การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับผู้เรียนชาวไทย

Main Article Content

ธรรศนันต์ อุนนะนันทน์
อุดมลักษม์ กูลศรีโรจน์
สิทธิกร สุมาลี

Abstract

This research study attempted to synthesize research studies, create an instructional model to better communicative English skills from the research synthesis, and investigate the results of implementing the instructional model for Thai learners. The target population was 1) 173 graduate research studies on communicative English skill development of the top five Thai universities in the 2015 QS World Ranking in the field of education and 2) one English teacher in the primary, the lower secondary, the upper secondary and the tertiary levels each and 27 primary level students, 23 lower secondary level students, 37 upper secondary level students and 25 tertiary level students.


The results were 1) 173 research studies met the evaluation criteria. The numbers of the studies conducted at the primary, lower secondary, upper secondary/ vocational certificate and undergraduate/ high vocational certificate levels was 36, 41, 49 and 47, respectively. The results of the synthesis with content analysis were seven categories representing the structure of the instructional model; these were Preparation, Lead-in, Activation, Development, Solidification, Evaluation and Revision. The instructional methods in each category were grouped into themes which formed a spectrum composed of instructional and learning management, psychological strategy implementation, language teaching, communication strategy teaching, integrative development between cognitive and communicative skills, and explicit performance support. Therefore, the instructional model comprised seven stages. The stages were defined as follows: (1) Preparation was arranging activities, content and the learning environment (2) Lead-in was giving knowledge, arousing interest, and setting rules for learning and activities, (3) Activation was teaching language knowledge and strategies together with thinking skills or working skills, (4) Development was teaching language knowledge together with higher order thinking skills and transferring the practice to learners or assigning them to perform language and higher order thinking tasks themselves, (5) Solidification was assigning learners to perform language and higher order thinking tasks themselves and assessing themselves as well as further language teaching to correct errors, (6) Evaluation was assessing learners’ progress or judging overall quality and (7) Revision was assigning more situations or activities for practice. Also, the themes together with the methods led to the underlined principles which were the communicative approach, active learning, scaffolding and learning assessment 2) the learning achievement of the students of each level ranged from 69 to 91.20 percent and was rated as average to very good and the variation was dependent on their learning behavior and attitudes and 3) the conclusion from the teachers’ opinions depicted the model’s performance focused and activities was a good contribution to improvement of real-life communication skill and higher order thinking.

Article Details

Section
Research Articles

References

กนิษฐา บุญประคอง, กฤติยาณี เหล่าสายเชื้อ, วราพรรณ อภิศุภะโชค และศิริพร เลิศไพศาลวงศ์. (2561). พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของนักวิจัยโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดาริ. วารสารมนุษยศาสตร์, 25(1), 371-390.
กุลธิดา คนเสงี่ยม. (2557). การศึกษาผลสัมฤทธิ์การเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบ การสอนซิปปาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดพรหมเพชร. วารสารสุทธิปริทัศน์, 28(87), 237-251.

จิราภรณ์ วิญญกูล. (2558). การใช้กิจกรรมกำรเล่านิทานภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง-พูดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ม่า (การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองมหาบัณฑิต สาขาภาษาอังกฤษ). มหาวิทยาลัยพะเยา, พะเยา.

ฉวีวรรณ ดวงมณี. (2553). ผลการใช้กิจกรรมจับคู่บันทึกเทปเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

ชัยวัฒน์ บวรวัฒน์เศรษฐ์. (2559). ยุทธศาสตร์การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเสริมต่อการเรียนรู้. วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, 3(2): 154-179.

ณภัทร ทิพธนามาศ, สมมาตร์ ผลเกิด และสุรชัย ปิยานุกูล. (2556). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีสอนแบบ SQ4R สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 25(1), 61-68.

ทิศนา แขมมณี. (2560). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 21). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธนรัตน์ แต้วัฒนา, สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ และธีรพงษ์ วิริยานนท์. (2555). ทฤษฎีการช่วยเสริมศักยภาพการเรียนรู้สำหรับการสนับสนุนผู้เรียนในการเรียนรู้ออนไลน์.

วารสารวิชาการอุตสาหกรรมศึกษา, 6(1), 1-11.

นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). การวิเคราะห์อภิมาน Mata-Analysis. กรุงเทพฯ: นิชินแอดเวอร์ไทซิ่ง กรุ๊ฟ.

นิภา กู้พงษ์ศักดิ์. (2557). กลยุทธ์การสอนงานเพื่อเสริมทักษะการอ่านและการเขียนของเด็กที่มีความบกพร่องด้านการเรียนรู้. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 5(ฉบับพิเศษ), 223-225.

บุญชม ศรีสะอาด. (ม.ป.ป.). การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2558 จาก https://www.watpon.com/boonchom/development.pdf.

เบญจา ยอดดำเนิน-แอ็ตติกจ์ และ กาญจนา ตั้งชลทิพย์. (2552). การวิเคราะห์ข้อมูล เชิงคุณภาพ: การจัดการข้อมูล การตีความและการหาความหมาย. กรุงเทพฯ: ชีโน พับบลิชชิ่ง.

ปิญาดา ฤกษ์อนันต์. (2555). การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา, 4(7), 57-70.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2543). การสังเคราะห์งานวิจัยทางด้านหลักสูตร (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

รุ่งทวี พรรณา. (2554). เว็บฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวด้วยเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสำร สำหรับยุวมัคคุเทศก์ โรงเรียนอุ้มผำงวิทยาคม จังหวัดตำก (สารนิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา). มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก.

แรกขวัญ นามสว่าง, ธีวุฒิ เอกะกุล และศิริพันธุ์ ศรีวันยงค์. (2558). การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสาหรับนักเรียน ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการอ่านในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2-3. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์, 16(1), 124-235.

วีระศักดิ์ สุวรรณไตร, เพลินพิศ ธรรมรัตน์ และฤทัยทรัพย์ ดอกคำ. (2557). ผลการใช้ชุดฝึกการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกซ์ที่ส่งผลต่อความพึงพอใจความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารบัณฑิตศึกษำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 11(53), 53-64.

ศุภนิจ ศรีรักษ์. (2555). พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศเพื่อการทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. กรุงเทพฯ: สานักบรรณสาร การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

ศุภลักษณ์ วัฒนาเฉลิมยศ. (2554). การพัฒนานิทานมัลติมีเดียเพื่อเสริมการอ่านภาษาอังกฤษด้วยตนเองที่มีการให้ความหมายของคำศัพท์ 3 รูปแบบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 (ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.

สุพัฒน์ สุกมลสันต์. (2535). การอภิวิเคราะห์และการสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระหว่างปี พ.ศ. 2515- 2530. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

หริศักดิ์ พลตรี. (2558). ผลการใช้บทเรียนภาษาอังกฤษที่เน้นภาระงานและสาระท้องถิ่นต่อความสามารถการฟัง-พูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนน้ำเกลี้ยงวิทยำ (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

เหมือนฝัน พิจารณ์, เพ็ญพิศุทธิ์ ใจสนิท และผาสุข บุญธรรม. (2558). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษจับใจความและการเขียนสรุปความ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM Model ร่วมกับการเขียนผังมโนทัศน์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารบัณฑิตศึกษำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 8(7), 19-28.

อรวรรณ นิ่มตลุง. (2552). การศึกษาแบบเรียนรวม : หนทางนำไปสู่การศึกษาเพื่อปวงชน.
วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 1(2), 40-54.

ฮาสีด๊ะ ดีนามอ. (2553). การศึกษาความสามารถในกำรฟัง-พูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีการสอนเพื่อการสื่อสารตามแนวคิดของคีธ จอห์นสัน (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน). มหาวิทยาลัยทักษิณ, สงขลา.

Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. Retrieved January 1, 2018, from https://files.eric.ed.gov/fulltext/ED336049.pdf.

Bruton, A. (2005). Task-based Language Teaching: For the State Secondary FL Classroom?. Language Learning Journal, 31(1), 55-68.

Cooper, H. M. (1998). Synthesizing Research: A Guide for Literature Reviews (3rd ed.). Thousand Oaks, CA: Sage Publication.

Cornwall, T. B., & Srilapung, V. (2013). Senior Flight Attendants’ English Communication Needs: A Case Study of Thai Airways International. US-China Foreign Language, 11(4), 286-291.

Earl, L., & Katz, S. (2006). Rethinking Classroom Assessment with Purpose in Mind. Manitoba: Western Northern Canadian Protocol.

Ellis, R. (2003). Task-Based Language Learning and Teaching. Oxford: Oxford University Press.

Joyce, B. R., & Weil, M. (2009). Models of Teaching (8th ed.). New Jersey: Prentice-Hall.

Kabilan, M. K. (2000). Creative and Critical Thinking in Language Classroom.
Internet TESL Journal. 4(6), 1-6.

Miller, G. E. (1990). The Assessment of Clinical Skills/ Competence/ Performance. Academic Medicine. 65(9), 63-67.

Mitchell, A., Petter, S., & Harris, A. L. (2017). Learning by Doing: Twenty Successful Active Learning Exercises for Information Systems Courses. Journal of Information Technology Education: Innovations in Practice. 16(1), 21-26.

Ngersawat, S. & Kirkpatrick, R. (2014). An Investigation of ACT Students’ English Language Problems and Their Learning Strategies in Grade 10 Bilingual Program. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 98, 1356-1365.

Nguyen, H. T. & Tran, N. M. (2015). Factors Affecting Students’ Speaking Performance at Le Thanh Hien High School. Asian Journal of Educational Research, 3(2), 8-23.

Nimnuch, S. (2011). English Communication Problems Influencing Thai People to Take English Courses at Language Institutions (Master’s thesis). Thammasat University, Bangkok.

Rajprasit, K., Pratoomrat, P., Wang, T., Kulsiri, S., & Hemchua, S. (2014). Use of the English Language Prior to and During Employment: Experiences and Needs of Thai Novice Engineers. Global Journal of Engineering Education, 16(1), 27-33.

Raymond, E. (2000). Cognitive Characteristics. Learners with Mild Disabilities. Needham Heights, MA: Allyn & Bacon, A Pearson Education Company.

Richards, J. C. (2006). Communicative Language Teaching Today. Cambridge: Cambridge University Press.

Saylor, J. G., Alexander, W. M., & Lewis, A. J. (1981). Curriculum Planning for Better Teaching and Learning. New York: Holt, Rinehart & Winston.

Shirkhani, S. & Fahim, M. (2011). Enhancing Critical Thinking in Foreign Language Learners. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 29, 111-115.

Stuyf, R. R. V. D. (2002). Scaffolding as a Teaching Strategy. Retrieved November 30, 2017, from https://workplacesafety.pbworks.com/f/Scaffold%20Learning.doc.

Ur, P. (1996). A Course in Language Teaching: Practice and Theory. Cambridge: Cambridge University Press.

Vygotsky, L. S. (1978). Mind in Society: The Development of Higher Psychological Processes. Cambridge: Harvard University Press.

Willis, J. (1996). A Framework for Task-based Learning. Harlow: Longman.

Zavala, B. (2012). Presentation, Practice and Production Versus Task Based Learning Using From Focused Tasks. Retrieved December 31, 2017, from https://pirhua.udep.edu.pe/bitstream/handle/11042/1801/MAE_EDUC_095.pdf?sequence=1.