ดาวเทียมไทย จะไปทางไหน ?
บทคัดย่อ
ดาวเทียมเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการในระดับนานาชาติโดยมีแนวทางหรือกฎข้อบังคับในการส่งดาวเทียมที่กำหนดโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ที่ชัดเจน แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ทุกประเทศสมาชิกต้องร่วมรับรู้หรือมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมใหญ่ระดับโลกว่าด้วยวิทยุคมนาคม หรือ World Radio communication Conference (WRC) ที่ ITU จะบรรจุวาระเรื่องนี้โดยตลอด ซึ่งประเทศไทย โดย กสทช. ได้เข้าร่วมและติดตามมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับกฎข้อบังคับในการส่งดาวเทียมภายในประเทศนั้น เป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ โดยผ่านทางหน่วยงานอำนวยการ (Administration) แต่ละประเทศ ซึ่งเดิมดาวเทียมไทยโดยเฉพาะในส่วนของดาวเทียมสื่อสารนั้น เป็นการดำเนินการภายใต้สัญญาสัมปทานที่มีการคุ้มครอง ทำให้ไม่สามารถเปิดตลาดให้มีการแข่งขันจากผู้ประกอบการอื่นได้ แต่หลังจากที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 60 ได้บัญญัติให้ “รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติ” ทำให้มีการแก้ไขกฎหมายที่ให้ กสทช. ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการดาวเทียม ส่งผลให้ต้องมีการจัดทำแผนบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมของประเทศ และกำหนด หลักเกณฑ์วิธีการในการอนุญาตที่โปร่งใส ชัดเจน
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ปรากฏในวารสารกิจการสื่อสารดิจิทัล เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงาน กสทช. ซึ่งสำนักงาน กสทช. เปิดโอกาสให้สาธารณะหรือบุคคลทั่วไปสามารถนำผลงานไปเผยแพร่ คัดลอก หรือตีพิมพ์ซ้ำได้ ภายใต้สัญญาอนุญาตแบบเปิด (Creative Commons: CC) โดยมีเงื่อนไขสำหรับผู้ที่นำผลงานไปใช้ต้องระบุอ้างอิงแหล่งที่มา (Attribution: BY) ห้ามดัดแปลง (NoDerivatives: ND) และต้องไม่ใช้เพื่อการค้า (NonCommercial: NC) เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสำนักงาน กสทช.
อนึ่ง ข้อความ ตาราง และภาพที่ปรากฏในบทความซึ่งได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์และเผยแพร่ในวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้นิพนธ์ โดยไม่ผูกพันต่อ กสทช. และสำนักงาน กสทช. หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้นิพนธ์แต่ละท่านต้องรับผิดชอบบทความของตนเองแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับ กสทช. และสำนักงาน กสทช. แต่ประการใด