พฤติกรรมการเปิดรับสื่อและภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่นในการรับรู้ของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

Main Article Content

จิณณพัต ตั้งดวงมานิตย์
เนตรชนก บัวนาค

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับสื่อของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 2) เพื่อศึกษาภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่นในการรับรู้ของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 3) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการเปิดรับสื่อที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่นจำแนกตามลักษณะประชากรและ 4) เพื่อเปรียบเทียบภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่นในการรับรู้ของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามลักษณะประชากร


กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18-60 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จำนวน 90 ชุมชน จำนวนประชากรรวมทั้งสิ้น 12,251 คน โดยผู้วิจัยได้คัดเลือกชุมชนที่มีประชากรชุมชนละ 2,000 คนขึ้นไป เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีสัดส่วนจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมาก ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 4 ชุมชน กลุ่มตัวอย่าง ดังกล่าว จะใช้สูตรในการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของทาโร่ ยามาเน จะได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 388 คน จึงเพิ่มขนาดกลุ่มตัวอย่างเป็น 400 คนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเครื่องมือในการวิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูลคือค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบการเปรียบเทียบด้วยค่า t-Test และ F-Test และการทดสอบความแตกต่างแบบรายคู่ด้วยวิธีการ Least Significant Difference (LSD)


ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการเปิดรับสื่อเกี่ยวกับภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่น โดยอันดับ 1 คือ สื่อบุคคล (X̄ = 3.17, S.D. = 1.19) อันดับ 2 คือ สื่อเฉพาะกิจ (X̄ = 2.52, S.D. = 1.61) และอันดับ 3 คือ สื่อมวลชนท้องถิ่น (X̄ = 2.49, S.D. = 1.24) และภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่นในการรับรู้ของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ประชาชนมีการรับรู้อันดับ 1 คือ ภาพลักษณ์ด้านบุคลิกภาพ (X̄ = 2.10, S.D. = 0.53) อันดับ 2 ภาพลักษณ์ด้านผลงาน/การบริหารงาน (X̄ = 2.06, S.D. = 0.56) และอันดับ 3 ด้านการมีมนุษยสัมพันธ์ (X̄ = 2.03, S.D. = 0.53)


การเปรียบเทียบพฤติกรรมการเปิดรับของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ด้านสื่อบุคคล สื่อมวลชนท้องถิ่น สื่อเฉพาะกิจ และสื่อใหม่ เมื่อพิจารณารายข้อแล้ว พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และการเปรียบเทียบภาพลักษณ์นักการเมืองท้องถิ่นในการรับรู้ของประชาชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อพิจารณารายข้อแล้วพบว่า มีความแตกต่า งกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากผลการวิจัย พรรคการเมืองหรือนักการเมือง สามารถนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในการแก้ไขและพัฒนาภาพลักษณ์ของนักการเมืองเพื่อให้มีคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กัลยา วาณิชบัญชา. (2552). สถิติสำหรับงานวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กาญจนา แก้วเทพ. (2547). ทฤษฎีและแนวทางการสื่อสารมวลชน. กรุงเทพฯ : ไฮเออร์เพรส.

กิติมา สุรสนธิ. (2548). ความรู้ทางการสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เขมพัฒน์ ปัญญาเปียง. (2551). พฤติกรรมการเปิดรับสื่อมวลชนของเจเนอเรชั่นบีในอำเภอเมืองจังหวัด เชียงใหม่. (การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).

ครรชิต เหมะรักษ์. (2550). คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในทรรศนะของประชาชนในเขต อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา. (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น).

ชัชวาล ภูคะหุตา. (2559). 12 ต้นแบบลักษณะ บุคลิกแบรนด์ที่สร้างคุณค่า. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิหาคม 2561. จาก https://brandchatz.com/2016/07/23/

ชุลีกร บำรุงผล. (2556). ความรู้และการรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์ด้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี. (ปัญหาพิเศษรัฐ ประศาสนศาสตร มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา).

ชูศักดิ์ เพรสคอทท์ และ สินี กิตติชนม์วรกุล. (2557). การเปิดรับข้อมูลข่าวสารและอิทธิพลของสื่อต่อ แนวความคิดทางการเมืองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตของ สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดสงขลา. (สาขาโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่)

ดวงฤทัย พงศ์ไพฑูรย์. (2544). การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ และทัศนคติเกี่ยวกับเพศศึกษาของวัยรุ่นในเขต กรุงเทพมหานคร, กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทิม ติ้งสมชัยศิลป์. (2553). พฤติกรรมการเปิดรับสื่อโฆษณาบริเวณสถานีและขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส. (มหาวิทยาลัยกรุงเทพ). เทศบาลนครนครราชสีมา. (2560). ข้อมูลพื้นฐานเทศบาลนคร นครราชสีมา. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561, จาก http://www.koratcity.go.th/page/basic- data. ธาชินี มณีรัตน์. (2556). ความต้องการข้อมูลข่าวสาร พฤติกรรมการเปิดรับสื่อ ความรู้ ทัศนคติ และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักเรียนมัธยมศึกษาในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวารสารศาสตร์มหาบัญฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).

ธวัลกร บุญศรี.(2556). สื่อที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง: กรณีศึกษา การเข้าร่วมชุมชุมนุมทางการเมืองเวทีราชดำเนินในปี 2556 (ค้นคว้าอิสระนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ).

ธาชินี มณีรัตน์. (2556). ความต้องการข้อมูลข่าวสาร พฤติกรรมการเปิดรับสื่อ ความรู้ ทัศนคติ และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักเรียนมัธยมศึกษาในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสื่อสารองค์กร). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.

นพวรรณ โสภี. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ข่าวสารประชาสัมพันธ์กับการรับรู้ภาพลักษณ์ของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม. (การค้นคว้าอิสระ สาขาวิชาการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน บัณฑิต

วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร).

เนตรชนก คงทน. (2560). การสร้างภาพลักษณ์ทางการเมือง (พิมพ์ครั้งที่ 1) [เอกสารอัดสำเนา]. นครราชสีมา : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.

บุญชม ศรีสะอ้าน. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพ: สุรีวิยาสาส์น.

ปรมะ สตะเวทิน. (2539). การสื่อสารมวลชน: กระบวนการและทฤษฎี. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์

พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริิญ. (2558). เมืองยะลา กัับแนวคิดการจััดการเมืือง. สืืบค้นเมื่อวัันที่ 13 ธันวาคม 2561, จาก https://www.slideshare.net/FURD_RSU/ss-48367609.

พรทิพย์ พิมลสินธุ์. (2551). การวิจัยเพื่อการประชาสัมพันธ์. กรุงเทพ : โฟร์พริ้นท์ติ้ง.

มนัญชนก สุรชัยกุลวัฒนา. (2557). รูปแบบการสื่อสารเพื่อการสร้างภาพลักษณ์ของผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐม. วารสารอิิเล็็กทรอนิิกส์การเรีียนรู้ทางไกลเชิิงนวััตกรรม, 4(1), 36-46.

เมษิยา ญาณจินดา. (2558). การรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์กับทัศนคติ และพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในเขต กรุงเทพมหานคร. ประชุมวิชาการ ระดับชาติ ประจำปี 2558 คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ หัวข้อ “นวัตกรรมนิเทศศาสตร์และการจัดการ”, 2, น. 62-77

ยุบล เบ็ญจรงค์กิจ.(2534). การวิเคราะห์ผู้รับสาร. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะนิเทศศาสตร์.

รติมา ศารทะประภา. (2557). การตลาดเพื่อการเมือง: การเลือกตั้งเพื่อชัยชนะ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561, จาก http://www.parliament.go.th/library.

ลฎาภา ทำคี. (2552). การรับรู้ภาพลักษณ์ของประชาชนที่มีต่อองค์การบริหารส่วนตำบลจำป่าหวาย อำเภอ เมือง จังหวัดพะเยา. (รายงานการศึกษาอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย).

วรวิทย์ ประพรม. (2554). การสรา้งภาพลักษณ์ด้วยการกำหนดบุคลิกภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผ่านเฟสบุ๊ค (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศ). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.

วินัย ศิริรัตน์. (2552). การรับรู้ภาพลักษณ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลลาดขวาง อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัด ฉะเชิงเทรา. (รายงานการศึกษาอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง ท้องถิ่น วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น).

วิเลิศ ภูริวัชร. (2555). การตลาดการเมือง : ข้อคิดผู้นำ(เก่า)คนใหม่. หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ วันที่ 4 มกราคม 2561), http://library.acc.chula.ac.th/PageController.php.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2560, 1 มีนาคม). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่สิบสองพ.ศ. 2560-2564. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 จาก

http://www.nesdb.go.th/download/ plan12/.สิงห์ สิงห์ขจร. (2556). พฤติกรรมการเปิดรับข่าวสารการเมืองจากสื่อมวลชนและการมีส่วนร่วมทางการเมือง ของประชาชน กรณีศึกษา จังหวัดเชียงราย. วารสารวิชาการ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 3(2), น. 121-135

สิงห์ สิงห์ขจร. (2556). พฤติกรรมการเปิดรับข่าวสารการเมืองจากสื่อมวลชนและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน กรณีศึกษา จังหวัดเชียงราย. วารสารวิิชาการ สถาบัันวิิจััยและพััฒนา มหาวิิทยาลััยสุุโขทั ัยธรรมาธิิราช, 3(2), น. 121-135.

สุกฤตา แก้วพะเนา. (2560). การศึกษาอิทธิพลของภาพลักษณ์เทศบาลตำบลบ้านใหม่ที่มีต่อเจตคติในการชำระภาษีของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา (ภาคนิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, นครราชสีมา.

สุชา จันทร์เอม. (2544). จิตวิทยาทั่วไป. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.

สุภวัฒน์ สงวนงาม. (2557). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกรับชมรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ของ ผู้ชมในเขตกรุงเทพมหานคร. (การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเนชั่น).

เสรี วงษ์มณฑา. (2550). BRANDING นักการเมือง. กรุงเทพฯ : ฐานบุ๊ค.

เหมือนตะวัน สุทธิวิริวรรณ. (2559). การเปิดรับความรู้ทัศนคติและพฤติกรรมของผู้ชมรายการต่อดิจิทัลทีวีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (วิทยานิพนธ์วารสารศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารสื่อสารมวลชน, คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).

อภิิสิิทธิ์ ฉััตรทนานนท์ และจิิระเสกข์ ตรีีเมธสุุนทร. (2548). การบริิหารภาพลัักษณ์บริิษััท. วารสารพััฒนบริิหารศาสตร์์, 45(2), น. 127-149.

อัศว์ศิริ ลาปิอี. (2556). ภาพลักษณ์นักการเมืองกับพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน ในระดับท้องถิ่นศึกษากรณีีการเลืือกตั้งนายกเทศมนตรีีเทศบาลเมืืองควนลััง จัังหวััดสงขลา. วารสารวิิทยบริิการ, 24(1), น. 187-199.

อำนวย วีรวรรณ. (กันยายน 2527). การแก้วิกฤตการณ์และสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2561, จากhttp://info.gotomanager.com/news/printnews.aspx?id=32640

อิทธิเดช สุพงษ์. (2553). การสื่อสารเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสื่อสารองค์กร). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.

Cwalina, Wojciech, Falkowski, Andrzej, Kaid, Lynda Lee. (2000). Role of Advertising in Forming the Image of Politicians: Comparative Analysis of Poland, France and Germany. Media Psychology. 2000, 2(2), p. 199.

Cwalina, Wojciech, Falkowski, Andrzej. (2016). Journal of Political Marketing Apr-Sep2016, 15(2/3), pp. 220-239.

Evjen, Sunniva. (2015). The image of an institution: Politicians and the urban library project. In Library and Information Science Research January 2015, 37(1), pp. 28-35.

Roets, Arne, Van Hiel, Alain. (2009). The ideal politician: Impact of voters’ ideology. In Personality and Individual Differences, 46(1), pp. 60-65.

Zakrizevska, Maija. (2014). Social Representations of the Politicians about the Ideal Image of a Politician. International Multidisciplinary Scientific Conference on Social Sciences & Arts SGEM, pp. 381-388.