ปรัชญาแนวคิดเชิงเศรษฐศาสตร์การเมืองกับการกำกับดูแลผังรายการและเนื้อหารายการ
บทคัดย่อ
คนส่วนใหญ่มักจะแสดงความคิด ความเห็น หรือความเชื่อต่อปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไปตามความเคยชินจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ในอดีต ประสบการณ์เหล่านี้อาจเกิดจากการเลี้ยงดูในครอบครัว การเรียนในระบบโรงเรียน การเรียนรู้จากการใช้ชีวิตประจำวัน รวมตลอดถึงการศึกษาจากแหล่งความรู้ต่างๆทั้งในและนอกระบบสถาบันการศึกษา ซึ่งมีน้อยคนนักที่ตระหนักว่าความคิดความเห็น และความเชื่อของตนที่มีต่อเรื่องราวต่างๆ นั้นมักจะมีกรอบคิด หรือทฤษฎีอยู่เบื้องหลังเสมอ ดังนั้น ในปรากฏการณ์หนึ่งๆคนเราจึงมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เช่นเมื่อมีการตั้งคำถามว่าทำไมคนส่วนใหญ่ในประเทศด้อยพัฒนาประเทศหนึ่งจึงมีฐานะยากจน หากตอบแบบอิงทฤษฎีแบบไม่ต้องโต้แย้งคำถาม คำตอบก็อาจจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหน่วยในการวิเคราะห์ กล่าวคือ กลุ่มที่มองตัวบุคคลเป็นหน่วยในการวิเคราะห์ก็จะบอกว่า เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ขี้เกียจ ฟุ่มเฟือย มีพฤติกรรมเฉื่อยชาล้าหลัง ไม่เอื้อต่อการพัฒนา ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็จะบอกว่าเป็นเพราะระบบหรือกลไกการจัดการในสังคมมีปัญหา เช่นนักการเมืองโกงเพราะรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายไม่ดี เศรษฐกิจแย่เพราะผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ ขาดนโยบายและทักษะการจัดการ การแก้ไขปัญหาจึงมุ่งไปที่การปรับปรุงปฏิรูประบบต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง ก็จะมองข้ามปัจจัยด้านตัวบุคคลและระบบการจัดการ ไปให้ความสำคัญกับโครงสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เป็นโครงสร้างหลักของสังคมนั้น โดยเห็นว่าสาเหตุหลักของปัญหาความยากจนมาจากโครงสร้างอำนาจที่รวมศูนย์ผูกขาดการเมืองและเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรด้านต่างๆ ดังนั้น แม้ว่าจะขยันเก็บออมมากเพียงไหน รายได้ก็ยังไม่พอค่าใช้จ่าย แปลว่าถึงจะทำงานหนักแต่ก็ยังยากจนอยู่ดี ในทางวิชาการเรียกที่มาของชุดคำอธิบายที่แตกต่างกันนี้ว่า ทฤษฎีหรือกรอบแนวคิด นั่นหมายความว่า ทฤษฎีที่ต่างกัน คำอธิบายก็ย่อมต่างกัน การให้ความเห็นต่อประเด็นทางสังคมจึงขึ้นอยู่กับเหตุผลและมุมมอง อาศัยบริบท ณ ช่วงเวลานั้นๆมาพิจารณาประกอบ และเป็นการยากที่จะมีคำตอบแบบสำเร็จรูป ตายตัว
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ปรากฏในวารสารกิจการสื่อสารดิจิทัล เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงาน กสทช. ซึ่งสำนักงาน กสทช. เปิดโอกาสให้สาธารณะหรือบุคคลทั่วไปสามารถนำผลงานไปเผยแพร่ คัดลอก หรือตีพิมพ์ซ้ำได้ ภายใต้สัญญาอนุญาตแบบเปิด (Creative Commons: CC) โดยมีเงื่อนไขสำหรับผู้ที่นำผลงานไปใช้ต้องระบุอ้างอิงแหล่งที่มา (Attribution: BY) ห้ามดัดแปลง (NoDerivatives: ND) และต้องไม่ใช้เพื่อการค้า (NonCommercial: NC) เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสำนักงาน กสทช.
อนึ่ง ข้อความ ตาราง และภาพที่ปรากฏในบทความซึ่งได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์และเผยแพร่ในวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้นิพนธ์ โดยไม่ผูกพันต่อ กสทช. และสำนักงาน กสทช. หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้นิพนธ์แต่ละท่านต้องรับผิดชอบบทความของตนเองแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับ กสทช. และสำนักงาน กสทช. แต่ประการใด