การศึกษาเปรียบเทียบโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญแห่ง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
คำสำคัญ:
โครงสร้างและอำนาจหน้าที่, ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี, ศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบทคัดย่อ
บทความวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาแนวคิดหลักความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย 2. เพื่อศึกษาโครงสร้าง ที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 3. เพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบที่มาของตุลาการรัฐธรรมนูญ โครงสร้าง อำนาจ หน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีกับศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ การเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเอกสาร และการวิจัยทีเกี่ยวข้อง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนาเนื้อหาสรุปตามวัตถุประสงค์การวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า 1. องค์กรฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องเคารพต่อหลักความชอบ ด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย ทั้งนี้ ถือหลักการที่ว่ารัฐสภาเป็นองค์กรของผู้แทนปวงชนซึ่งเป็นเจ้าของ อำนาจอธิปไตยย่อมไม่กระทำการขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การที่รัฐสภาตรากฎหมายซึ่งเป็น การกระทำของฝ่ายนิติบัญญัติถือว่าเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนารมณ์ร่วมกันของผู้แทนปวงชน 2. ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผู้ที่มีคุณสมบัติจะเป็นผู้พิพากษาได้ต้อง สำเร็จการศึกษาทางด้านกฎหมายและบุคคลนั้นจะต้องมีอายุ 40 ปี และต้องเป็นนักนิติศาสตร์ที่ ได้รับการฝึกฝนมาอย่างชัดเจน สำหรับราชอาณาจักรไทย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมิได้จำกัดเพียงแค่ต้องจบ การศึกษาทางด้านนิติศาสตร์ เพราะรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้ผู้มีทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารราชการแผ่นดินอย่างแท้จริง 3. อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและ ราชอาณาจักรไทย แตกต่างกันตามสภาพการเมืองแต่ละประเทศ แต่ทำหน้าที่หลักในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีกระบวนการควบคุมความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายก่อนการประกาศใช้และภายหลังการประกาศใช้เช่นเดียวกับของราชอาณาจักรไทย
References
โกเมศ ขวัญเมือง. (2555). กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมืองเปรียบเทียบ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ภูทับเบิก.
ชัยวัฒน์ วงศ์วัฒนศานต์. (2535). “คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ: บทวิเคราะห์” ในรวมบทความทางวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี ศาสตราจารย์ไพโรจน์ ชัยนาม. กรุงเทพฯ: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
นวม สงวนทรัพย์. (2542). สาเหตุความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในอินเดีย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2538). กฎหมายมหาชน เล่ม 3 : ที่มาและนิติวิธี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์นิติธรรม.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 5. (2560, 6 เมษายน). ราชกิจจานุเบกษา. 134 ตอนที่ 40 ก. หน้า 4.
Koopman, T. (2003). Courts and Political Institution, A Compartive Views. Cambridge: Cambridge University Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น