ผลิตภัณฑ์ซีเรียลบาร์จากข้าวก่ำล้านนาเสริมงาขี้ม้อน
คำสำคัญ:
ข้าวก่ำล้านนา, งาขี้ม้อน, วัฒนธรรมอาหารพื้นบ้าน, ซีเรียลบาร์, โอเมก้า 3, โอเมก้า 6บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะทางประสาทสัมผัส คุณภาพทางกายภาพ เคมี และจุลชีววิทยาของซีเรียลบาร์จากข้าวก่ำล้านนาเสริมงาขี้ม้อน ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นบ้านของภาคเหนือ โดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างซีเรียลบาร์ที่เสริมงาขี้ม้อนร้อยละ 0 และร้อยละ 10 ผลการวิจัยพบว่าซีเรียลบาร์ที่เสริมงาขี้ม้อนร้อยละ 10 ได้รับคะแนนความชอบทางประสาทสัมผัสสูงสุดในทุกด้าน ได้แก่ สี ความกรอบ กลิ่น รสชาติ และความชอบโดยรวม โดยไม่มีความแตกต่างทางสถิติเมื่อเทียบกับสูตรควบคุม (p>0.05) การเสริมงาขี้ม้อนร้อยละ 10 ส่งผลให้ค่าความสว่าง (L*) สีแดง (a*) และสีเหลือง (b*) ลดลง ปริมาณความชื้นเท่ากับ 7.76±1.13 ซึ่งช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ โดยปริมาณความชื้นต่ำส่งผลให้การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ลดลง นอกจากนี้ การเสริมงาขี้ม้อนยังช่วยเพิ่มปริมาณไขมันในซีเรียลบาร์เป็น 22.67±0.34 โดยไขมันนี้ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ผลการวิเคราะห์ทางจุลชีววิทยา พบว่าผลิตภัณฑ์มีปริมาณจุลินทรีย์และยีสต์ต่ำกว่า 10 CFU/g ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ความปลอดภัยสำหรับการบริโภค ผลการประเมินทางประสาทสัมผัสโดยผู้ทดสอบ 200 คน พบว่า ความชอบในด้านความกรอบได้รับคะแนนสูงสุด (7.81±1.02) ตามด้วยกลิ่น (7.80±1.53) และสี (7.78±1.16) โดยคะแนนความชอบโดยรวมเท่ากับ 7.40±1.74 งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการนำวัตถุดิบท้องถิ่นของภาคเหนืออย่างข้าวก่ำล้านนา และงาขี้ม้อนมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการและยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมอาหารไทยในระดับสากล
เอกสารอ้างอิง
เจริญจิตต์ มณีโชติ. (2562). อาหารพื้นบ้านล้านนาและภูมิปัญญาท้องถิ่น. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ธัญญา ธีรศาสตร์. (2565). น้ำมันงาเจียง เส้นทางใหม่สู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. http://opac.tistr.or.th. [25 ธันวาคม 2565].
นิภาพร กุลณา และคณะ. (2564). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ธัญพืชอัดแท่งที่มีใยอาหารสูงจากข้าวกล้องสินเหล็ก. Dusit Thani College Journal Vol.15 No. 1 January - April 2021.
ไพโรจน์ วิริยจารี. (2561). การประเมินทางประสาทสัมผัส. เชียงใหม่: คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ลัดดาวัลย์ ก้อนแก้ว. (2561). คุณสมบัติทางโภชนาการของข้าวก่ำล้านนา. วารสารโภชนาการและสุขภาพ.
ศิริวรรณ สทธจิตต์. (2550). ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: The Knowledge Center สํานักงานส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร. งาขี้ม้อน. http://www.agriman.doe.go.th. [25 ธันวาคม 2565].
อภิวัน สมบูรณ์ดำรงกุล และคณะ. (2557). การใช้ข้าวสังข์หยดเพื่อผลิตธัญพืชอัดแท่ง. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย.
AOAC. (2000). Official Method of Analysis of the Association of Official Analytical Chemists, Washington, D.C., U.S.A: AOAC.
Bailey, R. (2020). Consumer trends in the functional food market: Opportunities for health-focused innovations. Journal of Food Science and Nutrition, 45(3), 102-115.
Kim, K. H., Lee, H. J., & Kang, D. H. (2017). Perilla seed oil and cardiovascular health: Mechanisms and benefits. Nutrition Journal, 16(1), 37-45.
Laddawan, K., & Kornkaew, P. (2018). Nutritional properties of Lanna black rice. Journal of Nutrition and Health, 34(2), 95-104.
Nipaporn, K., Charoenrat, T., & Wisutthanon, C. (2021). The role of rice processing in improving nutritional content: Case studies in black rice. Journal of Food Science and Technology, 58(4), 476-489.
Pokorny, J., Yanishlieva, N., & Gordon, M. H. (2008). Antioxidants in Food: Practical Applications. Woodhead Publishing.
Shahidi, F., & Zhong, Y. (2010). Lipid oxidation and improving the oxidative stability of food lipids. Chemical Society Reviews, 39(11), 4067-4079.
Siro, I., Kapolna, E., Kapolna, B., & Lugasi, A. (2008). Functional food. Product development, marketing, and consumer acceptance—A review. Appetite, 51(3), 456-467.
Sun, Q., Spiegelman, D., & van Dam, R. M. (2019). Black rice consumption and risk of type 2 diabetes. British Medical Journal, 58(1), 126-132.
Wang, M., Han, J., & Zhao, X. (2018). Perilla: A source of omega-3 fatty acids for human health. Food Chemistry, 253(1), 268-275.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 โรงเรียนการเรือนสวนดุสิต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวัฒนธรรมอาหารไทย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ห้ามผู้ใดนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นอกจากนี้ เนื้อหาที่ปรากฎในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์