนี้ 1) แนวทางการสร้างฐานข้อมูลพรรณไม้เพื่อให้ความรู้ และยกระดับการสื่อความหมายของแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานทรัพยากรท้องถิ่นด้วย G-Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว ให้เป็นการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงธรรมชาติตามแนวเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้มีความยั่งยืน 2) แนวทางการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ใช้พื้นฐานของสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม ทางธรรมชาติร่วมกับความคิดสร้างสรรค์ หรือเทคโนโลยี ในการสร้างสรรค์สินค้าและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ ตามแนว C-Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวจะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ 3) แนวทางการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและเข้ามามีอิทธิพลต่อกระบวนการดำเนินกิจกรรมในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของชุมชนตามแนว C-Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเสมอภาค

References

กรมการท่องเที่ยว. (2557). คู่มือการตรวจประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก: https://shorturl.asia/xcrNw [2566, 10 มิถุนายน].

กรมป่าไม้. (2535). การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: โครงการสำรวจวางแผนแม่บทป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้.

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔). เข้าถึงได้จาก: https://shorturl.asia/4sOd6 [2566, 10 มิถุนายน].

กวี วรกวิน, พิพัฒน์ นวลอนันต์ และพิเศษ เสนาวงษ์. (2546). ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทย.กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.337).

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2552). แผนวิสาหกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2557-2559 (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: http://tourismlibrary.tat.or.th/medias/T24958.pdf [2566, 15 มิถุนายน].

คู่หูเดินทาง. (2557). The innovative and sustainable of Thailand touring (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://mai18phatthra.wordpress.com [2563, 25 มกราคม].

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี:สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.

ผู้พิทักษ์ป่าไทย. (2553). ผู้พิทักษ์ป่าไทย แค่คนเฝ้าป่าคนหนึ่ง (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: http://www.thairanger.com/interpretation [2563, 25 มกราคม].

พยอม ธรรมบุตร. (2549). หลักการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์. กรุงเทพฯ: สถาบันพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

รัตนา ลักขณาวรกุล. (2554). คู่มืออุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 14: การจัดการถ้ำ เพื่อการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ส่วนนันทนาการและสื่อความหมาย. กรุงเทพฯ: สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.

วลัยพร ริ้วตระกูลไพบูลย์. (2557). พฤติกรรมนักท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

วันเพ็ญ พุทธานนท์. (2559). ไทยโดดเด่นในเอเชีย ก้าวสู่ดิจิทัลด้านท่องเที่ยว (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:

https://www.posttoday.com/it/445453 [2566, 10 มิถุนายน].

สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2557). คู่มือมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://naturalsite.onep.go.th/images/meaning/plans/036/คู่มือมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติประเภทภูเขา.pdf [2563, 28 มกราคม].

สุภางค์ จันทวานิช. (2549). การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุภางค์ จันทวานิช. (2553). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 17). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุวิทย์ เมษินทรีย์. (2564). โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:

https://www.bcg.in.th/data-center/articles/bcg-by-nstda/ [2564, 18 กรกฏาคม].

อรอนงค์ เฉียบแหลม, นภวรรณ ฐานะกาญจน์, เสรี เวชชบุษกร และสุวิทย์ แสงทองพราว. (2547). การวิเคราะห์สังคมพืชเพื่อออกแบบการสื่อความหมายธรรมชาติ บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่. วารสารวนศาสตร์ไทย, 23(1), หน้า 60-73.

เอื้อมพร หลินเจริญ. (2555). เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ. วารสารการวัดผลการศึกษา, 17(1), หน้า 17-29.

Flick, U. (1998). An introduction to qualitative research. London: Sage Publications.

Freeman, T. (1977). Interpreting Our Heritage. Chapel Hill: The University of North Carolina Press.

Matichon Online. (2022). 10 อันดับข่าวมลพิษ ในประเทศไทย ปี 2562 (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:

https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_1848749 [2023, June 15].

McMillan, J. H., & Schumacher, S. S. (1997). Research in Education: A Conceptual Introduction. NY: Longman.

Miles, M. B., & Huberman, M. A. (1994). Qualitative Data Analysis (Online). Available: https://vivauniversity.files.wordpress.com/2013/11/milesandhuberman1994.pdf[2566, June 10].

Nastasi, B. K., & Schensul, S. L. (2005). Contributions of qualitative research to the validity of

intervention research. Journal of school psychology, 43(3), pp. 177-195.

Onwuegbuzie, A. J., & Leech, N. L. (2007). Validity and qualitative research: An oxymoron?.

Quality & quantity, 41, pp. 233-249.

Santisuk, T., Chayamarit, K., Pooma, R. & Suddee, S. (2006). Thailand Red Data : Plants (Online). Available: http://chm.onep.go.th/doc/Publication/ONEP17/ONEP_V17.pdf[2566, June 10].

UNWTO. (2019). Tourism towards 2030 Global Overview. Madrid, Spain: world Tourism Organization.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-12-31