การศึกษาความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ผู้แต่ง

  • นักรบ หมี้แสน วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  • สุธีรา นิมิตรนิวัฒน์ วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  • เชียง เภาชิต วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  • วาสนา วิสฤตาภา วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

คำสำคัญ:

ความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษา, การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน

บทคัดย่อ

             การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  2) เพื่อเปรียบเทียบความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จำแนกตาม เพศ  อายุ  ปีการศึกษาที่เข้า  เกรดเฉลี่ย  3) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  4) เพื่อเสนอแนะแนวทางส่งเสริมความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์   กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 - 2561 รวมจำนวนเท่ากับ   225  คน ใช้การสุ่มตัวอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที t-test F-Test (ANOVA) และวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน

           ผลการวิจัยพบว่า

  1. ระดับความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72
  2. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษา จำแนกตาม เพศ  อายุ  ปีการศึกษาที่เข้า  เกรดเฉลี่ย  พบว่าเพศ อายุ ปีการศึกษาที่เข้า เกรดเฉลี่ย มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน
  3. องค์ประกอบของความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษา พบว่าโมเดลความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์
  4. เสนอแนะแนวทางส่งเสริมความภักดีของผู้สำเร็จการศึกษา พบว่า ในด้านพฤติกรรมด้านความยินดีชื่นชม พบว่าคณาจารย์ทุกท่านทุ่มเทในการสอนอย่างเต็มที่และเนื้อหาความรู้สามารถนำไปใช้ได้จริงในการปฏิบัติการสอน ควรส่งเสริมให้คณาจารย์พัฒนาเทคนิคการสอนใหม่ๆ อยู่เสมอ พฤติกรรมในด้านความรักควรปลูกฝังเรื่องความรักสามัคคี การอยู่ร่วมกันให้มากพอกับรักมหาวิทยาลัย และพฤติกรรมด้านความเชื่อมั่นในชื่อเสียง พบว่า การเรียนในหลักสูตรให้ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการทำงานและการสร้างความมั่นคงทางวิชาชีพในอนาคต ช่วยปูพื้นความรู้สู่การสอบบรรจุรับราชการได้เป็นอย่างดี ในด้านเจตคติ พบว่าเจตคติด้านการปกป้องชื่อเสียงขอให้มหาวิทยาลัยปรับปรุง พัฒนา และรักษาคุณภาพของหลักสูตรให้ดีและตอบโจทย์การประกอบวิชาชีพครูทั้งในปัจจุบันและอนาคต  เจตคติด้านความรู้สึกภาคภูมิใจ พบว่าผู้สำเร็จการศึกษามีความภูมิใจในมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาก เจตคติด้านความผูกพัน พบว่าผู้สำเร็จการศึกษา มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นศิษย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย

References

ณักษ์ กุลิสร์. (2557). ความภักดีของนิสิตปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต : รายงานการวิจัย. กรุงเทพฯ: คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

นฤมล อินทะโส. (2554). การรับรู้ต่อคุณภาพการบริการในโครงการพิเศษหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตและความภักดีของนักศึกษาต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. สารนิพนธ์ (บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ปณิศา มีจินดา. (2553). พฤติกรรมผู้บริโภค. กรุงเทพฯ: ธรรมสาร.

ศิริพร เสริตานนท์. (2551). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจเจตจำนงคงอยู่และความภักดีของนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. ดุษฎีนิพนธ์ (การบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ). กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น.

ศรีสกุล งามบุญแถม. (2561). อิทธิพลของคุณภาพความสัมพันธ์ ภาพลักษณ์มหาวิทยาลัยและคุณภาพบริการที่มีผลต่อความภักดีของนักศึกษาบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง. วิทยานิพนธ์ (บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สุวิมล ติรกานันท์. (2549). การใช้สถิติในงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุนันทิกา ปางจุติ. (2552) กลยุทธ์การสื่อสารเพื่อการสร้างแบรนด์ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา . กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Jacoby, J. ; & Chestnut, R.W. (1978). Brand Loyalty : Measurement and Management. John Wiley: New York.

Taro Yamane.(1973). Statistics: An Introductory Analysis.3rdEd. New York. Harper and RowPublications.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-12-20