การสนับสนุนทางสังคม กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการสนับสนุนทางสังคม กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ที่แตกต่างกัน 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างการสนับสนุนทางสังคม กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทโดยใช้แนวคิดทฤษฎีการส่งเสริมสุขภาพของ Pender 1996 โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท จำนวน 305 คน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ t-test, F-test เปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ โดยใช้วิธี LSD และวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน โดยกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติไว้ที่ระดับ .01 และ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1) การสนับสนุนทางสังคม กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท อยู่ในระดับปานกลาง 2) ปัจจัยส่วนบุคคลไม่มีผลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ 3) การสนับสนุนทางสังคม มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิจัยนี้ แสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนทางสังคม ในด้านต่าง ๆ มีผลกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ จึงเห็นควรมีการสนับสนุนทางสังคมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บุคคลมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ นายเรืออากาศ
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนนายเรืออากาศฯ และคณาจารย์ท่านอื่น ๆในโรงเรียนนายเรืออากาศฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบขององค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่เพียงผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560 – 2564.กรุงเทพมหานคร, สำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ,2560. รายงานเรื่องสถานการณ์ NCDs [Online] www.thaihealth.or.th., 5 มีนาคม 2560.
Cobb,S 1976. “Social Support as a Moderator of Lif Life Stress.” Psychosomatic Medicine. (September – October): 300-313.
Pender, N.J.Murdaugh, C.L. & Parsons, M.A. (2002) : Health Promotion in Nursing Practice.4th(ed). New Jersey : Pearson Education. Inc. [Online]:https://www.gotoknow.org/posts/273962
Houses, J.S. 1981. Work stress and social support. California: Addison-Wesley Publising Company.
สุรพงศ์ คล้ายเกตุ, 2550. ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของนักศึกษาวิทยาลัย อาชีวศึกษา ในจังหวัดสระบุรี.กรุงเทพมหานคร:วิทยานิพนธ์ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Kahn, R. (1979). Aging and social support. In M.W. Riley (Ed.), Aging from birth to death: Interdisciplinary perspectives (pp. 189-199). Denver, CO: WestviewPress.
Pender, N. J. et al.1987. Health Promotion in Nursing Practice. 2nd ed. New York: Appleton & Lange.
เกษรา ชัยรังสีเลิศ, 2547. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การสนับสนุนทางสังคม ทัศนคติต่องาน และภาวะผู้นำกับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การ. กรุงเทพมหานคร: วิทยานิพนธ์ วท.ม.(จิตวิทยาอุตสาหกรรม). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.